ทำไมถึงไม่มีเงินเก็บซักที??
การจะมีเงินลงทุนก้อนแรกของคนส่วนใหญ่ที่เพิ่งเริ่มนั้นมีอยู่ 3 ทาง คือ 1.เงินเก็บ 2.เงินกู้ 3.ยืมแม่หรือหานายทุน
หากใครสามารถหาเงินได้โดยการยืมเงินแม่หรือหานายทุนได้นั้นก็คงไม่มีปัญหาอะไรกับการหาเงินลงทุนมากนัก แต่ถ้าต้องใช้เงินเก็บหรือเงินกู้ นั่นแหละครับปัญหาเกิด
ในส่วนของการจะกู้ยืมได้นั้นเราก็ต้องมีเครดิตประมาณหนึ่ง เพราะต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกันหรือหลายๆคนจะเอาตำแหน่งงานมาค้ำประกันก็ได้ การใช้เงินกู้ในการลงทุนเป็นทางเลือกที่ดีครับแต่ต้องมีแผนสำรองหากเราลงทุนพลาด เพราะต้องผ่อนเงินที่เรากู้มาอีกหัวโตเลยนะครับ ทำให้การกู้เงินนั้นคนส่วนใหญ่จะกู้มาเพื่อขยายธุรกิจมากกว่าเอามาเริ่มต้นธุรกิจ
การเริ่มต้นธุรกิจนั้นจึงเป็นการใช้เงินเก็บซะส่วนมาก แต่ก็มีปัญหาอีกนี่สิคือ “ผมไม่มีเงินเก็บ”
ปัญหานี้เกิดขึ้นกับคนหมู่มากในประเทศ ทำไมล่ะ ทำไมถึงไม่มีเงินเก็บ???
จากที่ผมพูดคุยกับหลายๆคนปัจจัยของปัญหานี้มีมากมาย ซึ่งผมจะเลือกคำตอบที่คนส่วนใหญ่บอกมาเล่าให้ฟังครับ
1.ของมันต้องมี
เจ็บกันมาเท่าไหร่แล้วกับคำนี้ 5555 ยกตัวอย่างโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่รุ่นก่อนหน้าก็เพิ่งออกไปไม่กี่เดือนแต่พอรุ่นใหม่ออกก็ต้องซื้อเพราะของมันต้องมี นั่นแหละครับท่านกำลังตกเป็นเหยื่อของการตลาด ก่อนจะมีคำนี้ผุดขึ้นมาในหัวขอให้คิดก่อนว่าซื้อมาทำไม ได้ใช้งานมันเต็มที่มั๊ย ของเก่ายังใช้ได้อยู่หรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วซื้อเพื่อมาสนองความต้องการของตนเองเท่านั้น
2.เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้
“นี่ๆแกชั้นซื้อกระเป๋าใบใหม่มาสวยมากเลย คนดังๆก็ใช้ใบนี้กันหมดเลย” “วันนี้พี่เลี้ยงเองเต็มที่ ว่ะ ฮะ ฮะ” นั่นแหละครับศักดิ์ศรีมันค้ำคอ มันยอมไม่ด้ายยยยยย รูดปรึ๊ดดด พรึ่บ!!! หน้าบานขึ้นมาทันที แต่สุดท้ายแล้วเป็นยังไงครับ คุณจะได้รับคำชมเพียง 1 ครั้งถ้วนเท่านั้นคือ กระเป๋าสวยจังเลยนะคะ หรือ ขอบคุณครับ แค่นั้นจริงๆครับ กระเป๋าพอคนเริ่มเห็นครั้งที่สองก็จะไม่มีคำชมเกิดขึ้นแล้ว มันคุ้มมั๊ยครับกับเงินที่เสียไป ดังคำกล่าวของ Will Smith ที่ว่า “เราใช้เงินที่เราไม่มีในสิ่งที่เราไม่ต้องการเพื่อสร้างความประทับใจให้กับคนที่เราไม่สนใจ”
3.ให้รางวัลกับตัวเอง
การให้รางวัลกับตัวเองเป็นสิ่งที่ควรทำครับแต่หากรางวัลนั้นเกิดจากความต้องการของตัวเองมากกว่าให้รางวัลตัวเองจริงๆล่ะจะเกิดอะไรขึ้น เช่น “วันนี้เหนื่อยกับงานจังเลยขอกินอะไรแพงๆหน่อยละกันนานๆครั้ง” คำว่านานๆครั้ง ไม่มีอยู่จริงครับ 😊 ทำไมน่ะเหรอ? เพราะคุณจะเสพติดการจ่ายเงินเพื่อสร้างความสุขหรือเพื่อลืมความทุกข์โดยไม่รู้ตัวไงล่ะครับ วันนี้เหนื่อยก็จะกินของแพง วันนี้เศร้าก็จะปาร์ตี้ วันนี้มีความสุขก็จะปาร์ตี้ วันไหนว่างก็จะไปช้อปปิ้ง เหล่านี้เป็นการให้รางวัลตัวเองทั้งนั้นครับ เพราะความสุขและความทุกข์มันเกิดทุกวัน แล้วจะเหลือเงินมั๊ยเนี้ยยยย
4.ทำตามกระแสคนอื่น
ถ้าผมยกตัวอย่าง การกินอาหารเช้าบนสระน้ำ ท่านทั้งหลายคงจะเข้าใจกับหัวข้อนี้ดี ค่าอาหาร 1,000 บาท แต่ค่าเอาอาหารลงสระน้ำ 1,500 บาท (ซึ่งกินลำบากมากเพราะผมเคยลองมาแล้ว ต้องเอามากินข้างบนอยู่ดี 555) เอาอาหารลงน้ำแล้วก็ถ่ายรูปลงโซเชี่ยลเพื่อให้เหมือนกับในกระแสที่เค้าทำกัน นั่นแหละครับเสียเงินอีกแล้ววววววว
สิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมดนั้นไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้นะครับ และก็ไม่ได้ผิดด้วยถ้าจะทำถ้าเรามีเงินเหลือพอไม่กระทบกับการใช้เงินในอนาคต หรือจะไม่เดือนร้อนกับเราในภายหลัง
ที่ผมยกตัวอย่างมาทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่คนที่ผมพูดคุยด้วยทำและคนเหล่านั้นก็มาบอกผมว่า “ไม่มีเงินเก็บ”
หากคิดว่าบทความนี้ดีหรือมีประโยชน์ช่วยกดไลค์และกดแชร์ให้เราเพื่อเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะครับ
ท่านสามารถอ่านบทความและความรู้ต่างๆของเราเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : @6paradigms
Instagram : instagram.com/6paradigms
Blockdit : blockdit.com/6paradigms
#6paradigms #ไม่หวือหวาแต่อยู่รอด
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
