18 ธ.ค. 2020 เวลา 13:45 • ปรัชญา
# เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ก่อนภาพยนตร์เรื่อง “ Lone Survivor” จะถูกสร้างขึ้น
ไม่มีใครชื่นชอบการสูญเสีย แต่บางทีคนเราก็เลือกไม่ได้ ดังเช่นเรื่องราวที่น่าทึ่งของ Marcus Luttrell Navy SEALs และเพื่อนของเขา ซึ่งในภายหลังถูกนำมาเป็นพื้นฐานของการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Lone Survivor จะมีความเป็นมาเช่นไรนั้น อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
กองกำลังพิเศษ
Marcus Luttrell ผู้ช่วยผู้บังคับการ เรือลาดตระเวน เขาจับเชือกที่ห้อยลงมาจากด้านหลังของเฮลิคอปเตอร์ขนส่ง Chinook และลงไปในคืนเดือนมืด ประมาณ 20 ฟุต
ซึ่งทันทีที่เท้าของเขาแตะพื้นบนภูเขาอันห่างไกล ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ อัฟกานิสถาน ใกล้เขตชายแดนปากีสถาน
และเมื่อเสียงของเฮลิคอปเตอร์จางหายไปจนทุกสิ่งรอบตัวเงียบไปหมด Luttrell และหน่วยซีลของกองทัพเรืออีกสามคน - ร้อยโท Michael Murphy ,เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยผู้บังคับการเรือ Danny Dietz และ Matt Axelson ก็พบว่าพวกเขานั้นอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ในเขตสงครามที่รกร้างว่างเปล่า
สงค
โดยภารกิจของทีมคือการค้นหา Ahmad Shah ผู้นำกองกำลังอาสาสมัครกลุ่ม ตอลิบาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจที่พวกเขาเรียกว่า Operation Red Wings
ท่ามกลางสายฝนอันหนาวเหน็บ ทั้งสี่เดินขึ้นไปบนความมืดเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกทั้งพวกเขายังต้องพยายามดิ้นรนเพื่อรักษาความอบอุ่นของร่างกายบนสันเขาที่สูงชันโดยไร้ซึ่งกองไฟ ในวันที่ 28 มิถุนายน 2005
และยังต้องนำเนินชีวิตเช่นนี้ เป็นเวลาเกือบสี่ปี ในสงครามอัฟกานิสถาน พวกเขาต้องซ่อนตัวด้วยโคลน หรือหลบอยู่หลังก้อนหิน ท่อนไม้และตอต้นไม้ บนพื้นที่บริเวณนั้น เพื่อเฝ้ามอง และติดตามตามหาสถานที่ต้องสงสัยของ Shah
เฝ้ามอง
Luttrell วัย 29 ปี เขาเป็นมือปืนและแพทย์ประจำทีมที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นไม้ ร่างกายเขาถูกโค่นปกคลุมไปทั้งตัวหลังจากที่ได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ที่เกิดจากชายคนหนึ่งที่สวมผ้าโพกหัวและมือถือขวาน
อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นก็ไม่ใช่กองกำลังของศัตรู แต่เป็นคนเลี้ยงแพะในท้องถิ่น ที่ในตอนนี้เขาหน้าจะเห็นหน่วยซีลกลุ่มนี้แล้ว อีกทั้งซึ่งภายในไม่กี่นาทีแพะเกือบ 100 ตัวที่มีระฆังรอบคอ ก็ส่งเสียงกรุ๊งกริ๊ง พร้อมกับฝูงสัตว์อีกกลุ่มหนึ่ง และเด็กวัยรุ่นที่ผ่านหน้า Luttrell ไปด้วยแววตาที่สงสัย
ซึ่งการถูกพบเห็นในครั้งนี้ อาจสร้างปัญหาตามมาได้ แต่หน่วยซีลทั้งสี่คน ก็มีตัวเลือกไม่มากมายนัก แต่ถึงอย่างั้น การฆ่าผู้ที่ไม่มีอาวุธ ก็ถือเป็นการละเมิดกฎการสู้รบ แม้ว่าจะยอมรับได้ในบางกรณี แต่นั้นก็อาจส่งผลให้ต้องเกิดการต่อสู้ในชั้นศาลตามมาได้เช่นกัน
ผลที่ต้องแลกมา
ถึงจะเป็นเช่นนั้น หากหน่วยซีล มัดทั้งสามคนนั้นไว้ และทิ้งพวกเขาไว้เบื้องหลัง คนเหล่านั้นคงจะประสบปัญหาเรื่องฝูงสัตว์ ที่อาจแตกตื่นจนยากจะควบคุมได้โดยไม่ต้องสงสัย
Dietz ผู้รับผิดชอบด้านการสื่อสาร จึงพยายามวิทยุไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อขอคำแนะนำ แต่เขาก็ไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้เลย
หน่วยซีล จึงปล่อยคนที่ไม่มีอาวุธเหล่านั้นไป แม้จะรู้ว่าเป็นไปได้มาก ที่คนเลี้ยงสัตว์จะแจ้งกองกำลังของ ตอลิบาน แต่นั้นก็เป็นการตัดสินใจที่ Luttrell รู้ว่าหากเกิดขึ้นจริง เราก็จะสามารถลงนามในหมายจับได้อย่างถูกต้อง
การโจมตี
เมื่อภารกิจของพวกเขาถูกทำลายลง หน่วยซีลจึงพยายามที่จะย้ายไปตั้งรับแทน แต่แล้วไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงต่อมา กองกำลังของ Shah หลายสิบคนก็โผล่ออกมาเหนือแนวสันเขา
จากนั้น ฝนกระสุนจากปืนไรเฟิล ระเบิดและอาวุธวิธีต่าง ๆ ก็ถาโถมกระหน่ำลงมาจากภูเขา จนทำให้ภูมิประเทศนั้นเปลี่ยนไปเป็นกองเพลิง
ในขณะที่นักสู้ของ ตอลีบาน กำลังลุกล้ำเข้ามาใกล้ หน่วยซีลก็ตะเกียกตะกายล้มลง พร้อมทั้งกระโดดลงจากภูเขาเป็นระยะทางหลายร้อยฟุตเพื่อหลบเลี่ยงวิถีอาวุธเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้ Luttrell ที่อยู่ระหว่างการหลบนี้ จึงหกล้มจนทำให้กระดูกสันหลังของเขาหักสามท่อน
ความพยายาม
อีกทั้ง Dietz ยังถูกยิงอีกหลายนีด ในระหว่างการดับไฟ และแม้ว่านิ้วหัวแม่มือขวาของเขาจะถูกทำลายไปจากแรงระเบิดในการต่อสู้ แต่เขาก็ยังคงยิงใส่ศัตรูเพื่อปกป้องหน่วยของเขาไม่ยอมหยุด
ขณะที่ Luttrell เกี่ยวแขนของ Dietz ไว้ ใต้ไหล่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อลากเขาลงไปตามทางลาด แต่แล้ว Dietz ก็ถูกกระสุนยิงทะลุผ่านจากด้านหลังศีรษะ จนทำให้เขาเสียชีวิตในอ้อมแขนของ Luttrell
ร้อยโท Murphy ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน รู้ว่าโอกาสที่ดีที่สุดในการเอาชีวิตรอดจากที่นี้ คือการเรียกกำลังเสริม เพราะหากไม่มีการเชื่อมต่อวิทยุที่ใช้งานได้พวกเขาคงจะไม่รอด
การ
Murphy จึงทิ้งความปลอดภัยส่วนตัวของเขาไป แล้วย้ายไปยังตำแหน่งที่เปิดเผยมากพอที่เขาจะสามารถรับสัญญาณโดยโทรศัพท์ดาวเทียมได้
ขณะที่ Murphy กำลังโทรหากำลังเสริมอยู่นั่นเอง ฝนกระสุนก็ทะลุผ่านหลังของเขาไป แม้ว่า ร้อยโท จะสามารถโทรออกได้สำเร็จ แต่หากเขาต่อสู้ต่อไปในตอนนี้ เขาก็คงไม่สามารถรอดชีวิตไปได้อยู่ดี
ในระหว่างนั้นเองระเบิดนำวิถี ก็ตกลงมาจนเกิดควันโขมงขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งหลังจากที่ทุกอย่างสงบลง ผู้ช่วย Dietz ก็ได้พบร่างของ Axelson ที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง จึงทำให้ทั้งสมองของเขาแตกละเอียดออกจากกัน แต่สุดท้าย ผู้ช่วย Dietz ก็ถูกยิงจนเสียชีวิตเช่นกัน
เข้าสู่ความตาย
แต่ Luttrell นั้นรอดชีวิตจากแรงระเบิดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ และสามารถหลบหนีการจับกุมได้ จนเมื่อกำลังเสริมมาถึง เสียงแจ้งเตือนจากสัญญาณวิทยุของ Murphy ดังขึ้น
จากนั้นเฮลิคอปเตอร์สองลำ ที่นำทหารปฏิบัติการพิเศษมาด้วย ก็ได้ลงจอด เหล่าทหารจึงรีบวิ่งไปยังพื้นที่ที่เกิดเหตุ และเริ่มดับไฟ แต่ทันทีที่เครื่องบินลำหนึ่งบินขึ้น ระเบิดที่ขับเคลื่อนด้วยจรวดก็ยิงลงมาจากท้องฟ้า ด้วยเหตุนี้ หน่วยซีลแปดคน พร้อมด้วย ทหาร Night Stalkers อีกแปดคนบนเรือทั้งหมดจึงเสียชีวิต
หลังจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป ชาวอเมริกัน 19 คนก็ได้เสียชีวิตตามไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้น Luttrell ที่มีบาดแผลจากกระสุน หลังหักจากก้อนหิน และมีเศษกระสุนที่เกือบทะลุออกมาจากขาของเขา ก็ยังคงรอดชีวิตมาได้
Luttrell ที่คลานผ่านภูเขาไปเจ็ดไมล์ แม้จะมีบาดแผล แต่เขาก็ไล่สังหารหัวหน้ากลุ่ม ตอลิบาน ด้วยปืนไรเฟิลและระเบิดขณะที่เขายังคงหลบเลี่ยงจากการจับกุมไปด้วย
จนเมื่อดวงอาทิตย์สาดแสง Luttrell ที่กระหายน้ำ จึงต้องเลียเหงื่อที่แขนของเขาไปพรางกระทั่งพบน้ำตก ในขณะที่เขาจิบน้ำเย็น ๆ อยู่นั้นเอง เขาก็พบว่าตัวเองถูก กลุ่มคนในท้องถิ่นล้อมรอบอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตามชายเหล่านี้ก็พิสูจน์แล้วว่า พวกเขาเป็นมิตรมากกว่าศัตรู Mohammad Gulab ชายที่เข้ามาช่วย หลังจากที่เขามั่นใจว่า Luttrell ไม่ใช่กลุ่ม ตาลีบาน เขาจึงนำคนอีกสามคน ช่วยกันแบก Luttrell ที่ได้บาดเจ็บกลับไปยังหมู่บ้าน Sabray Gulab
พร้อมทั้งดูแลรักษา แบ่งอาหารให้เขาได้ทาน โดย หลังจากที่ Luttrell ไปถึงหมู่บ้าน ผู้คนในหมู่บ้านก็เรียกเขาด้วยรหัสประจำว่า Pashtunwali
แม้ว่ากลุ่ม ตอลิบาน จะเข้ามาล้อมหมู่บ้านและคุกคามครอบครัว รวมถึงเพื่อนบ้านต่าง ๆ เป็นครั้งคราว เพื่อบีบบังคับให้ชาวบ้านส่ง Luttrell กลับไปยังอเมริกัน
แต่ Gulab ก็ปฏิเสธ หลังจากนั้นสี่วัน Luttrell ก็ถูกย้ายไปอยู่ในถ้ำเพื่อหลบเลี่ยงจากการถูกจับกุม พ่อของ Gulab ที่ทนต่อเหตุการณ์นี้ไม่ไหว เขาจึงเดินทางไปยังด่านนาวิกโยธิน พร้อมด้วยข้อความจาก Luttrell ไปส่งให้กองทัพ เพื่อเปิดปฏิบัติการค้นหาและเข้าช่วยเหลือ ด้วยเครื่องบินรบและกองกำลังภาคพื้นดิน เข้าโจมตีกลุ่ม ตาลีบาน และนำชายที่หายไปกลับบ้าน
ความช่วยเหลือ
หลังจากนั้นไม่นาน หน่วยช่วยเหลือก็มาถึง Gulab ผู้เป็นลูกชาย จึงช่วย Luttrell เดินกะเผลกขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ที่รออยู่ เพื่อส่งให้นักกระโดดร่มของกองทัพอากาศ ที่ยื่นแขนออกไปหา Luttrell แล้วพูดว่า "ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับพี่ชาย"
หลังจาก Luttrell กลับมาและได้เข้ารับการรักษาจนหายดี เขาก็ได้รับ Navy Cross ในพิธีทำเนียบขาวปี 2006
Axelson และ Dietz ได้รับเกียรติเช่นเดียวกัน ส่วน Murphy ก็ได้รับเหรียญเกียรติยศทางทหารสูงสุดของประเทศในภายหลัง
Matthew G. Axelson, Daniel R. Healy, James Suh, Marcus Luttrell, Eric S. Patton and Michael P. Murphy pose in Afghanistan on June 18, 2005. (Credit: U.S. Navy via Getty Images)
Luttrell ที่เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจึงต่อสู้กับความรู้สึกผิด และโรคเครียดหลังสงคราม และผลกระทบทางกายภาพในช่วงหลายปีต่อมา
“ที่จริงผมควรเสียชีวิตบนภูเขาลูกนั้นไปพร้อมกับทีม” เขากล่าวถึงความทรมานของเขา ในการให้สัมภาษณ์กับ NBC ในปี 2550 “แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ได้ทิ้งส่วนหนึ่งของตัวเองไว้ที่นั่นนับแต่วันนั้นแล้ว”
ดังคำที่กล่าวไว้ว่า “ทุก ๆ การสูญเสียมิใช่ สิ่งอื่นใด เว้นแต่จะเป็นเครื่องเตือนใจว่า ในโลกนี้ไม่ได้มีสิ่งใดคงทนถาวร ไม่แม้กระทั่งความทุกข์ของตัวท่านเอง”
1
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา