Blockdit Logo (Mobile)
The Brain Club
•
26 พ.ย. 2020 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
#1 The Brain Club : Influential Person
จางยองชิล ยอดนักประดิษฐ์แห่งโชซอน
จางยองชิล ( ค.ศ. 1383-1450 ) นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์และนักดาราศาสตร์ชาวเกาหลี ในตอนแรกเขาเป็นเพียงทาสหลวง แต่พระเจ้าเซจงมหาราช (พระกษัตริย์ในขณะนั้น) ทรงเห็นถึงความสามารถของเขาทางด้านดาราศาสตร์และงานประดิษฐ์ จึงทรงตั้งให้จางยองชิลเลื่อนขั้นเป็นขุนนางระดับ " แดโฮกุน " หรือขุนนางขั้นที่ 3
รูปปั้นของจางยองชิลนอกสถานีรถไฟ Cheonan-Asan ในเกาหลีใต้
จางยองชิลในสมัยเป็นทาส จากซีรีส์นักประดิษฐ์แห่งโชซอน
จางยองชิล เกิดมาในฐานะชนชั้นต่ำในครอบครัวชนชั้นสูง พ่อของเขาคือจางซองฮวี ชนชั้นสูงจากตระกูลจาง ส่วนแม่ของเขาเป็นกีแซง เขาจึงถูกจัดบทบาทในสังคมให้เป็นชนชั้นต่ำ ถูกกดขี่จากพี่น้องต่างมารดาและชนชั้นสูงคนอื่นๆ ตลอดเวลา
จางยองชิลมีความหลงใหลในเรื่องของดาราศาสตร์ตั้งแต่เด็ก เขาจะคอยสังเกตุสิ่งต่างๆ รอบตัว เช่น การเคลื่อนตัวของดวงดาว ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แล้วนำมาจดบันทึกไว้อ่านและสังเกตุความเปลี่ยนแปลง
จางยองชิลในวัยเด็กและบิดา จากซีรีส์นักประดิษฐ์แห่งโชซอน
เมื่อโตขึ้นเขาได้มีโอกาสพบกับองค์ชายชุงยอง (องค์รัชทายาท) พระองค์มีความสนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์ และต้องการนำความรู้มาช่วยเหลือประชาชน องค์รัชทายาทชื่นชมความสามารถของจางยองชิลโดยไม่สนใจเรื่องชนชั้น
ในปี ค.ศ 1422 ตามปฏิทินจันทรคติ " พระเจ้าแทจง " ( กษัตริย์ลำดับที่ 3 แห่งโชซอน ) ได้สวรรคตลง ทำให้องค์รัชทายาทชุงยอง ขึ้นครองบัลลังก์ต่อ โดยใช้พระนามว่า พระเจ้าเซจงมหาราช ( กษัตริย์ลำดับที่ 4 แห่งโชซอน )
1
พระเจ้าเซจง จากซีรีส์นักประดิษฐ์แห่งโชซอน
พระเจ้าเซจงได้ก่อตั้งสถาบันจิบฮยอนจอน เพื่อค้นหาผู้มีความสามารถมาร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญมากขึ้น และในปี ค.ศ. 1423 พระเจ้าเซจงได้เรียกจางยองชิลเดินทางมาราชสำนักที่ฮันซอง ( โซลในปัจจุบัน) ได้มอบโอกาสให้จางยองชิลแสดงความสามารถที่มี โดยการปลดสถานะทาสหลวง และให้เขาเข้ารับราชการในวังหลวง ต่อมาเขาก็ได้ทำงานในจิบฮยอนจอน
เมื่อทาสหลวงได้เขามารับราชการระดับสูง ทำให้มีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยจำนวนมาก แต่จางยองชิลก็ได้แสดงความสามารถที่เขามีให้เหล่าขุนนางเห็น
ด้านขวา จางยองชิล จากซีรีส์นักประดิษฐ์แห่งโชซอน
จางยองชิลประดิษฐ์อุปกรณ์เครื่องมือมากมายถวายพระเจ้าเซจง ได้แก่
#01 : ลูกโลกดารา ( ค.ศ. 1433 )
งานแรกที่เซจองมอบหมายให้จางคือการสร้างโลกบนท้องฟ้าเพื่อวัดวัตถุทางดาราศาสตร์ หนังสือที่ได้รับจากนักวิชาการชาวอาหรับและจีนไม่ครบถ้วนตามคำแนะนำ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารได้ หลังจากสองเดือนของการศึกษายองชิลได้สร้างอุปกรณ์ทรงกลมที่สามารถทำงานได้ด้วยความแม่นยำปานกลาง
ในปี ค. ศ. 1433 เขาได้สร้างลูกโลกดารา ชื่อว่า ฮงชอนอุย ( Honcheonui / 혼천의, 渾天儀) ติดตั้งกับกังหันน้ำเพื่อหมุนตามเวลารอบโลก ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือกลางคืน ลูกโลกนี้จะเปลี่ยนตำแหน่งของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวไปเรื่อยๆ สามารถวัดเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล
ลูกโลกดารา นาฬิกาแดดและนาฬิกาน้ำถูกติดตั้งไว้ในพระราชวังเคียงบงกุง เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ และในปี ค.ศ. 1442 นักดาราศาสตร์ชาวเกาหลีรวบรวมการคำนวณที่ผ่านมาจนเกิดเป็นปฏิทินทางดาราศาสตร์ที่ ทำให้สามารถทำนายปรากฏการณ์สำคัญได้อย่างแม่นยำ เช่น การเกิดสุริยุปราคา จันทรุปราคาและการเคลื่อนไหวของดวงดาว
พระราชวังเคียงบกคุง( Gyeongbokgung )
#02 : แท่นพิมพ์เหล็ก ( ค.ศ. 1434 )
พระเจ้าเซจงได้สั่งให้จิบฮยอนจอนสร้างแท่นพิมพ์ที่ดีขึ้นกว่าที่เคยใช้มา แท่นพิมพ์นี้มีชื่อว่า กาบินจา ( Gabinja ) ทำจากโลหะผสมทองแดง สังกะสี ตะกั่ว และดีบุก แท่นพิมพ์นี้ทำงานเร็วกว่าเดิมถึงสองเท่า และพิมพ์ตัวอักษรจีนได้สวยงามชัดเจน
ตัวอักษรจีนที่พิมพ์จาก Gabinja
#03: นาฬิกาน้ำ ( ค.ศ. 1434)
นาฬิกาน้ำดั่งเดิมของเกาหลีนั้นใช้งานยาก มีลักษณะเป็นระดับน้ำระบุช่วงเวลาของวัน ที่ต้องมีคนคอยเผ้าดู และต้องคอยตีกลองทุกๆ ชั่วโมงเพื่อแจ้งให้ประชาชนรู้เวลา
นาฬิกาน้ำที่บอกเวลาอัตโนมัติไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ชาวอาหรับและชาวจีนได้คิดค้นขึ้นมาก่อนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1091 เมื่อได้ยินดังนี้ พระเจ้าเซจงจึงมอบหมายให้จางยองชิลสร้างนาฬิกาที่อัตโนมัติดังกล่าว
จางยองชิลจึงเดินทางไปประเทศจีนเพื่อศึกษารูปแบบต่างๆ ของนาฬิกาน้ำ เมื่อเขากลับมาในปี ค.ศ. 1434 จางยองชิลได้สร้างนาฬิกาน้ำบอกเวลาเครื่องแรกของเกาหลี ชื่อว่า Jagyeokru (자격루) ซึ่งจะทำเครื่องหมายชั่วโมงโดยอัตโนมัติด้วยเสียงกระดิ่งฆ้องและกลอง
นาฬิกาน้ำ ( Jagyeokru )
#04 : นาฬิกาแดด
แม้ว่านาฬิกาน้ำจะมีการใช้แพร่หลาย แต่ราคาแพง ต่างจากนาฬิกาแดดที่เป็นราคาถูกและสร้างได้ง่ายกว่า จางยองชิลได้สร้างนาฬิกาแดดเรือนแรกของเกาหลี ชื่อว่าอังบูอิลกู (Angbu ilgu / 앙부일구)
มีการนำนาฬิกาแดดไปตั้งบนถนนสายหลักของเมืองที่มีผู้คนหนาแน่น เพื่อให้ชาวบ้านสามารถดูเวลาได้ นอกจากตัวอักษรบอกว่าลาก็ยังมีการสลักรูปสัตว์ 12 ราศีของจีน เพื่อให้ชาวบ้านที่อ่านหนังสือไม่ออกสามารถดูเวลาได้
นาฬิกาแดด ( อังบูอิลกู )
#05 : เครื่องวัดปริมาณน้ำฝน ( ค.ศ. 1441 )
การเกษตรคือเศรษฐกิจหลักของโชซอน แต่มีปัญหาภัยแล้งยาวต่อเนื่องเป็นเวลานาน จึงจำเป็นต้องมีวิธีการจัดการน้ำที่ดีขึ้น จางยองชิลได้ประดิษฐ์มาตรวัดปริมาณน้ำฝนขึ้นเป็นครั้งแรกของเกาหลีชื่อว่า เชกูกี ( 측우기 / 測雨器 ) และถัดมา 1 ปี เครื่องวัดปริมาณน้ำฝนมาตรฐานได้นำไปติดตั้งทั่วประเทศเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณฝนโดยเฉลี่ยรายปีในภูมิภาคต่างๆ
เครื่องวัดปริมาณน้ำฝน (เชกูกี)
#06 : มาตรวัดน้ำ ( ค.ศ. 1441 )
เพื่อให้เกษตรกรทราบถึงปริมาณน้ำที่มีอยู่สำหรับการทำเกษตร จางยองชิลได้ประดิษฐ์มาตรวัดน้ำเครื่องแรกของโลกชื่อว่า Supyo (수표 /水標) ลักษนะเป็นเสาหินที่วางอยู่กลางแหล่งน้ำ เชื่อมต่อกันด้วยสะพานหิน ต่อมาได้มีการนำมาตรวัดน้ำไปติดตั้งทุกเขตเมือง สำหรับบันทึกสถิติปริมาณน้ำฝนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูก
#07 : การวิจัยเกี่ยวกับอาวุธ
ในสมัยนั้นอาวุธสงครามของเกาหลีมีค่อนข้างด้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน พระเจ้าเซจงได้ส่งจางยองชิลไปจังหวัดคยองซัง เพื่อพัฒนาโลหะผสมสำหรับอาวุธและเครื่องมือต่างๆ เนื่องจากจางยองชิลเคยเป็นกวานโน ( ทาสที่ทำงานให้กับทางการ ) เขาจึงได้รับความรู้มากมายเกี่ยวกับงานโลหะและรู้ภูมิศาสตร์ของพื้นที่ จางได้สำรวจโลหะที่มีอยู่และคุณลักษณะของโลหะเหล่านั้น และนำเสนองานวิจัยของเขาต่อกษัตริย์และนายพลซึ่งมี ส่วนช่วยในการพัฒนาศักยภาพอาวุธของเกาหลี
จางยองชิลได้รับการขนานนามว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโซซอน สิ่งที่เขาสร้างเป็นการพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ของหน้าประวัติศาสตร์เกาหลี
ซีรีส์นักประดิษฐ์แห่งโชซอน
อย่างไรก็ตามจากความสำเร็จที่เขาทำ ทำให้มีขุนนางและผู้มีอำนาจบางกลุ่มไม่ชอบจางยองชิล เนื่จากเขาได้รับความไว้วางใจจากพระเจ้าเซจงอย่างมาก และในสมัยนั้นแนวคิดลัทธิขงจื้อเกาหลีที่ฝังรากลึกในสังคมโชซอน ที่มองว่านักวิทยาศาสตร์เป็นกลุ่มคนที่ไม่จำเป็นต้องมีและไม่ควรให้ความสำคัญ
ในปี ค.ศ. 1442 พระเจ้าเซจงให้จางยองชิลสร้างรถพระที่นั้งที่มีการตกแต่งอย่างประณีตแบบศิลปะเกาหลี เพื่อใช้เดินทางส่วนพระองค์ ซึ่งจางยองชิลก็สร้างสำเร็จไปได้ด้วยดี แต่เมื่อถึงวันที่พระเจ้าเซจงเดินทาง ก็เกิดเหตุรถพระที่นั้งพังลง จนทำให้พระเจ้าเซจงได้รับบาดเจ็บ สร้างความแตกตื่นให้ผู้คนอย่างมากในตอนนั้น
เมื่อเราวิเคราะห์จากฝีมือของจางยองชิล ทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสร้างรถพระที่นั้งที่ไม่แข็งแรง ดังนั้นจึงคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยเรื่องวิทยาศาสตร์และการมีทาสหลวงเข้ารับราชการ จึงได้ก่อเหตุและใส่ร้ายจางยองชิล
แต่สุดท้ายจากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้จางยองชิลต้องรับผิดชอบ แม้ว่าพระเจ้าเซจงจะคัดค้านกฤษฎีกา แต่ตามกฏหมายจางยองชิลถูกจำคุกเป็นระยะเวลานาน และท้ายที่สุดเขาก็ถูกไล่ออกจากวังหลวง
เรื่องราวหลังจากนั้นไม่มีการบันทึกไว้ ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง แต่มีการคาดการณ์ว่า เขาน่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบจนถึงช่วงบันปลายในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าเซโจ ( กษัตริย์ลำดับที่ 7 แห่งโชซอน)
จางยองชิลในช่วงบั้นปลายของชีวิต จากซีรีส์นักประดิษฐ์แห่งโชซอน
ในปี 2016 ได้มีการนำเรื่องราวของเขามาสร้างบนจอแก้ว ในซีรีส์เกาหลีเรื่อง " จางยองชิล นักประดิษฐ์แห่งโชซอน " มีจำนวน 24 ตอน นำแสดงโดย ซง อิลกุก
โดยในซีรีส์จะเล่าประวัติความเป็นมาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงช่วงวาระสุดท้ายของจางยองชิล ว่าเขาผ่านอะไรมาและสร้างคุณงามความดีไว้มากเพียงใด นับเป็นซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ที่ควรรับชม
Jang Yeong Sil จางยองชิล นักประดิษฐ์แห่งโชซอน
โฆษณา