19 พ.ย. 2020 เวลา 03:59 • ธุรกิจ
ระส่ำ! 2 เดือนก่อนอำลา ว่าทรัมป์จะทิ้งทวนอย่างไร
แม้ว่าผลการเลือกตั้งของสหรัฐจะออกมาชัดเจนแล้วว่าโจ ไบเดนจะได้เป็น
ประธานาธิบดีคนที่ 46 และบรรดาผู้นำของประเทศต่าง ๆ ก็ร่วมแสดงความยินดี
กับเขาแล้ว แต่บรรยากาศอึมครึมของสหรัฐอเมริกาดูเหมือนจะยังไม่จบ เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงไม่ยอมส่งไม้ต่อให้ไบเดน แต่เขากลับทวีตข้อความอย่างต่อเนื่องว่าใจ
ความว่า "เขาถูกโกง" เพราะความจริงแล้วเขาต้องเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
และได้ร้องต่อศาลของหลายรัฐให้ทำการนับคะแนนใหม่
อย่างไรก็ตามโจ ไบเดนจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในเดือน
มกราคมปีหน้า ซึ่งนั่นหมายความว่าทรัมป์จะยังคงเป็นประธานาธิบดีต่ออีก 2 เดือน
ทาง Business Insider ได้ออกบบทความมาเตือนให้ทุกคนตระหนักว่า “แม้ว่าตอนนี้คำพูดของทรัมป์จะดูไม่น่าเชื่อถือแค่ไหน แต่อย่าลืมว่าเขายังมีอำนาจอยู่ในมือและมันอันตรายมาก ๆ” (ชื่อบทความว่า Trump's speech was pathetic, but his authoritarianism is still dangerous)
โดยล่าสุดเขาได้ปลด Christopher Krebs ผอ. ของหน่วยงานดูแลความมั่นคงทาง
ไซเบอร์ที่เคยประกาศว่า “การเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน ปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา" ซึ่งมันขัดกับสิ่งที่ทรัมป์กล่าวหาตอนนี้อย่างชัดเจน
แต่ประเด็นที่จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างที่คุณต้องจับตามองนั้นมีอยู่ 4 เรื่องหลัก ๆ คือ
1. การระบาดของโควิด19 ในสหรัฐที่รุนแรงกว่ารอบแรก เพราะตอนนี้ตัวเลขผู้ติด
เชื้อพุ่งสูงกว่าวันละ 150,000 คน และมียอดผู้เสียชีวิตเฉลี่ยกว่าวันละ 1,000 ราย
แต่ก็อย่างที่ทราบกันว่าทรัมป์ไม่ใช่คนที่ชอบการล็อกดาวน์หรือแม้แต่การใส่หน้า
กาก เพราะเขามองว่าโควิดเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย และได้แสดงความยินดีกับข่าววัคซีนว่า
เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
1
สวนทางกับประธาน Fed ที่กล่าวว่า “วัคซีนเป็นข่าวดีในระยะกลาง แต่ไม่ใช่ในระยะสั้น” โดยพาวเวลล์ได้แสดงความเป็นห่วงว่าการระบาดใน 1 เดือนข้างหน้านี้จะทวี
ความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก แต่สุดท้ายคนที่มีอำนาจในการสั่งการก็คือโดนัลด์ ทรัมป์นะครับ ไม่ใช่เจอโรม พาวเวลล์
1
2. สถานการณ์การประท้วงในสหรัฐที่ผู้สนับสนุนทรัมป์ได้ออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่และได้รับกระตุ้นอย่างต่อเนื่องจากทวีตของทรัมป์ ซึ่งก็ต้อง
คอยติดตามกันว่าสถานการณ์จะทวีความรุนแรงขึ้นหรือไม่
3. นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ขาดความชัดเจนและไม่มีความต่อเนื่อง เพราะตอนนี้
เป็นช่วงการเปลี่ยนถ่ายอำนาจระหว่าง 2 ขั้ว ที่มีนโยบายต่างกันสุดขีดการที่ทรัมป์
ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนนั้น ทำให้มาตรการกระตุ้นต่าง ๆ ต้องสะดุดและเกิดความไม่
แน่นอนขึ้น ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมวิกฤตครั้งนี้อย่างมาก
4. การทิ้งปมบางอย่างเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไว้ให้ไบเดน คือแม้ว่าการ
มาของโจ ไบเดนจะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศสหรัฐจะดูเป็นมิตรต่อประเทศอื่น ๆ มากขึ้น
แต่ใน 2 เดือนที่เหลือนี้ทรัมป์อาจออกนโยบายบางอย่างที่ไบเดนแก้ไขได้ยาก
อาจเป็นสนธิสัญญาบางอย่างที่ต้องใช้เวลากว่าจะยกเลิกได้ หรือที่ตอนนี้กังวลกันคือเกี่ยวกับการปะทะกับประเทศในตะวันออกกลาง
สุดท้ายทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับมุมมองครับ เพราะแม้ว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะดูน่ากังวล แต่ทาง Goldman Sachs และ Morgan Stanley ก็ได้ออกมาแนะนำให้คุณเริ่มซื้อ
หุ้นได้แล้ว เพราะพวกเขามองว่าเศรษฐกิจกำลังจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง แล้วเพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไรครับ?
.
แอดปุง
โฆษณา