27 พ.ย. 2020 เวลา 18:35 • กีฬา
#บอลนอกAddict ถึงเวลาไก่เดือยทอง
ซอน เฮืองมิน , แฮรี่ เคน และมูรินโญ่ ผู้พาไก่เดือยทองบินสูง ณ ขนะนี้
การกลับมายึดจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกในรอบ 6 ปี ของสเปอร์ รวมถึงการให้สัมภาษณ์แบบแสบๆตามสไตล์ว่า “เขาเองยังไม่ได้มองถึงแชมป์ เราแค่สู้เพื่อชนะทุกนัด แต่เราจะต้องแพ้ เราจะเสมอ”
นั่นก็แสดงว่าเจ้าตัวเองก็ยังไม่ได้ประมาทอะไรและไม่ใช่ว่าจะไม่หวังแต่เพียงแค่เค้ารู้ว่าฤดูาลนี้ยังอีกยาวไกล ซึ่งแน่ละนี่คือการให้สัมภาษณ์ตามสไตล์ของ “จ่ามู” ที่เราคุ้นเคยกันดี
ปรัชญา ฟุตบอล ของมูรินโญ่
แพชชั่นในเกมที่เราได้เห็นบ่อยๆของ "จ่ามู"
นอกจากคาแรคเตอร์ทั้งในและนอกสนาม ความยียวนในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ รวมถึงแพชชั่นในเกมการแข่งขัน คือสิ่งที่ทำให้เราติดตราตรึงใจกับยอดเทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสผู้นี้ แน่นอนว่าด้วยบุคลิกต่างๆเหล่านี้ย่อมมีทั้งคนรักและคนเกลียด ซึ่งมันจะมีแค่รักมากหรือเกลียดมากไปเลยเท่าที่เราได้เห็นกัน
ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามูรินโญ่เองนั้นมี “ปรัชญา” การทำทีมที่อยู่ในหัวอยู่แล้วซึ่งบางครั้งการที่เค้าไม่ปรับแผนการทำทีมให้เข้ากับผู้เล่นแต่เลือกที่จะให้ผู้เล่นต่างๆมาทำเพื่อเค้านั้นทำให้มีนักเตะหลายๆคนที่ไม่ชอบเค้า หรือไม่สามารถแจ้งเกิดได้ขณะเวลาที่เป็นลูกทีมของมูรินโญ่ เช่น เควิน เดอบรอย และ โมซาล่าห์
เควิน เดอบรอย และ โมซาล่าห์ เมื่อสมัยเป็นลูกน้องของมูรินโญ่ที่เชลซี
กลับกันก็มีนักเตะบางคนที่ซึ่ง “ยอม” และพร้อมทวายชีวิตให้กับมูรินโญ่ ยกตัวอย่างเช่น อินเตอร์มิลานยุคดับเบิ้ลแชมป์ ซึ่งนักเตะหลายๆคนในยุคนั้นต่างเหมือนกับหุ่นยนตร์หรือนักรบของมูรินโญ่ที่พร้อมลงไปทำทุกอย่างตามที่เค้าบอก ขนาดที่ว่า ซามูเอล เอโต้ ซึ่งมักจะโดนจับไปเล่นปีกซ้ายในยุคที่ โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีมอินเตอร์มิลาน จากนั้นพอ ราฟา เบนิเตซ มาคุมทีมต่อแล้วบอกให้เล่นตำแหน่งนั้น เขาตอบกลับไปว่า "ไม่มีทาง เพราะเขายอมเล่นให้มูรินโญ่แค่คนเดียว”
เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอะไรแปลกหากมูริญโญ่จะใส่ “Mindset” ในแบบฉบับของเค้าให้ได้เห็นในตัวนักเตะสเปอร์ชุดนี้
อินเตอร์ มิลาน ในยุคมูรินโญ่ที่แข็งแกร่งทั่วแผ่น พร้อมคว้าแชมป์ยุโรปไปครองได้
แน่นอนว่าด้วยแทคติกต่างๆของ “จ่ามู” ที่ซึ่งหลายๆคนทราบดีคือ หากเจอทีมที่แข็งแกร่งกว่า พวกเค้าจะมาเล่นเกมรับมาก่อน และพร้อมที่จะเล่นเกมโต้กลับเร็ว แต่หากพวกเค้าเจอทีมรองบ่อน แผนการเล่นจะเปลี่ยนเป็นวิ่งไล่บี้คู่แข่งอย่างไม่เลิกลาจนกว่าจะแย่งบอลกลับมาได้ นี่คือ “ปรัชญา” ของมูรินโญ่ที่เราได้เห็นมาแล้วเป็นนักต่อนัก
ไวน์ดี ยี่ห้อ Kane And Son
แฮรี่ เคน และ ซอง เฮืองมิน ต่างระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอด ณ ตอนนี้
เป็นเวลา 4 ปีได้ นับตั้งแต่ ซอน เฮืองมิน และ แฮรี่ เคน ได้ลงเล่นร่วมกันในสีเสื้อของไก่เดือยทอง แน่นอนว่า ทั้งคู่คือแนวรุกตัวหลักของทีมมาตั้งแต่ยุคสมัยของกุนซือคนเก่าอย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แล้ว
ซึ่งแม้แต่มูรินโญ่เองก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้อีกว่า “สเปอร์ทีมนี้ เราต้องให้เครดิตกับ พอช อย่างเต็มที่เพราะเค้าเป็นคนสร้างทีมนี้ขึ้นมา”
โดยเฉพาะคู่หัวหอกของทีมอย่าง แฮรี่ เคน และ โอปป้า ซอน ซึ่งนับตั้งแต่มูรินโญ่ได้เข้ามาคุมทีม ก็ดูเหมือนทั้งสองคน จะยิ่งเก่งยิ่งขึ้น ยิงขึ้นอีก เมื่อเข้าแผนการในแบบฉบับของมูรินโญ่
นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนที่ผ่านมา ซอน เฮือน มิน
ด้วยแทคติกต่างๆของ “จ่ามู” ที่ซึ่งหลายๆคนทราบดีคือ หากเจอทีมที่แข็งแกร่งกว่า พวกเค้าจะมาเล่นเกมรับมาก่อน และพร้อมที่จะเล่นเกมโต้กลับเร็ว แต่หากพวกเค้าเจอทีมรองบ่อน แผนการเล่นจะเปลี่ยนเป็นวิ่งไล่บี้คู่แข่งอย่างไม่เลิกลาจนกว่าจะแย่งบอลกลับมาได้ นี่คือ “ปรัชญา” ของมูรินโญ่ที่เราได้เห็นมาแล้วเป็นนักต่อนัก
เมื่อบอลโต้กลับ ซอนจะเป็นคนวิ่งทำทางไปที่ที่ว่าง โดยใช้ความเร็วตรงนี้คอยทำลายเกมรับที่ดันสูง ซึ่งเรามักจะได้เห็นกันบ่อยๆตั้งแต่สมัยของโปเช็ตติโน่
แต่ทว่าในตำแหน่งของคนออกบอล หรือพาบอลจากกองหลังหรือกองกลางมานั้น “เปลี่ยน” โดยปกติหน้าที่ตรงนี้จะเป็นหน้าที่ของ เดลี่ อาลี่ แต่ทว่าหลังจากมูรินโญ่เข้ามาทำทีม เจ้าตัวนั้นไม่ค่อยจะได้มีโอกาสลงเล่นซักเท่าไหร่
ทำให้หน้าที่ในการพาบอล หรืออกบอลขึ้นมาเวลาโต้กลับกลับกลายเป็นของ แฮรี่ เคน ซึ่งก็ต้องบอกว่าเคนนั้น “ครบเครื่อง” โดยเราอาจเคยแต่เห็น หัวหอกเบอร์1ทีมชาติอังกฤษผู้นี้เคยเป็นแต่ตัวเป้าในกรอบเขตโทษ แต่ทว่ามูรินโญ่ที่ซึ่งน่าจะได้เห็นอะไรบางอย่างในตัวเคน ได้ให้เจ้าตัวทำหน้าที่ตรงนี้ ซึ่งยิ่งทำให้เจ้าตัวรวมถึงแนวรุกของไก่เดือยทองน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก
แฮรี่ เคน ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกเกิน 150 ลูก ไปเรียบร้อยแล้ว
ทั้งสองเปรียบดั่งไวน์ที่สเปอร์ได้บ่มมาอย่างนาน ยิ่งนานวันรสชาติดีและกลมกล่อม จึงเหมือนคู่หัวหอกสองคนนี้ที่ว่า ยิ่งเล่นยิ่งรู้ขาและเข้าใจกัน
และเชื่อเหลือเกินว่า แฟนสเปอร์ทุกท่าน คงหวังลึกๆที่ว่า 2 คนนี้ จะพาสเปอร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอง
โฆษณา