ทราบหรือไม่ว่า เปาบุ้นจิ้นตัวจริงหน้าไม่ดำ❓
แต่ความยุติธรรมเป็นหนึ่งในแผ่นดิน
หากเราจะพูดถึงความยุติธรรม หนึ่งในบุคคลที่เราจะนึกถึงย่อมหนีไม่พ้น
ชายชาวจีนในชุดขุนนางโบราณ ที่มีใบหน้าสีดำ มีรูปพระจันทร์เสี้ยวอยู่ตรงหน้าผาก นามว่า...เปาบุ้นจิ้น
เปาบุ้นจิ้น หรือชื่อตามสมญานามที่ถูกเรียกขานตามความสุจริต ซื่อตรง ว่า
"เปาชิงเทียน" อันแปลว่า ท่านเปาผู้ทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีฟ้า
ด้วยความที่เราติดภาพลักษณ์ ท่านเปา มาจากละครทีวีซีรี่ย์เรื่องเปาบุ้นจิ้น ทำให้เราทุกคนต่างเข้าใจว่า ท่านเปาตัวจริง ท่านต้องเป็นคนหน้าดำมืด แลดูเป็นคนดุ น่าเกรงกลัว
แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า แท้จริงแล้ว ท่านเปาหรือเปาบุ้นจิ้นแห่งศาลไคฟง ท่านไม่ได้หน้าดำ และพระจันทร์บนหน้าผากของท่านก็ไม่ใช่พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก..
เทพเจ้าแห่งความยุติธรรม
ท่านเปาบุ้นจิ้น แห่งศาลไคฟง กัน
เปาบุ้นจิ้นหรือเปาจิ้น รับราชการในสมัยราชวงศ์ซ่ง ยุคฮ่องเต้ซ่งเหญินจงซือ
เปาบุ้นจิ้น
เปาจิ้น เกิดที่เมืองเหอเฝย สอบเข้ารับราชการเริ่มจากเป็นพนักงานศาลฎีกาต่อมาสอบได้เป็นนายอำเภอเจี้ยชาง และไต่เต้าขึ้นมาตามลำดับจนโด่งดังมากตอนที่เป็นเจ้าเมืองไคฟง ตำแหน่งสุดท้ายของเปาจิ้นได้เป็นถึงเสนาบดีกระทรวงพิธีการ ได้เป็นผู้รับใช้ใกล้ชิดองค์ฮ่องเต้เลยทีเดียว
ท่านเปามีชื่อเสียง ในเรื่องความซื่อตรงไม่กินสินบาท คาดสินบน จนได้รับคำกล่าวขวัญว่า ไม่ว่ายังไง "สินบนก็เข้าไม่ถึงยมราชเปา"
และด้วยเหตุแห่งความเที่ยงธรรมนี้เอง ที่ทำให้ท่านเปาได้รับ สมญานามว่า"เปาชิงเทียน" เพราะคำว่าชิงเทียน แปลว่า ท้องฟ้าสดใสสีน้ำเงินปราศจากเมฆหมอก เหตุเพราะการผดุงความยุติธรรมของท่านเปา นำมาซึ่งความสงบ ร่มเย็น ขจัดคนพาล อภิบาลคนดี จนชาวบ้านชาวเมืองต่างมีความสุข ประดุจท้องฟ้าสดใสสีน้ำเงิน
ตามที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า เมื่อเราพูดถึงท่านเปาบุ้นจิ้น พวกเราต่างก็เข้าใจว่า ท่านเปา ต้องหน้าดำ มีพระจันทร์เสี้ยวอยู่บนหน้าผาก
ข้อนี้ ความจริงเรื่องมันเป็นแบบนี้...
เรื่องหน้าดำของท่านเปา เกิดจากด้วยอุปนิสัยท่านเปาเป็นคนตรง เงียบขรึมยิ้มยาก เมื่อคณะงิ้วนำบทละครเปาบุ้นจิ้นมาแสดง จึงทาหน้าผู้แสดงเป็นท่านเปาให้เป็นสีดำ เพื่อแทนความหมายว่าท่านเป็นคนเงียบ ขรึม และยิ้มยาก
ส่วนรูปพระจันทร์เสี้ยว ท่านเปาตัวจริงไม่มีพระจันทร์อะไรเลยบนหน้าผาก แต่ตามตำนานเล่าว่า ท่านเปาเป็นเทพคู่บารมีองค์ฮ่องเต้ที่ เง็กเซียนฮ่องเต้ส่งลงมาช่วยบริหารบ้านเมือง
ด้วยความเป็นเทพผดุงยุติธรรม ท่านเปา จึงตัดสินคดีได้ทั้งมนุษย์ เทวดาและภูติผี ปีศาจ เหมือนที่เราเห็นในละครทีวีก็มีอยู่หลายตอนที่ท่านเปา ตัดสินโทษผีได้ด้วย
ดวงจันทร์บนหน้าผากท่านเปา ตามตำนานนั้นเป็นพระจันทร์เต็มดวง เป็นสัญลักษณ์แห่งเทพยุติธรรม ที่ภูติ ผีปีศาจเกรงกลัว
ต่อมาภายหลัง ในการแสดงงิ้ว หากนักแสดงวาดรูปพระจันทร์เต็มดวงเหมือนท่านเปาตัวจริงตามความเชื่อ ก็เกรงว่า ภูตผีจะมาพบ มาหา มารบกวน
คณะงิ้วก็เลยวาดเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวแทน
เรื่องหน้าดำกับรูปพระจันทร์เสี้ยวก็มีที่มาเพียงเท่านี้นี่เอง
ศาลไคฟง
แล้วอยู่ดี ๆ นึกยังไง ทำไมมาเขียนถึงท่านเปาบุ้นจิ้น ?
ที่ผมมาเขียนเรื่องท่านเปา ก็เพราะว่าโดยส่วนตัวผมชอบดูละครเปาบุ้นจิ้นมาก ดูแทบจะทุกรอบที่ทีวีนำมาฉาย
แถมยังมีหนังสือเรื่องเป้าบุ้นจิ้นอีกหลายเล่ม
อีกเหตุผลหนึ่งก็เห็นว่า ช่วงนี้คนพูดถึงความยุติธรรมกันมาก
ความยุติธรรม มาจากคำสองคำคือ
ยุติ กับ ธรรม
หากแปลตามพจนานุกรม
ยุติ แปลว่า ชอบ ถูกต้อง สิ้นสุด
ส่วนธรรม แปลว่า คุณความดี ความชอบ
หากแปลตามความหมายที่ท่านพุทธทาสกล่าวไว้...
ยุติธรรมจะแปลว่า ชอบในหน้าที่
เพราะท่านพุทธทาสให้ความหมายของคำว่าธรรมคือหน้าที่
ยุติธรรมจึงหมายถึงการทำในสิ่งที่ควรทำ
ผู้ที่ทำในสิ่งที่ควรทำ ก็คือผู้ผดุงความยุติธรรม นั่นเอง
คำของคน มีจริงบ้าง เท็จบ้าง
หายุติธรรมแท้ได้ไม่
แต่ "กรรมนั้นยุติธรรมเสมอ"
อันนี้เป็นสัจธรรม
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
ขอบคุณภาพจากละครเปาบุ้นจิ้น
ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท.
- 13
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
