18 พ.ย. 2020 เวลา 15:06 • ท่องเที่ยว
~ M O K O C H U ~
“เราไม่ได้เป็นคนเลือกโมโกจู แต่โมโกจูต่างหากที่เลือกเรา”
ร้อยทั้งร้อย เราคือคนเลือกสถานที่ท่องเที่ยวว่าอยากจะไปที่ไหน แล้วก็ไปตามที่ที่อยากจะไป แต่สำหรับ “โมโกจู” แล้วไม่เป็นเช่นนั้น
มีนักเดินป่าหลายคนที่อยากมาที่นี่ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้มา เพราะการเดินป่าโมโกจูนั้นต้องผ่านการจองที่สุดหินเลยก็ว่าได้ ต้องแข่งขันกันด้วยความเร็วในการกดส่งอีเมลในวันและเวลาที่เปิดรับจองเท่านั้น ช้ากว่ากันเพียงเสี้ยววินาทีนั่นคือ “ชวด” ไปอีกหนึ่งปี
เส้นทางนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ได้แค่ 4 เดือนเท่านั้น (พ.ย - ก.พ) สำหรับปีนี้ทางอุทยานเปิดรับแค่สัปดาห์ละ 2 กลุ่ม กลุ่มละ 12 คน ซึ่งเท่ากับว่าปีนี้รับนักท่องเที่ยวเพียง 240 คน และนี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงแข่งขันกันขนาดนี้
โมโกจู เป็นภาษากระเหรี่ยง แปลว่า “เหมือนฝนกำลังจะตก” ที่ชื่อนี้เพราะยอดเขาโมโกจู มีเมฆหมอกปกคลุม เหมือนฝนกำลังจะตกตลอดเวลา
โมโกจู อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดกำแพงเพชร เป็นเส้นทางเดินป่าระยะไกล ซึ่งมีระยะทางมากกว่า 65 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน 4-5 วัน
ปีที่เราเดิน ทางอุทยานกำหนด 5 วัน เนื่องจากทางขาด รถไม่สามารถไปส่งที่จุดเริ่มเดินได้ ต้องเดินเท้าตั้งแต่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเข้าไป แต่สำหรับปีนี้อุทยานกำหนดเวลาเดินแค่ 4 วัน เพราะมีรถไปส่งในช่วงแรกของเส้นทาง
ระยะเวลา 5 วัน กับการเดินขึ้นเขา และแบกสัมภาระเองนี่ถือว่าหนักหนาสาหัสพอสมควร
เริ่มจาก วันที่ 1 เดินไกลมาก และร้อนมาก ระยะทาง 16 กม. เส้นทางเป็นดินลูกรัง ผ่านเนินแรก “มอขี้แตก” ทางเดินมันชันไม่มาก แต่ชันยาวๆ เป็นกิโล เล่นเอาหมดแรงตั้งแต่ 5 กม. แรกเลยทีเดียว กว่าจะถึงแคมป์แม่กระสา ขาก็แทบก้าวต่อไม่ไหว
1
วันที่ 2 นี่คือ ชิวๆ นิดนึง จากแคมป์แม่กระสา ไปที่แคมป์แม่เรวา ระยะทางแค่ 4 กม. ลัดเลาะไปตามป่าไผ่ ไปถึงจัดแจงที่พัก กินข้าวกลางวัน แล้วไปเดินเล่นที่น้ำตกแม่รีวา ไม่มากมาย ชิวๆ ไปกลับอีก 6 กม. 😅
วันที่ 3 ระยะทาง 9 กม. เดินขึ้นอย่างเดียว ทางราบ ทางลงแทบไม่มี ไต่ระดับจาก 300 เมตรจากระดับน้ำทะเลไปจนถึง 1,900 เมตร แต่เส้นทางจากนี้สวยงามมาก เป็นป่าทึบและบางช่วงมีหมอกขาวๆ ให้ชื่นใจ
มันพีคสุดตรงที่เราพยายามไต่ระดับ มาจนถึง 1,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล แล้วต้องเดินลงดิ่งไปที่คลองสอง จากนั้นไต่ขึ้นมาใหม่ด้วยความชันสุดยอด เอาเป็นว่ามันต้องใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายจริงๆ เพื่อเอาร่างไปให้ถึงแคมป์ตีนดอย
มาถึงแคมป์ตีนดอยบ่ายนิดๆ จัดแจงหาจุดกางเต๊นท์ พักให้หายเหนื่อย แล้วเดินต่อไปที่หินเรือใบ ซึ่งจุดสูงสุดของเขาโมโกจู
วันที่ 4 นี่ก็สุดๆ เช่นกัน ขึ้นมาชันเท่าไหร่ ก็ลงชันเท่านั้น วันนี้ต้องเดินกลับไปที่แคมป์แม่เรวา พักกินข้าวกลางวัน แล้วยิงยาวต่อจนถึงแคมป์แม่กระสา รวมระยะทางวันนี้ 13 กม.
วันที่ 5 เดินเท่าวันแรก (16 กม.) แต่ที่ไม่เหมือนวันแรกคือความสดของร่าง เนื่องจากมันเต็มที่มาแล้ว 4 วัน แล้ววันนี้จะเหลืออะไร
อ่อ ลืมบอกว่าขับรถไปเอง ทั้งไปและกลับ บอกได้คำเดียว “เหนื่อยสุดๆ”
แต่ถึงจะเหนื่อย ก็ถือเป็นการเดินทางที่คุ้มค่า
ความลำบากของเส้นทาง ทำให้เราได้เห็นน้ำใจ และมิตรภาพของเพื่อนร่วมทาง
ได้มาอยู่ในพื้นที่ผืนป่าตะวันตก ซึ่งเป็นป่าที่สมบูรณ์ และสำคัญของประเทศ
ได้ฟังเรื่องราวการทำงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ทำงานกันอย่างหนักเพื่อรักษาสัตว์ป่า และป่าผืนนี้
ที่สำคัญ ได้รับโอกาสจากโมโกจู
“เราไม่ได้เป็นคนเลือกโมโกจู แต่โมโกจูต่างหากที่เลือกเรา”
โฆษณา