[หนัง] AI Amok : เมื่อ AI กำหนดความเป็นความตายของมนุษย์
AI Amok เป็นหนังญี่ปุ่นความยาว 2 ชั่วโมง 12 นาที กำกับโดย ยู อิริเอะ ฉายที่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ว่าด้วยเรื่องของโปรแกรมเมอร์หนุ่มอัจฉริยะ โคสุเกะ คิเรียว ที่เขียนโปรแกรมพัฒนา AI ต้นแบบเพื่อจะมารักษาภรรยาที่ป่วยเป็นโรครักษาไม่หาย แต่เวลานั้น AI ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของมนุษย์ถูกถกเถียงด้านจริยธรรมและยังไม่เป็นที่ยอมรับ
ภรรยาของโคสุเกะจากไป โดยฝากความหวังไว้ว่าหวังว่าสักวันหนึ่ง AI จะสามารถสร้างประโยชน์มากมายให้กับผู้คนได้จริงๆ
เวลาผ่านไปหลายปี เมื่อเทคโนโลยีต่างๆเจริญก้าวหน้าขึ้น AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์อย่างกลมกลืนและหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนมีการพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับการใช้ AI ในวงการแพทย์เพื่อการรักษาอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
‘NOZOMI’ คือชื่อของ AI ที่ถูกพัฒนามาจาก AI ต้นแบบของโคสุเกะ จนเป็นที่ยอมรับของคนญี่ปุ่นทั้งประเทศ คนมากมายสวมใส่นาฬิกาเพื่อตรวจวัดค่าพารามิเตอร์ต่างๆเกี่ยวกับสุขภาพในร่างกาย และสามารถส่งข้อความเตือนผู้สวมใส่ได้ทันทีว่าหัวใจเต้นเร็วเกินไปควรนั่งพัก หรือระดับออกซิเจนในเลือดต่ำมาก ให้ออกไปที่โล่ง เป็นต้น
ยิ่งกว่านั้นตามโรงพยาบาลทั่วญี่ปุ่นยังมีการใช้ AI เข้ามาช่วยในการรักษาชีวิตคนไข้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาให้ยาอัตโนมัติ การควบคุมเครื่องมอนิเตอร์ต่างๆข้างเตียง การใช้ AI ร่วมกับแขนกลเพื่อช่วยในการผ่าตัด หรือการช่วยวิเคราห์แนวทางการรักษาโดยใช้ข้อมูลต่างๆที่เก็บมาตลอดของคนไข้ได้อย่างแม่นยำ
AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือ โปรแกรมที่ถูกเขียนให้สามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้จากการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก มีความสามารถในการวิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจได้ตามสถานการณ์ต่างๆ
1
อาจมีหลายคนเข้าใจผิดว่า AI คือหุ่นยนต์ แต่ AI ไม่ได้ถูกจำกัดให้มีรูปลักษณ์เป็นหุ่นยนต์เท่านั้น ยกตัวอย่างง่ายๆก็เช่น AI ที่อยู่ในกล้องถ่ายรูปของโทรศัพท์มือถือ สามารถให้ข้อมูลได้ว่าสิ่งที่กำลังถ่ายนั้นคือภาพอะไร และปรับโหมดให้เหมาะสมกับสิ่งที่ถ่ายได้อัตโนมัติ หรือจะเป็นเทคโนโลยีสแกนใบหน้า Face ID เป็นต้น
3
นอกจากนี้ AI ยังถูกนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆอย่างแพร่หลาย เช่น การแพทย์, การขนส่ง, การเกษตร, การก่อสร้าง แม้แต่ในด้านการลงทุน AI สามารถช่วยในการประมวลผล ส่งคำสั่งซื้อ ช่วยเทรด เป็นต้น
1
จะเห็นได้ว่า AI ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว และสิ่งที่ช่วยให้ AI พัฒนา อย่างเช่นข้อมูลของผู้ใช้งานก็จะเป็นตลาดที่มีมูลค่ามากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะข้อมูลด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของมนุษย์ ข้อมูลต่างๆที่ถูกเก็บรวบรวมไว้เกี่ยวกับพฤติกรรมต่างๆของแต่ละบุคคลทั้งในโลกจริงและอินเตอร์เน็ท จะเป็นที่ต้องการและสามารถขายได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบันและจะยิ่งเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
ในสารคดีเรื่อง The Social Dilemma มีข้อความหนึ่งถูกยกขึ้นมาอย่างน่าสนใจว่า ‘Any sufficiently advanved technology is indistinguishable from magic’ หรือ เมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและถูกพัฒนามากพอ ก็จะไม่ต่างอะไรกับเวทย์มนตร์
ทุกวันนี้ เมื่อเข้า youtube แถบแนะนำก็ขึ้นวิดีโอที่เราสนใจมาให้ ระบบแนะนำเพื่อนใน facebook รู้ได้อย่างไรว่าเรามีความเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับใคร หลังจากที่ค้นหาร้านอาหารญี่ปุ่นในกูเกิ้ล ทำไมมีโฆษณาอาหารญี่ปุ่นเด้งขึ้นมาใน feed facebook ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นฝีมือของ AI ที่เก็บข้อมูลและเรียนรู้จากเราอยู่ตลอดเวลา จนรู้สึกเหมือน AI มีความสามารถในการอ่านใจได้
2
ถ้าจะบอกว่าโลกในอนาคตไม่ต่างอะไรกับโลกเวทมนตร์ก็คงไม่เกินคาด แต่ของทุกสิ่งย่อมมีสองด้าน สิ่งที่มีประโยชน์มาก ก็อาจมีโทษร้ายแรงซ่อนอยู่เช่นกัน ดังที่เห็นในหนังวิทยาศาสตร์หลายเรื่องว่าสักวัน AI อาจย้อนกลับมาทำร้ายมนุษย์ก็ได้ แต่ถ้าใครพยายามหลีกเลี่ยงโลกที่ไม่มี AI น่าจะช้าไปสักหน่อย เพราะตอนนี้ถ้ากล่าวว่า ‘AI already runs the world’ ก็คงไม่ผิดนัก
สำหรับหนังเรื่องนี้ แท้จริงแล้วใครคือแฮคเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ต้องการคัดสรรมนุษย์ไปเพื่อจุดประสงค์อะไร แล้วใครจะสามารถยับยั้ง AI นี้ได้ ต้องไปติดตามต่อในหนังนะคะ เรื่องนี้สนุกตื่นเต้นครบรส คิดว่าไม่แพ้ train to Busan เลยทีเดียว แถมพระเอกยังให้ความรู้สึกเหมือนกงยูอีกต่างหาก เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แนะนำค่ะ ❤️