ฟุตบอลกับชีวิต EP1
บทเรียนจากฟุตบอลอัดหัว
ครั้งหนึ่งเฮียพาอบอุ่นไปซ้อมฟุตบอลตามปกติครับ แต่วันนั้นมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นนั่นก็คือ
ในขณะที่ซ้อมยิงประตู อยู่นั้นฟุตบอลลูกหนึ่งที่ถูกเตะมาอย่างเต็มแรงลอยมาโดนหน้าอบอุ่นอย่างจัง
สำหรับเฮียที่เล่นบอลมาตั้งแต่8ขวบจนสี่สิบกว่าๆนั้น เคยโดนเตะบอลอัดหน้ามาหลายครั้งหลายครา
แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะเจ็บเท่าครั้งนี้เลย สำหรับคนเป็นพ่อแล้ว เวลาลูกเจ็บเราเจ็บกว่าหลายเท่า
ความรู้สึกแวบแรกที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติก็คือ มันเจ็บก็คือโทษตัวเองว่าคนที่ผิดก็กูเองนี่แหละที่พาลูกมาให้โดนบอลลูกนี้
นี่อาจจะเป็นความรู้สึกที่พ่อหลายๆคนอาจไม่เคยบอกกับลูกว่าเวลาลูกเจ็บตัวหรือเสียใจ คนที่รู้สึกเจ็บมากกว่าก็คือคนเป็นพ่อ...
อีกทั้งนี่เป็นประสบการณ์การเจ็บตัวแรงๆครั้งแรกในการเล่นฟุตบอลของอบอุ่น
หลังจากพักเพื่อเช็คอาการบาดเจ็บและให้น้องหยุดร้องไห้แล้ว โค้ชก็มาถามว่าอบอุ่นเล่นต่อไหวไหม
อบอุ่นบอกว่าไหว ปาดน้ำตาแล้วนางก็ไปเล่นต่อ... ผมเห็นโค้ชคุยกับอบอุ่นนิดหน่อย อบอุ่นพยักหน้าแล้วก็ซ้อมต่อไป
หลังกลับบ้านผมถามว่าโค้ชคุยอะไรกับหนู
อบอุ่นบอกว่าโค้ชบอกว่าชอบฟุตบอลไหมอบอุ่นบอกว่าชอบ
โค้ชก็เลยสอนต่อว่า ถ้าชอบฟุตบอล ต้องรีบชินกับเรื่องนี้เข้าไว้นะ เพราะเราจะต้องเจออีกแน่ๆ
เฮียได้ฟังแล้วก็รู้สึกขอบคุณโค้ชมากๆ เฮียอยากจะบอกผู้ปกครองคนอื่นว่าถ้ามีลูกควรให้เล่นกีฬาที่เค้าชอบสักอย่าง แล้วมันจะมีบทเรียนที่เค้าต้องเจอจริงๆในชีวิตที่บางทีเราก็สอนไม่ได้
สิ่งที่ดีที่สุดของการโดนบอลอัดหน้าครั้งนี้ก็คือ มันให้บทเรียนกับอบอุ่นและกับเฮียด้วย
และแน่นอนสำหรับสถานการณ์ของลิเวอร์พูลช่วงนี้ก็เหมือนถูกบอลอัดหัวรัวๆสิบกว่าลูก
ตั้งแต่นักเตะในทีมบาดเจ็บกันรัวๆแบบไม่ต้องนัดหมาย
การเสียประโยชน์รัวๆจาก วีเออาร์มากที่สุดกว่าใครๆในพรีเมียร์ลีก
ดาวรุ่งที่ขึ้นมาเช่นเนโคร วิลเลี่ยม ฟอร์มก็ยังไม่ดีพอ
ถ้ายังจำกันได้ฤดูกาลที่แมนซิตี้ได้แชมป์มีคะแนน 98แต้ม แต่พอฤดูกาลต่อมาแค่เสียลาป๊อกเก้าสองเด้งไปคนเดียว แต้มเหลือ 81คะแนนหายไป17แต้ม ขนาดว่าตัวสำรองของแมนซิตี้ล้วนแล้วแต่เป็นนักเตะระดับชาติเกือบทุกคน ซึ่งถ้าเทียบกับลิเวอร์พูลตอนนี้ก็คือตัวจริงเราเหลือแค่นักเตะดาวรุ่งตัวสำรองบางทีส่งชื่อไม่ครบด้วยซ้ำดังนั้นปัญหาที่เราเจอตอนนี้หนักกว่าใครๆมาก
หากแต่ยิ่งบททดสอบยิ่งใหญ่ หากผ่านไปได้เราจะแข็งแกร่งขึ้น
เช่นครั้งหนึ่งดาวรุ่งแห่งธุรกิจเฟอร์นิเจอร์อย่างอิเกีย ถูกสกัดดาวรุ่งจากคู่แข่งภายในประเทศโดยพร้อมใจแบนไม่ให้ซัพพลายเออร์ขายของให้
อิเกียคับขันอยู่สักพักจนหาวิธีแก้ปัญหาได้โดย ไปหาซัพพลายเออร์จากฝั่งยุโรปตะวันออกซึ่ง ราคาถูกแต่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ
อิเกียแก้ปัญหาโดยไปสอนซัพพลายเออร์เหล่านั้นให้ผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพด้วยตัวเองเลยจ้า
ผลสุดท้ายอิเกียได้ประโยชน์จากการสกัดดาวรุ่งนี้ก็คือ อิเกียสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากกว่าคนอื่นในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งในประเทศ
ผลสุดท้ายหลังจากอิเกียแก้ปัญหา “ลูกบอลอัดหน้า” ลูกนี้ได้ก็คือ อิเกียกลายเป็นผู้นำแห่งธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ของโลกมนุษย์ใบนี้
ที่ยกตัวอย่างนี้ก็คือแน่นอนว่าลิเวอร์พูลจะต้องผ่านปัญหานี้ไปได้แน่ๆ
แต่จะผ่านไปอย่างไร ผ่านไปเฉยๆหรือได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้
เฮียเชื่อว่าผู้นำอย่างคล็อปต้องนำเราผ่านไปได้แน่ๆ แน่นอนตอนนี้เด็กหงส์ส่วนใหญ่กลายเป็น Believer เรียบร้อยแล้ว
ความโชคร้ายของใครสักคนอาจเป็นโชคดีของใครอีกคน
ถ้าฟานไดค์ โจโกเมซ ฟาบินโญ่ไม่เจ็บ โอกาสของน้องแนทก็คงไม่มาถึง ถ้านาธาเนียลฟิลลิปคว้าโอกาสอันนี้ได้ เราจะมีเซนเตอร์ที่พึ่งพาได้อีกคนซึ่งจะทำให้ขุมกำลังเชิงลึกของเราดีขึ้นหลังจากทุกคนกลับมา
เนโคร วิลเลี่ยม อาจจะยังแย่อยู่ แต่คนเล่นแย่วันนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเล่นแย่ตลอดไป แน่นอนว่าทุกคนรู้แหละว่าตอนนี้น้องแย่ทั้งฟอร์มและสภาพจิตใจ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงอันโหดร้ายนี่คือบทเรียนที่คุณจะต้องผ่านไปให้ได้ หากทุกคนยังจำได้วันที่เทรนท์อาโนลด์โดนแรชฟอร์ดเผาเครื่องซะกระจุยวันนั้นน้องเทรนท์ก็โดนหนักแบบนี้ไม่ต่างกัน หากแต่ว่าน้องเทรนท์เมื่อเจอปัญหาบอลอัดหน้าแล้วเทรนท์พยายามชินกับมันให้เร็วที่สุดแล้วกลับมาสู้ต่อสุดท้ายก็กลายเป็นนักเตะระดับโลก เนโครวิลเลี่ยมก็เช่นกันถ้าจะเอาดีในอาชีพนี้นี่เป็นโอกาสที่ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ทั้งกับโค้ชและแฟนบอล
สำหรับเรื่องวีเออาร์มองในแง่ดีที่เราเสียประโยชน์เยอะที่สุด เพราะเราสร้างโอกาสมากที่สุดทีมงานเบื้องหลังต้องมาดูแล้วว่าทำไงเราจะแก้ปัญหาล้ำหน้าด้วยปลายเท้านี้ได้ ซึ่งถ้าเราแก้ได้ทีมเราจะมีโนวฮาวที่ช่วยให้เรานำไปใช้ได้ทั้งบอลลีคและบอลยุโรป
สิ่งที่ดีที่สุดของปัญหาและความเจ็บปวดคือ เราจะได้เรียนรู้จากมัน
และถ้าผ่านมันไปได้เราจะเติบโต....
ถ้าจะสรุปเป็นบทเรียนสักประโยคก็คือ
บอลอัดหน้าเป็นเรื่องดี เมียตีหัวก็เช่นกัน
รักนะจากเฮีย
#YNWA