ในว้นที่ "อีลอน มัสก์" ก้าวขึ้นสู่การเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก. . .
อีกวันถัดมา SpaceX ของเขาก็ทำลายสถิติการนำเอาจรวดบูสเตอร์ของ Falcon 9 กลับมาใช้ซ้ำได้เป็นครั้งที่ 7!!
ภาพ Long Shot ของภารกิจครั้งล่าสุดของจรวด Falcon9 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ส่วนตัวรู้จักชื่อนี้และเริ่มสนใจจริงจังครั้งแรกก็ตอนเรียน MBA ในวิชา Change Management เมื่อหลายปีก่อนเพราะอาจารย์ที่สอนท่านชื่นชมมัสก์ มากกกกก
ก็เลยลองหาข้อมูลดู พบว่า โหวววว ขี้โมชัด. . . ทำไม่ได้อย่างที่คุยซักกะอย่าง ทั้งรถ ทั้งจรวด แต่ก็ยังมีคนไว้ใจให้เงินทุนมากมายเนาะ
แต่คืนวันผ่านไปกิจการของแกก็โตไม่บันยะบันยัง หุ้น Tesla ทำ New high ครั้งแล้วครั้งเล่า จนก้าวขึ้นเป็นบริษัทรถที่มีมูลค่าอันดับ 2 ของโลกไปแล้ว
ตามดูหลายปีก็เลยได้คิดว่า หรือจริง ๆ แล้วเขาตั้งเป้าในใจไว้ 100 แต่โม้ไป 500 ไว้ก่อน(เรียกแขกนั่นเอง) พอทำไม่ได้ก็มีคน รอซ้ำ รอล้อ รอแขวะ
โดยเป้า 100 ที่มัสก์คิดไว้อาจจะเป็นเป้าที่โหดกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว และกว่าจะรู้ตัวเหล่าคู่แข่งที่เคยเยาะเย้ยก็ได้แต่ยืนมองอยู่ข้างหลัง (ไม่ขอพูดถึงความเห็นของประธานโตโยต้าเมื่ออาทิตย์ก่อนนะ มันคงจะเป็นกรรมขอเจ้าตลาดเดิมที่มักติดบ่วงมายาคติของตัวเองทำให้ขยับไม่ทันคลื่นลูกใหม่)
ภาพจากงานแถลงผลประกอบการครั้งล่าสุดของ Toyota ที่มีประเด็นร้อน
แถมเจ้าตัวเองก็เป็นเจ้าพ่อทวิตเตอร์สายมือลั่นชอบเรียกแขก เรียกได้ว่าไม่ต้องจ้างคนทำการตลาด โพสทวีตแต่ละทีก็เป็นกระแส
สำหรับตัวมัสก์เองก็ได้เลื่อนอันดับความมั่งคั่งของตัวเองมาเรื่อยและพรุ่งพรวดในปีนี้ที่เกิดวิกฤติโควิด โดยเมื่อต้นปียังอยู่ที่ 35 มาเดือนกันยาก็แซงพี่มาร์คขึ้นที่ 3 และวันนี้ก็รั้งอันดับ 2 แซง บิล เกตส์ ไปเป็นที่เรียบร้อย
ถึงตอนนี้ผมไม่แปลกใจแล้วหละ และส่วนตัวคิดว่านี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของความเว่อร์วังของอาณาจักร มัสก์ ต่างหาก
โฉมหน้าของว่าที่มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก??
เพราะความมั่งคั่งของมัสก์ยังมีมูลค่าอันมหาศาลที่ยังไม่ได้ถูกนำมาคิดกับกิจการที่ชื่อ SpaceX ในส่วนของโครงข่ายอินเตอร์เนตความเร็วสูงผ่านดาวเทียม Star Link
ถามว่ามีกิจการไหนบ้างที่จะสามารถปล่อยดาวเทียมปีละ 700 ดวง?
เรียกได้ว่าการดำเนินงานของ SpaceX เป็นการนำธุรกิจขึ้นสู่อวกาศอย่างแท้จริง รับส่งดาวเทียม รับส่งนักบินอวกาศ และสร้างโครงข่ายอินเตอร์เนตความเร็วสูงของตน และในอนาคตรับส่งคนข้ามโลกภายในครึ่งชั่วโมง?
ด้วยความทุ่มเทพัฒนาระบบการลงจอดแนวดิ่งของจรวดตระกูล Falcon แม้ว่าจะต้องเจอกับการระเบิดคาแท่นจอด ระเบิดคาเรือไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่มาวันนี้จรวด Falcon สามารถบินลงจอดได้อย่างเทพ
ภาพการลงจอดแบบนิ่ม ๆ ชิลล์ ๆ ราวกับถอยรถจอดเข้าซองจอด ของจรวดบูสเตอร์ของ Falcon Heavy
ทำให้สามารถลดต้นทุนการปล่อยจรวดแบบที่เจ้าอื่นไม่ต้องแข่ง ลูกค้าต้องต่อคิวรอใช้บริการ แถมทำรอบการปล่อยได้รัว ๆ อย่างน้อยเดือนละครั้ง
ซึ่งล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา SpaceX ก็ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียมในโครงข่าย Star Link อีก 60 ดวงขึ้นสู่อวกาศ และทำให้ Star Link มีดาวเทียมในโครงข่ายแล้ว 900 ดวง
และเป็นการสร้างสถิติใหม่ของ SpaceX มากมาย
- เป็นปล่อยจรวดครบ 100 ครั้ง สำหรับตระกูล Falcon นับรวมตั้งแต่ Falcon 1, Falcon 9 และ Falcon Heavy
- ทำลายสถิติการปล่อยจรวดสูงสุด 23 ครั้งใน 1 ปี จากปีก่อนที่ทำไว้ 21 ครั้ง
- และที่สำคัญที่สุดคือการนำจรวดท่อนบูสเตอร์ Stage 1 ตัวนี้กลับมาใช้เป็นครั้งที่ 7
กลับมาที่ Star Link ซึ่งก็ได้เริ่มทดสอบให้บริการไปแล้วในแคนาดาและอเมริกา แต่ดาวเทียม 900 ดวงนี้ยังเป็นแค่เศษเสี้ยวของ 12,000 ดวงในตอนที่โครงข่ายเสร็จสมบูรณ์ (แต่แค่ 900 ดวงนี่นักดาราศาสตร์ก็บ่นกันยับแล้ว เพราะดาวเทียมลอยเต็มฟ้าปนกันมั่วกับดาวจริง) และในต้นปีหน้าก็จะเริ่มสร้างรายได้
ฝูงดาวเทียมของ Star Link ที่ทำลายการเก็บภาพดาวหาง Neowise จนย่อยยับ
โดยเมื่อต้นปีก็มีข่าวว่า SpaceX เตรียมแยก Star Link ออกมาเพื่อเข้าตลาดหุ้น (ปัจจุบันอยากจะซื้อหุ้น SpaceX ก็ซื้อไม่ได้นะเพราะไม่ได้เข้าตลาดหุ้น ซึ่งปัจจุบัน SpaceX ก็เป็นกิจการที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหุ้นที่มีมูลค่ามากที่สุด)
ในยุคที่ทุกคนติดเนต 5G 6G จะไป 7G หากมีกิจการที่สามารถให้บริการอินเตอร์เนตความเร็วสูงผ่านดาวเทียมที่ใช้ได้ทุกที่ทั่วโลก เร็วกว่า ถูกกว่าเนตบ้านละ??
ทั่วโลกเลยนะ ย้ำว่าทั่วโลก ลงทุนปล่อยดาวเทียม 12,000 ดวงก็เยอะอยู่ แต่เม็ดเงินที่จะได้รับกลับคืนมาละ?
แถม Star link จะเป็นเจ้าแรกที่เปิดตลาด ในขณะที่คนอื่นยังใช้โดรน ใช้บอลลูนกันอยู่เลย
ก็จะรอดูวันที่ Star Link เข้าตลาดหุ้นเลย เชื่อได้ว่าจะเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์
ดินเนอร์สุดหรู ชมวิวโลกจากอวกาศ
และ SpaceX น่าจะทำให้ในอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า การไปทัวร์อวกาศไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เราบินขึ้นไปเซลฟี่กับโลกกับพระจันทร์กันได้เลยถ้าเงินถึง
มาวันนี้คนที่รวยกว่ามัสก์เหลือแค่ เจฟฟ์ เบซอส เจ้าพ่อ Amazon ซึ่งก็เบนเข็มมาเน้นกรุยทางธุรกิจอวกาศกับ Blue Origin แต่เบซอสมีแนวคิดต่างจากมัสก์ ในเรื่องการที่มนุษย์เราจะย้ายไปอยู่ดาวอังคาร
เบซอสให้ความเห็นว่า เราควรไปอวกาศ แต่แค่ไปเที่ยว ไปทำงาน (ทำเหมืองดาวเคราะห์น้อย หรือหาทรัพยากรอื่น ๆ) แค่ยังไงโลกก็ยังเป็นบ้านของเรา เราควรทำให้โลกเป็นบ้านจริง ๆ ไม่ใช่ปล่อยให้รกบ้านพังแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น . . . ก็น่าคิดนะ
มุ่งสู่อวกาศเหมือนกัน แต่ด้วยแนวคิดที่แตกต่าง
คำถามที่ว่ามัสก์จะรวยแซงเบซอสได้มั้ย Tesla จะใหญ่แซงโตโยต้าได้หรือเปล่า มันคงจะเป็นคำถามที่ไม่น่าใช่ในวันนี้แล้วหละ
คำถามควรจะเป็น เมื่อไหร่? เร็วแค่ไหน? รึเปล่า
ปล. ไม่ขอพูดถึงบริษัทขุดอุโมงค์ Boring นะ มันดูเฉพาะทางไปหน่อย หรือ Hyper Loop ที่ยังดูอีกไกลจากการใช้งานจริง
- 78
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
