20 พ.ย. 2020 เวลา 03:39 • ท่องเที่ยว
หลายคนน่าจะมีช่วงเวลาอยากปลีกตัวออกจากทุกสิ่ง หันหลังให้กับความวุ่นวายหรือความจำเจบางอย่าง พักงาน วางโซเชียลฯ สักชั่วครู่ แล้วเก็บกระเป๋าไปไหนสักที่ แต่จะข้ามไปเที่ยวเกาะเพื่อปูเสื่อตากลมห่มแดด แช่ทะเลนิ่งๆ ก็ไม่ใช่ทางอีก เราจึงอยากพาคุณไปเกาะเหล่านี้ เผื่อจะเป็นไอเดียในมุมใหม่ๆ กรีนๆ ได้อีกทาง เพื่อนๆ ไปเที่ยวแล้วอย่าลืมมองหาสัญลักษณ์ SHA เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยของทุกคนกันนะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.toursiamthailand.org/thailandsha
ไปเที่ยวกันเล้ยยย
เกาะหมาก จ.ตราด หากอยากลองไปเยือนเกาะที่ไม่ทำร้ายซ้ำเติมธรรมชาติที่นี่น่าจะเป็นคำตอบ เพราะเกาะหมากคือต้นแบบ Low carbon destination ยึดคอนเซ็ปต์เติบโตอย่างยั่งยืน ผู้ประกอบการต่าง เน้นกิจกรรมกระทบธรรมชาติ ให้น้อยที่สุด อาทิเช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ สั่งเมนูอาหารที่หาได้จากท้องถิ่น ลดการขนส่ง เดินทางด้วยการปั่น จักรยานหรือเดิน กิจกรรมต่างๆ บนผิวน้ำก็จะเน้นพลังงานสะอาดไม่ใช้น้ำมัน นอกจากนี้บนเกาะยังพร้อมใจจัด happy hour เชิญชวนนักท่องเที่ยวปิดแอร์ ปิดไฟ ช่วงบ่ายๆ ออกมาท่องเที่ยวชมเกาะโดยลดค่าบริการอาหาร เครื่องดื่มและกิจกรรมต่างๆ ด้วยนะ เพราะฉะนั้นโปรแกรมแบบ 3 วัน 4 คืนกับเกาะหมากน่าจะครบเครื่อง
เกาะพิทักษ์ จ.ชุมพร “ถนนน้ำข้ามสมุทร น้ำจืดผุดกลางเกาะ หอยเจาะ ทะเลขาด หาดสองน้ำ” นี่คือสโลแกนชุมชนบ้านเกาะพิทักษ์ ที่เพียงแค่ได้ยินก็ชวนชักให้ใจคล้อยตาม  ด้วยเสน่ห์ของเกาะที่มีอากาศบริสุทธิ์เป็นจุดขาย ผู้มาเยือนนอกจากได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงอย่างถึงพริกถึงขิง ทั้งไดหมึก ดำน้ำ ตกปลา หรือชมสวนชิมผลไม้ตามฤดูกาลแล้ว บนเกาะยังเป็นชุมชน ‘Green Island’ ที่มีทั้งโครงการ คาร์บอนเครดิตและ Zero Waste อย่างเข้มข้น ใครพกถุงพลาสติกขึ้นไปอาจถูกปรับได้นะจะบอกให้ เพราะที่นี่อยากให้เรียนรู้เข้าถึงและเข้าใจการได้อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง การได้มาลองติดเกาะแห่งนี้ อาจจะช่วยให้คุณเปลี่ยนความคิดอะไรบางอย่างก็ได้
เกาะเหลาลาดิง  จ.กระบี่ เกาะชื่อแปลกชวนฉงนนี้ เป็นเกาะขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่มาก มีชายหาดเล็กๆ มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวหลบ อยู่ด้านใน ของภูเขาหินปูนสองฝั่ง เงียบสงบ มีบรรยากาศส่วนตัวสุด ๆ ตรงด้านหน้าเกาะที่โค้งเกือบ จะเป็นครึ่งวงกลม ร่มรื่นด้วยแนวป่าชายเลนด้านหลัง น้ำทะเลสีเทอคอยส์ชวนแหวกว่ายลงไป กับฝูงปลาแสนเชื่อง แต่ถ้าไม่อยากมาแค่นอนริมทะเล ลองหากิจกรรมที่สร้างประโยชน์ อาทิ ช่วยเก็บขยะทะเล เก็บขยะชายหาด หรือช่วยปลูกป่าโกงกางเพื่อเป็นกำแพงธรรมชาติ เพราะหากคุณมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่ง ในการดูแลและอนุรักษ์เกาะสวยบริสุทธิ์แห่งนี้ด้วยอีกแรงก็น่าภูมิใจไม่น้อย
เกาะพะลวย จ.สุราษฎร์ธานี นั่งเรือรับลมโชยจากท่าเรือดอนสักไปแค่ 40 นาที ก็ถึงเกาะพะลวยฉายา “Virgin Islands” หรือ เกาะแห่งพลังงานสะอาดต้นแบบเน้นผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันลมและโซลาร์เซลล์ ธรรมชาติบนเกาะต้องยกนิ้วให้ เพราะยังร่มครึ้มด้วยป่าธรรมชาติมีทั้งถ้ำ ชายหาด ทะเลแหวกไปและมีเส้นทางสำหรับเดินขึ้นไปชมวิว เห็นความสวยงาม ของท้องทะเลในเขตอุทยาน แห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองสวยจนลืมหยุดหายใจ ไปวันเดียวไม่พอต้องค้างคืนกับโฮมสเตย์ ราคาสบายกระเป๋า เสิร์ฟเมนูซีฟู้ดสดๆ แถมยังได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวเกาะ ได้อย่างสุดขั้ว ส่วนจุดไฮไลท์คือ การได้พบเจอนกเงือก ซึ่งมีเยอะนับร้อยๆ ตัวได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
เกาะยาวน้อย จ.พังงา เรียบง่ายแต่มากล้นด้วยความสุขด้วยความที่เกาะยาวน้อยมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ชุมชนจึงนำเรื่องนี้เป็น “จุดขาย” ให้กับ การจัดการท่องเที่ยวในรูปแบบโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักและได้ศึกษา รวมถึงสัมผัสวัฒนธรรมตลอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านบนเกาะรวมทั้งได้วิถีชีวิตในทะเล วิถีการทำประมงพื้นบ้าน ได้ลองจับหอยชักตีน รวมถึงการทำผ้าบาติกและผ้าปาเต๊ะ ที่สำคัญถ้ามาถูกช่วงเวลายังจะได้เห็น “พาเหรดกองทัพปูแดง” ซึ่งเป็น “ไฮไลท์” ของเกาะ พักแรมสามสี่คืนที่นี่รับรองพบความประทับใจเต็มอิ่มแน่ๆ
#AmazingThailand
โฆษณา