ยูเอ็นลดระดับการควบคุมกัญชา
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
พ.ศ.2561-2562 ความสนใจในการใช้กัญชาและกัญชงในด้านการแพทย์ อาหาร และสันทนาการ มีเพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วทั้งโลก ผมสนใจและนำมารับใช้ถึงความเคลื่อนไหวเรื่องกัญชา-กัญชงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อ พ.ศ.2562 ยกทีมไปศึกษาเรื่องกัญชงที่สาธารณรัฐประชาชนจีนหลายครั้ง และพอมาปลายปี พ.ศ.2562 ต้น พ.ศ.2563 ก็เดินทางไปแคนาดา
ปัจจุบันแคนาดาและอุรุกวัยได้รับรองการขายและการใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการพักผ่อนและสันทนาการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนอีกหลายประเทศอยู่ในขั้นของการลดโทษจากการครอบครองกัญชาเท่านั้น ส่วนประเทศไทยของเรามีการปลดล็อคกัญชงเพื่อการแพทย์แต่ยังไม่ถึงกับเสรีอย่างเต็มรูปแบบ
ไทยขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์ รวมทั้งส่งเสริมให้กัญชาและกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ มีการเสนอร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.... ที่มีสาระสำคัญให้ส่วนต่างๆ ของพืชกัญชาและกัญชงที่ได้รับอนุญาตให้ปลูก ผลิต หรือสกัดในประเทศไทยไม่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ได้แก่ 1. เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน และราก 2. ใบซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย 3. สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล (CBD) เป็นส่วนประกอบและมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก 4. เมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง หรือสารสกัดจากเมล็ดกัญชง
พ.ศ.2563 มีการจัดอบรมสัมมนาเรื่องกัญชง-กัญชาทั้งในไทยและประเทศต่างๆ แต่หลายประเทศสัมมนาแล้วก็แป้ก ไม่มีความชัดเจนจากภาครัฐเกี่ยวกับเรื่องกัญชา-กัญชง รัฐบาลของหลายประเทศมักจะอ้างว่ากัญชายังไม่ได้รับการปลดล็อคจากตารางที่ 4 ของการจัดหมวดหมู่สารเสพติดภายใต้อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ.1961
ตอนนี้ ผมรับข้อมูลจากนิวยอร์กไทมส์ทราบว่า คณะกรรมาธิการด้านยาเสพติดแห่งสหประชาชาติลงมติเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ด้วยคะแนนเสียง 27-25 งดออกความเห็น 1 เสียง ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกในการถอดกัญชาที่หมายถึงช่อดอกและยางกัญชาออกจากรายชื่อสารควบคุมในระดับสูงสุด (ตารางที่ 4) ของอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติด ค.ศ.1961 (2504) แต่ยังให้คงอยู่ในรายชื่อสารควบคุมที่อนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์ (ตาราง1) ของอนุสัญญาฯ
ก่อนหน้านี้กัญชาและยางกัญชาถูกควบคุมในระดับสูงสุด ซึ่งการลดระดับการควบคุมกัญชาและยางกัญชาในครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ประเทศสมาชิกสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้มากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้กระทบต่ออุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์ของโลกแน่นอนครับ
หลายสิบปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมน้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง และเบียร์เติบโตอย่างมาก ระยะหลังอุตสาหกรรมกาแฟเติบโตขึ้นมาแทนอุตสาหกรรมน้ำอัดลม แต่ผู้อ่านท่านเชื่อผมเถิดครับว่าอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแบบเดิมจะลดความสำคัญลง และจะมีเครื่องดื่มรูปแบบใหม่เข้าสู่ตลาด มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรม CBD จะมีมูลค่ามากกว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน ค.ศ.2025 ตอนนี้บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวดองหนองยุ่งกับกัญชาเติบโตขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์
นับตั้งแต่มีการบรรจุกัญชาเป็นสารเสพติดอันตรายในอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ.1961 ทัศนคติของผู้คนบนโลกก็มองว่ากัญชาเป็นจอมวายร้ายมานานถึง 59 ปี การลดระดับการควบคุมครั้งนี้เป็นการรับรองว่ากัญชามีสรรพคุณในการรักษาโรคและเป็นการเปลี่ยนทัศนคติว่ากัญชาไม่ได้เป็นอันตรายมากเหมือนที่เชื่อกันมาก่อนหน้านี้ 59 ปี
กระแสกัญชา-กัญชง ไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทย เดินทางไปทุกตรอกซอกมุมของโลก ทุกคนก็พูดถึงกัญชา-กัญชง บริษัทน้อยใหญ่ต่างศึกษาวิจัย บางแห่งถึงขนาดเสี่ยงเตรียมเครื่องจักรและโรงงานไว้ล่วงหน้า เม็ดเงินจำนวนไม่น้อยถูกโยนลงไปในการเตรียมผลิต CBD และ THC ผมเชื่อว่าตลาดนี้จะแข่งขันกันอย่างรุนแรงบ้าเลือด คนไหนทุนน้อย ความรู้น้อย สะสมงานวิจัยไว้น้อยก็อาจจะเจ็บตัวได้เหมือนกันครับ
หลายประเทศเตรียมอนุญาตให้มีการปลูกทั้งในเชิงอุตสาหกรรมและในระดับครัวเรือน บัดนี้ มีการพิสูจน์แล้วว่ากัญชง-กัญชาเป็นยาวิเศษ รักษาโรคได้มากมายหลายโรค ผมเชื่อว่าอุตสาหกรรมยาก็อาจจะเปลี่ยนโฉมด้วยเหมือนกันครับ.
- 31
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
