## ผู้ชายมีอนาคต VS ผู้ชายไร้อนาคต ##
3 ความแตกต่างที่คุณต้องรู้
.
วันนี้คุณอยากถูกมองว่า #ไร้อนาคต ไหมครับ
แน่นอนครับว่าไม่อยาก ผมก็ไม่อยาก
ซึ่งส่วนใหญ่คำว่าไม่มีอนาคตเราจะคิดว่า
มันต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับฐานะความมั่นคง
ในอนาคตแน่ๆ เลย... แต่
.
ถ้าวันนี้คุณมีหน้าที่การงานที่ดี มั่นคง
เงินเดือนกลางๆ ค่อนไปทางสูงเลย
แต่กลับถูกแฟนบอกเลิกด้วยคำว่า
"ดูไม่มีอนาคต" ล่ะครับ
.
คุณคิดว่ามันแปลกไหม
.
.
เมื่อวานผมมีโอกาสได้ไปอ่านกระทู้นึงในพันทิป
แล้วเค้ามาถามถึงเรื่องนี้เอาไว้ได้น่าสนใจมาก
ในกระทู้นั้นผู้ชายมีหน้าที่การงานค่อนข้างดี
เป็นวิศวกรในบริษัทนานาชาติ
(ซึ่งผมเองเรียนด้านนี้มาเลยพอรู้เรื่องฐานเงินเดือนนิดหน่อย ทำให้รู้ว่าเงินเดือนของตำแหน่งเจ้าของกระทู้ไม่ใช่น้อยเลย)
.
แน่นอนว่าผู้ชายคนนี้คิดคล้ายๆ กับทุกคนว่า
การเป็นคน "มีอนาคต" ก็คือ
การมีงานดีๆ ทำ มีอาชีพที่มั่นคง
รายได้มากพอจะเลี้ยงตัวเองและครอบครัว
.
แต่เค้ากลับถูกแฟนบอกเลิกด้วยเหตุผล
" ดูไม่มีอนาคต ไม่อยากเสียเวลาด้วย "
.
เค้าเลยเกิดคำถามครับ
ว่าสรุปแล้วการเป็น "คนมีอนาคต" มันคืออะไร
.
ความจริงแล้วมันมีคำตอบครับ
บางทีคำว่า "ไม่มีอนาคต" ของคุณ
อาจจะไม่ได้มีความหมายแบบที่คุณคิดก็ได้ครับ
ในมุมของคุณ
คุณอาจมองว่าแค่มีเงิน มีงาน ที่เลี้ยงดูอนาคตได้
มันก็น่าจะพอแล้ว
.
แต่จริงๆ มันไม่พอครับ
สิ่งภายนอกพวกนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง
แต่จริงๆ แล้วคำว่า "มีอนาคต" กับ "ไร้อนาคต"
มันตัดสินที่ "การดำเนินชีวิต" และ "ทัศนคติ"
ของตัวคุณเอง
.
สมมติมีผู้ชาย 2 คน
คนแรกเป็นวิศวกรเงินเดือน 60,000 บาท
แต่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ไม่มีความทะเยอทะยาน
ใช้ชีวิตไปวันๆ บ้าน - ที่ทำงาน - บ้าน - ที่ทำงาน
ไม่คิดจะพัฒนาอะไรในตัวเอง
เพราะคิดว่าแค่ทำงานเก็บเงินก็พอ
.
กับผู้ชายคนที่ 2
ทำงานเป็นวิศวกรเหมือนกัน
เงินเดือนแค่ 18,000 บาท
แต่มีเป้าหมายว่าจะจับเงินล้านแรกก่อน 30
มีความทะเยอทะยาน
หาความรู้เพื่อพัฒนาชีวิตตัวเองทุกวัน
เพราะเชื่อว่าวันนึงตัวเองจะประสบความสำเร็จได้
.
คุณคิดว่าผู้ชายคนไหนดูมีอนาคตกว่ากันครับ
แบบที่ 2 จริงไหมครับ
.
สิ่งที่ผมกำลังจะสื่อคือ
ข้อแตกต่างที่แท้จริงมันคือสิ่งที่อยู่ด้านใน
คุณสมบัติภายในต่างหาก
ที่ชี้วัดว่าคุณเป็นผู้ชายประเภทไหน
ซึ่งในคอร์สของผม
ผมเรียกสิ่งนี้ว่า " Alpha Mentality "
ประกอบไปด้วย 3 คุณสมบัติ
นั่นคือ M E N
.
.
M = Mentality (ทัศนคติ)
ทุกผลลัพธ์ในชีวิตขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณ
คุณเป็นคนทำอะไรทำจริงไหม
เด็ดเดี่ยว องอาจในตัวเองไหม
กล้าคิด กล้าตัดสินใจรึเปล่า
ที่สำคัญคุณมีความรับผิดชอบแค่ไหน
.
E = Emotion Control (ควบคุมอารมณ์ได้)
ข้อนี้ไม่ได้แปลว่าคุณห้ามมีความรู้สึกเลย
คุณยังโกรธได้ เสียใจได้ ร้องไห้ได้
ตามปกติของมนุษย์ทั่วไป
เพียงแต่
คุณมีสติรู้ทันอารมณ์ใช่ไหม
ไม่ปล่อยให้อารมณ์ควบคุมใช่ไหม
.
ข้อสุดท้าย
.
N = No Metter What (ความทะเยอทะยาน)
เอาจริงๆ แปลว่าควาททะเยอทะยานเฉยๆ
อาจจะไ ่พอด้วยซ้ำ
แต่คำนี้คือแบบ
ถ้าคุณมีเป้าหมายชีวิตอะ
ไม่ว่าแม่งจะเกิดอะไรขึ้น
อย่าทิ้งเป้าหมายและจงทำมันให้สำเร็จ
นี่คือความหมายของคำนี้
.
ถ้าคุณมีสิ่งเหล่านี้ครบ 3 ข้อ
และหมั่นพัฒนาคุณสมบัตินี้ทุกวัน
คุณคือผู้ชายที่ "มีอนาคต" ครับ
.
ลองกลับมาถามตัวเองดูครับ
วันนี้เรามีข้อไหน ขาดข้อไหน
ข้อที่มี มีมันมากพอรึยัง พัฒนาเพิ่มกว่านี้ได้ไหม
.
การทำงานไปวันๆ ไม่ได้พัฒนาตัวเองมันง่ายครับ
แต่การตั้งเป้าหมาย พัฒนาตัวเอง เอาชนะอารมณ์ตัวเองมันยากครับ
และเพราะมันยากครับ มันเลยยิ่งควรค่าแก่การทำ
.
อ่านมาถึงตรงนี้ใครคิดว่าจะกลับมาพัฒนาตัวเอง
ขัดเกลาจิตใจและอารมณ์ตัวเอง
เพื่อเป็นผู้ชายที่ดีขึ้นในทุกๆ วัน
พิมพ์คำว่า " MEN " มาข้างล่างเลยครับ
.
อย่าลืมครับ
ผู้ชายที่มีเสน่ห์ที่สุด คือคนที่ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง
.
เติ้ล #TheAlpha
#เมื่อผู้ชายกลายเป้นผู้นำ
.
ปล. แน่นอนว่าหลักการนี้ใช้ไม่ได้ผล
กับผู้หญิงที่มองแค่เรื่องเงินอย่างเดียวอยู่แล้วครับ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
