อีกมุมมองที่ญี่ปุ่น
ถ้าพูดถึงญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทุกคนถูกปลูกฝังเรื่องระเบียบวินัยที่ดีมาตั้งแต่เด็ก แล้วเราก็ได้มาพิสูจน์การใช้ชีวิตที่ ญี่ปุ่น
เมื่อถึงญี่ปุ่น สิ่งที่จิตนาการไว้ ได้ปรากฏเป็นภาพอยู่เบื้องหน้าอย่างชัดเจน คือความสะอาดเรียบร้อย ของบ้านเมือง ถนนหนทาง แม้ในเมืองหลวงอย่างโตเกียว ที่มีผู้คนอยู่หนาแน่น ก็ไร้เศษขยะ กองขยะที่ล้นออกมาจากถัง แตกต่างจากกรุงเทพมหา- นครมาก ทุกคนพร้อมใจกํนแยกขยะแต่ละประเภท แม้ว่าถังขยะที่นี่จะหายากเหลือเกิน แต่พวกเขาเก็บเศษขยะที่อยากทื้งไว้กับตัวจนกว่าจะเจอถังขยะ ความมีระเบียบวินัยในการต่อคิวและมานะอดทนในการรอทุกสถานที่ เช่น ร้านอาหารชื่อดังที่คนทุกต้องรอกัน 1-2 ชั่วโมงก็ยอม ความระมัดระวังในการขับรถ และพร้อมที่จะหยุดให้คนเดิน ข้าม เพราะหากคุณก่ออุบัติเหตุขึ้น หมายความว่าคุณอาจจะหมดสิทธืขับรถ ตลอดชีวิต กฏหมายเรื่องนี้เข้มง้วดมากๆ
และยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ทำให้บ้านเมืองสะอาดน่าอยู่ คือกลุ่มอาสาสมัคร ส่วนใหญ่เป็นผุ้สูงอายุ
กลุ่มอาสาสมัครจะ ค่อยดูแลความสะอาด ช่วยกันเก็บขยะบริเวณถนน ทางเดินเท้า
มีการปรับปรุงทางเดินทางให้สวยงาม โดยนำดอกไม้ปลูกช่วงริมถนน ให้บรรยากาศ
สดชื่น
นอกจากนี้กลุ่มอาสาสมัครผู้ปกครอง ของแต่ละเมือง จะคอยดูแลเด็กนักเรียน ระหว่างไปกลับโรงเรียน ช่วยเหลือให้นักเรียนข้ามถนนอย่างปลอดภัย
เราคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้มาจากการปลูกฝั่งพฤติกรรมเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก ความ รับผิดชอบต่อชุมชน ร่วมไปถึงการเคารพกฏอย่างเครงครัด
ซึ่งเภาพที่เราเห็น มันสร้างความประทับใจมาก ทำให้เราต้องช่วยดูแลพื้นที่ที่เราอยู่ ให้สะอาด ไม่ทิ้งขยะเลอะเทอะ นักเที่ยวท่องเที่ยวที่มาพบเห็นก็น่าจะประทับใจ และช่วยกันดูแลสถานที่ให้สะอาด น่ารื่นรมย์เช่นกัน
แต่มีด้านขาวก็ย้อมมีด้านเทาไปจนถึงดำ คนที่ออกนอกกฏ หรือความคิดแปลกแยก ล้วนมีอยู่ทุกที่ ประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นก็เช่นกัน
ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด ระเบียบวินัย ก็ถูกละเลยจากบุคคลไร้สามัญสำนึก ทั้งจากคนญี่ปุ่นด้วยกันเอง ร่วมไปถึงชาวต่างชาติที่มาเที่ยว หรือทำงานที่นี่ ทั้งการแซงคิว การทิ้งขยะไม่เลือกที่ การไม่แยกขยะตามประเภท คนเมาเหล้าเอะอะโวยวาย สร้างความรำคาญแก่ผู้อื่น คนไร้บ้านที่นอนริมถนนก็มีให้เห็น
ในเมืองใหญ่ อย่างเช่น โตเกียว ทุกคนใช้ชีวิตแข่งขันกับเวลา ความเร่งรีบกลายเป็นกิจวัตร บ่อยครั้งเราต้องฝ่าฝูงชน หลีกหลบ ปกป้องตนเองจากการถูกชน เสมือนหลบหลีกสิ่งกีดขวางในเกมส์ ซึ่งคนที่ชนนั้นมักรีบ ไม่สังเกตสิ่งแวดล้อมใดๆ มุ่งหน้า เดินไปยังจุดหมายเท่านั้น เขาชนคนอื่นแบบไม่ใยดี ไร้คำขอโทษ เราก็โดนชน รู้หัว ร้อนไม่น้อย ทั้งที่ระมัดระวังตัวแล้ว คนที่ไม่เสียสละที่นั่งบนรถไฟให้แก่เด็กและคน ชรา การแย่งที่นั่งบนรถไฟ
คนที่ใช้บริการรถไฟที่นี่ เขาใช้เวลาในการเดินทางอย่างต่ำ 30 นาที การมีที่นั่งช่วย บรรเทาความเหนื่อยล้าได้บ้าง จนละเลยน้ำใจที่มีให้แก่คนที่อ่อนแอกว่า
บางครั้งเราเคยพบคนทะเลาะกัน เนื่องจากการกระทบทัง ความเบียดเสียดภายในรถไฟ ร่วมไปถึงการคุยสียงดังบนรถไฟ สร้างความรำคาญก็พบเห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่บางคนที่พบเห็นก็เลือกที่จะมองข้าม ละเลยพฤติกรรมแย่ๆ เหล่านี้ ส่วนบางคนช่วยหา ทางออกโดนการแจ้งเจ้าหน้า ซึ่งถึงเป็นการช่วยจบปัญหา สร้างความสงบสุขให้กับผู้เดินทาง
สำหรับคนพิการ เจ้าหน้าที่จะค่อยดูแลการขึ้นลงรถไฟฟ้า ผู้โดยสารขึ้นลงประตูไหนจะมีการแจ้งสถานีปลายทางให้รอรับ เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เหรียญมีสองด้าน สังคมก็เช่นกัน มีทั้งด้านดีและไม่ดี ขึ้นอยู่กับตัวเราจะสร้างสังคมที่เราอยู่ให้เป็นอย่างไร
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
