29 หลังจากเเต่งตั้งโป๊ปเออร์บันเเล้ว เหล่าคาร์ดินัลก็ได้พบว่า โป๊ปเออร์บันที่ 6 มีนิสัยฉุนเฉียว มักระเบิดอารมณ์รุนเเรงใส่เหล่าคาร์ดินัลไม่เว้นเเม้ในที่สาธารณะ เเถมยังมีนิสัยเผด็จการจนเหล่าคาร์ดินัลทนไม่ไหว
30 เหล่าคาร์ดินัลบางส่วนเลยแยกตัวมาประชุมกันเเละเห็นว่าการเลือกโป๊ปครั้งนี้มาจากการถูกชาวโรมกดดัน จึงถือเป็นโมฆะเเละเลือกโป๊ปขึ้นใหม่ โป๊ปพระองค์ใหม่มีพระนามว่า เคลเมนต์ที่ 7 (Clement VII) เเละโป๊ปเคลเมนต์ที่ 7 ได้ไปอยู่ที่เมืองอาวีญงขอฝรั่งเศสในเวลาต่อมา
31 ตอนนี้เลยมีโป๊ปอยู่สองพระองค์ด้วยกัน โดยมีโป๊ปเออร์บันที่ 6 ของโรม เเละโป๊ปเคลเมนต์ที่ 7 ของเมืองอาวีญง
32 โป๊ปทั้งสองต่างกล่าวหาว่าอีกคนเป็นตัวปลอม เกิดความสับสนทั่วยุโรปว่าจะนับถือโป๊ปองค์ไหนดี (ตอนนั้นมีความเชื่อว่า ถ้าเลือกนับถือโป๊ปผิดพระองค์ ก็จะไม่ไปสวรรค์ แต่ต้องตกนรกไปตลอดกาล) แต่ไม่มีใครรู้ว่าโป๊ปพระองค์ไหนเป็นโป๊ปพระองค์จริง
33 สุดท้ายเเต่ละเมืองก็เลือกนับถือโป๊ปของตนเอง ฝรั่งเศสเลือกโป๊ปของฝรั่งเศส อิตาลีเลือกโป๊ปของโรม การเมืองก็ยังมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น อังกฤษเป็นศตรูกับฝรั่งเศส ก็เลือกที่จะยอมรับโป๊ปแห่งกรุงโรม
34 ยุโรปตอนนั้นเกิดความเเตกเเยกอย่างมาก เมืองไหนเลือกโป๊ปต่างกันก็จะไม่ขายสินค้าให้กัน กษัตริย์เเต่ละเมืองเเม้จะเลือกโป๊ปต่างกันเเต่ก็อยากให้เรื่องนี้จบลงไวๆ ทางโป๊ปเองก็ไม่มีใครยอมใคร ต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นตัวปลอม ชาวยุโรปได้เเต่รอให้โป๊ปองค์ใดองค์หนึ่งมรณภาพไป โป๊ปจะได้เหลือคนเดียวเหมือนเดิม ทุกอย่างจะได้กลับมาปกติ
35 ในที่สุด โป๊ปเออร์บันที่ 6 ก็มรณภาพไป เเต่อิตาลีไม่สามารถยอมรับโป๊ปจากฝรั่งเศสได้ จึงเลือกโป๊ปพระองค์ใหม่ขึ้นมาอีก มีพระนามว่าบอนิเฟซที่ 9
พอโป๊ปทางฝรั่งเศสมรณภาพ ฝรั่งเศสก็ไม่ยอมรับโป๊ปจากโรมเเละตั้งโป๊ปใหม่อีก จนเกิดเป็นวังวนไม่สิ้นสุด
36 โป๊ปทั้งสองฝั่งไม่สนใจสถานการณ์ตอนนี้เลย ต่างคิดเกาะอำนาจของตนให้นานที่สุด เหล่าคาร์ดินัลทั้งสองฝ่ายได้ประชุมกันเเละเห็นว่าเป็นแบบนี้คงไม่มีทางออกจึงมีการประชุมกัน แล้วปลดโป๊ปทั้งสองออก พร้อมกับการแต่งตั้งโป๊ปพระองค์ใหม่ขึ้น มีพระนามว่า อเล็กซานเดอร์ที่5