3 ธ.ค. 2020 เวลา 12:30 • ท่องเที่ยว
ฮังการี่ที่รัก❤️
Part 2.สะพานเชนเซเชนยี่ ( Szechenyi Chain Bridge) & ริมแม่น้ำดานูบ 🇹🇯🇹🇯
สะพานโซ่ หรือสะพานเชน (Chain Bridge)
หนึ่งในสิ่งที่พลาดไม่ได้ อีกแห่งหนึ่ง เมื่อไปเยือนฮังการี คือสะพานเชนเซเชนยี่ หรือเรียกสั้นๆว่าสะพานเชน เพราะคนสร้างใช้โซ่เหล็กสองเส้นใหญ่มหึมา แขวนสะพานนี้อยู่เหนือแม่น้ำดานูบ จนมีอีกชื่อภาษาไทยว่าสะพานโซ่ 😂😂สะพานนี้เชื่อมระหว่างสองฝั่งคือฝั่ง
บูดา และฝั่งเปสต์ สะพานนี้ถูกบันทึกไว้ว่าเริ่มสร้างในปี 1839 และแล้วเสร็จเมื่อ 1849 นับว่าใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 10 ปีเลยเชียว ก็โธ่ ตัวสะพานยาวตั้ง 375 เมตร แถมกว้างตั้ง 14.8 เมตร สมัยก่อนไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัย ก็น่าจะ 10ปี สามารถเข้าใจได้😂😂
สะพานนี้สามารถเดินชมได้ฟรี เพียงแค่เสียเหงื่อนิดหน่อย😂 แต่ที่นั่นอากาศไม่ร้อนเดินชิวๆได้สบายๆ สะพานโซ่สวยอลังการในตอนกลางวัน และมีเสน่ห์ ชวนหลงไหลในยามค่ำคืน ยิ่งถ้าได้มองลงมาจากมุมสูงก็จะสามารถเห็นทั้งตัวสะพานปะปนกับสิ่งก่อสร้างอื่นๆในมุมกว้างก็จะสวยงามยิ่งขึ้น❤️
ตรงหัวสะพาน มีสิงโตหมอบคู่ นอนเฝ้าอยู่ ดูอลังการมากๆ ริมแม่น้ำดานูบ ทั้งฝั่งบูดา และเปสต์ เขาได้ทำถนนคอนกรีต ให้สามารถเดินเล่นเชื่อมกันได้ตลอดแนว และตลอดริม 2 ฝั่งแม่น้ำ และด้วยฝั่งซ้ายฝั่งขวาของแม่น้ำ มีสิ่งปลูกสร้างยิ่งใหญ่ๆอื่นๆ ประกอบด้วยแล้วสวยทำให้เวลามองไปก็จะภาพรวมๆ ที่ลงตัวมากๆ💕
ริมทางเท้า จะมีร้านอาหาร เรียงราย พร้อมด้านที่ติดริมน้ำ จะมีรถราง สีเหลือง ตัดกับสีท้องฟ้าและแม่น้ำ วิ่งให้บริการ เดินเพลินๆดูโน่นดูนี่โดยไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะอากาศและลมเย็นเจี๊ยบ พัดมากระทบผิวตลอดเวลา
เดินเรื่อยๆไปพักใหญ่ ช่วงหนึ่งของเส้นทาง ก็สังเกตเห็น รองเท้าคัตชูของผู้หญิงและรองเท้าผู้ชายคู่ใหญ่ รวมถึงรองเท้าเด็กคู่เล็กๆ ทำจากโลหะ วางอยู่เกลื่อนกลาด บริเวณริมแม่น้ำดานูบ เห็นแล้วรู้สึกว่า ที่ตรงนั้นจะต้องสื่อความหมายอะไรสักอย่างแน่ๆ พอค้นหาข้อมูลดู ให้รู้สึกเศร้าใจ พอทราบว่าปฏิมากรรมนี้มีชื่อว่า The shoes on the Danube Bank
ตอนนั่งลงถ่ายรูปนี้ไม่เคยได้ศึกษาประวัติศาสตร์ก่อนจะไป แต่ก็สัมผัสได้ และเกิดอารมณ์หดหู่ เศร้าใจทันทีที่ได้เห็น...และพอมาอ่านประวัติความเป็นมา..ยิ่งน่าเศร้าใจหนักขึ้น.. สรุปใจความเรื่องราวนี้สั้นๆ คือช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลฟาสซิสต์ของฮังการี่ได้เข้าร่วมรบกับทหารนาซีของเยอรมัน และแน่นอนที่สุดนาซีย่อมไม่ชอบชาวฮังการี่เชื้อสายยิว จึงสั่งทหารเชื้อชาติฮังการี่ที่ร่วมรบ จับชาวฮังกาเรียนเชื้อสายยิวด้วยกันเป็นเชลยศึก และฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ
The shoes on the Danube Bank. ทิ้งไว้เพื่อความทรงจำ
ชาย หญิง คนชรา ไม่เว้นกระทั่งเด็ก ถูกบังคับให้ถอดทรัพย์สิน แม้กระทั่งเสื้อผ้าและรองเท้า ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น พร้อมสั่งให้หันหน้าไปที่แม่น้ำ แล้วกราดยิงและทิ้งศพ หรือผู้บาดเจ็บที่ยังไม่ตายให้ล้มตายอย่างเยือกเย็น ณ.ที่บริเวณนี้ จำนวนมากมาย
หลังสงครามจบลง คนรุ่นลูกรุ่นหลาน ของทั้งสองฝ่าย ก็ยังคงต้องอยู่ร่วมกัน และเพื่อให้ความขุ่นข้องหมองใจของกันและกัน เบาบางลงจึงร่วมกันสร้างอนุสรณ์สถานแห่งนี้ ไว้เพื่อรำลึกถึงความผิดพลาดในอดีต และมีประโยคปลอบประโลม อดีตอันเลวร้ายว่า “forgive and forget” 😭😭เพื่อทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
“ให้อภัยและลืมมันเสีย” 🥺🥺คำพูดดีๆที่ทำใจได้ยากจริงๆ
พอได้ซึมซาบเรื่องราวแย่ๆไปพักใหญ่ จึงนึกได้รางๆทันทีเลยว่า หลายปีมาแล้ว เคยดูหนังนาซีเรื่องนึง ดูมันจะคล้ายๆกับเหตุการณ์นี้เลย แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่เหตุการณ์เดียวกันหรือไม่ หนังเรื่อง นั้นชื่อ Schindler’s list แต่ที่รู้อย่างเดียวคือดูหนังเรื่องนั้นแล้วอึดอัด และหดหู่ จนกระทั่งจบเรื่อง🥺
และสืบเนื่องจากนิสัยส่วนตัว ของคุณพึมพำ เหมือนฟองน้ำ ทีชอบซึมซับเรื่องเศร้าพวกนี้ได้มากกว่าผู้คนทั่วไป หน้าที่ระรื่นก่อนหน้านี้ หายวับไปกับตา ในตอนที่ทราบเรื่องรองเท้าปุ๊บ หน้าก็หม่นหมองไร้ซึ่งรอยยิ้ม เดินเงียบซึมไปพักใหญ่ จนถูกพรรคพวก ซัดเข้าให้ป๊าบนั่นแหละจึงค่อยสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ได้😞😒😢
📌 ไม่มีภาพสะพานกลางคืน แบบสมประกอบมาอวดเลย เพราะภาพที่ถ่ายไหวทั้งหมด ภาพถ่ายกลางคืน ถ้าคนถ่ายฝีมือไม่ถึง รูปมักจะออกมาเสียหมดเลย😭😭
📌 มนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ สามารถสร้างเรื่องยิ่งใหญ่ได้ และก็สามารถทำเรื่องเลวร้ายที่สุดได้เช่นกัน🥺🥺
📌วันนี้ขุดเรื่องฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุมาเขียน เห็นรูปรองเท้า ก็ยังทำให้เกิดอาการเศร้าได้อีก และเศร้าใจหนักขึ้น เมื่อนึกถึงผู้ที่ยังเหลืออยู่จากเหตุการณ์ในวันนั้น ที่ต้องทนกล้ำกลืน กับประโยคดีๆ เพื่อประโลมใจ “ Forgive and Forgot” 😒😞🥲

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา