1 ธ.ค. 2020 เวลา 02:40 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
รู้จัก Salesforce เจ้าของซอฟต์แวร์องค์กร ที่หลายบริษัทตัดทิ้งไม่ได้
2
ถ้าถามว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ประสบปัญหาเนื่องจากวิกฤติโควิด จะปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอดได้บ้าง?
หนึ่งในวิธียอดนิยม ก็คงไม่พ้นการลดต้นทุน หรือลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีค่าใช้จ่ายบางประเภทที่จำเป็นถึงขนาดที่ว่าเรา “ตัดทิ้งไม่ได้”
หนึ่งในนั้นก็คือค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์
ไม่ว่าจะเป็น Microsoft หรือ Google ที่เราใช้สำหรับจัดทำเอกสาร
หรือ Adobe ที่เป็นหัวใจสำคัญสำหรับงานกราฟิกทุกประเภท
3
สำหรับวันนี้ เรามารู้จักกับอีกหนึ่งบริษัทอย่าง Salesforce
ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ประเภท Customer Relationship Management (CRM)
หรือ การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า ที่หลายบริษัทก็ตัดทิ้งไม่ได้ เช่นกัน
แล้วทำไม Salesforce จึงเป็นต้นทุน
ที่หลายบริษัทใหญ่ไม่สามารถตัดออกได้?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
บริษัท Salesforce อ่านว่า เซลส์ฟอร์ซ มาจากคำว่า “Special Force” ก่อตั้งในปี 1999
โดย Marc Russell Benioff
เขาคนนี้เคยเป็นอดีตพนักงานที่บริษัท Oracle Corporation ยาวนานถึง 13 ปี
โดย Oracle ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการซอฟต์แวร์องค์กรระดับโลก และ Benioff
เป็นผู้บริหารที่มีอายุน้อยที่สุด ซึ่งขึ้นรับตำแหน่งเป็นผู้บริหารในวัยเพียงแค่ 26 ปี เท่านั้น
Cr. Wealth-X
แล้ว Benioff มองเห็นอะไร
ถึงลาออกมาเริ่มทำบริษัท Salesforce?
สิ่งที่เขาคิดว่าเป็นปัญหา สำหรับคนทำงานก็คือ เราเสีย “เวลา” และ “พลังงาน”
ไปกับกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
และที่สำคัญไปมากกว่านั้นคือ ยังไม่มีใครทำซอฟต์แวร์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในด้านนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พอเรื่องเป็นแบบนี้ Benioff ก็ได้นำคอนเซปต์การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้ามาพัฒนาเป็นซอฟต์แวร์ และนำมาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีคลาวด์ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลการบริหารจัดการลูกค้าในที่เดียว
แล้วแค่ซอฟต์แวร์บริหารจัดการข้อมูลลูกค้า
มันจำเป็นถึงขนาดเป็นค่าใช้จ่ายที่ตัดไม่ได้?
หากเรายังจินตนาการไม่ออก
ลองคิดว่า ถ้าเราเป็นเจ้าของผู้ให้บริการท่องเที่ยว
ต้องบริหารพนักงานเป็นหมื่นคน
ติดต่อกับคู่ค้าทางธุรกิจหลายราย
ต้องตรวจสอบปัญหา ข้อเสนอแนะจากลูกค้า
แล้วเราจะมีกลยุทธ์บริหารจัดการทั้งหมดนี้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
เทคโนโลยี กับรูปแบบการใช้งานของ Salesforce จึงถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย และสามารถแก้ไขเรื่องราวเหล่านี้โดยเฉพาะเพราะเราสามารถอัปเดตข้อมูล จัดการลูกค้า และตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกิจกรรมเหล่านี้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
1
โดย Benioff ได้วาดเส้นทางรูปแบบการให้บริการ
ที่สร้างรายได้กับ Salesforce มีอยู่ 2 ส่วน แบ่งออกเป็น
 
การจัดทำข้อมูลรายงานการขาย หรือที่เรียกว่า Sales Report & Funnel
ระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ หรือที่เรียกว่า CRM
1
Cr. Salesforce Thailand
สองส่วนนื้จะช่วยประหยัดเวลาในการทำรายงานสำหรับการขาย และยังนำพลังงานไปใช้ในการพูดคุยกับลูกค้า เพื่อให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด
และสิ่งที่ตอบโจทย์มากไปกว่านั้นคือ Benioff ได้ทำการเข้าซื้อบริษัท Tableau มูลค่า 4.5 แสนล้านบาท เพื่อนำเทคโนโลยีการบริการจัดการข้อมูลในรูปแบบของ Big Data และ Data Visualisation มาพ่วงเข้ากับบริการดั้งเดิมของ Salesforce
1
จนตอนนี้ Salesforce ก็ได้กลายเป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถบริหารจัดการข้อมูลที่
เกี่ยวข้องกับลูกค้าทั้งหมดได้อย่างครบวงจร และสามารถประมวลผลให้เราว่า
1
กิจกรรมใดในอดีตที่ทำแล้ว ก่อให้เกิดมูลค่ากำไรทางธุรกิจ
แล้วข้อมูลตลาดปัจจุบันมีความสอดคล้องอย่างไรบ้าง ที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ
4
การพัฒนาการให้บริการทั้งหมดนี้ ตอบโจทย์ Pain Points ของผู้ใช้งานได้ทั้งหมด
Cr. Medium
แล้วที่ผ่านมา Salesforce เติบโตมากขนาดไหน?
ปี 2018 รายได้ 317,000 ล้านบาท กำไร 3,850 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 412,000 ล้านบาท กำไร 33,610 ล้านบาท (มีกำไรพิเศษ)
ปี 2020 รายได้ 517,000 ล้านบาท กำไร 3,810 ล้านบาท
(รอบบัญชีของบริษัทเริ่มตั้งแต่กุมภาพันธ์ปี 2019 ถึงมกราคม ปี 2020)
1
รายได้เติบโตเฉลี่ย 28% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโต
ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันที่เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี
โดย Salesforce มีส่วนแบ่งรายได้มาจาก
การเก็บค่าบริการรายเดือนของลูกค้าบริษัท และการให้บริการระบบคลาวด์ 94%
การให้บริการประเภทอื่นๆ เช่น การจัดสัมมนาอบรม และสัญญาจ้างเพิ่มเติม 6%
แล้วตอนนี้ Salesforce ใหญ่ขนาดไหน?
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า
แม้ Salesforce จะเกิดขึ้นมาจากอดีตผู้บริหารของ Oracle
แต่ตอนนี้ Salesforce มีมูลค่าบริษัท 7.1 ล้านล้านบาท
ซึ่งมูลค่าระดับนี้ใหญ่เป็น 1.4 เท่าของบริษัท Oracle แล้ว
อ่านมาถึงตรงนี้
เราก็คงสรุปได้ว่า นอกจาก Microsoft, Google, Adobe แล้ว Salesforce ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่กลายเป็นของขาดไม่ได้ในการทำงานของบริษัทอื่นๆ ไปแล้ว แม้ว่าบริษัทนั้นจะเผชิญกับวิกฤติในรูปแบบไหน ก็ตาม..
โฆษณา