Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Sports Addict
•
ติดตาม
10 ธ.ค. 2020 เวลา 07:01 • กีฬา
ถึงเวลา ... กิเลนตื่น
สิ้นเสียงนกหวีดยาวที่ SCG Stadium ในศึกฟุตบอล Chang FACup 2020 รอบ 32 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา
มองเผินๆอาจเป็นชัยชนะนัดหนึ่งของทีม “กินเลนพยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็จริงแต่หากเจาะลึกลงไปอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วนั้น นัดนี้ถือเป็นนัดที่สำคัญที่สุดในฤดูกาลนัดหนึ่งของพวกเค้า ไม่ต่างกับเกมส์ที่บุกไปเอาชนะบุรีรัมย์ถึงในบ้านสักเท่าไหร่นัก เพราะการเอาชนะบีจีปทุม ซึ่งในฤดูกาลนี้ “ยังไม่แพ้ใคร” นั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีอีกจุดหนึ่งของเมืองทองในยุคของตำนานของทีมอย่าง “มาริโอ ยูรอฟสกี้”
ปลุกกิเลน ... ต้องใช้กิเลน
การกลับมาของ "ซุเปอร์ มาริโอ้" ที่มาคราวนี้เค้าเปลี่ยนบทบาทจากผู้เล่นมาเป็นโค้ช
นับตั้งแต่ก้าวเข้ามาคุมทีมแทนที่ของ “กาม่า” ที่ลาออกไปนั้น มาริโอ ยูรอฟสกี้ ก็ได้เข้ามาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จนนัดล่าสุดเป็นนัดที่ 7 เข้าไปแล้ว ดูเผินๆมาริโออาจเป็นหน้าใหม่ในวงการโค้ชก็จริง แต่เค้าไม่ใช่หน้าใหม่ใน เอสซีจี สเตเดียม อย่างแน่นอน
ลูกทีมของเค้าในขณะนี้หลายๆคน เคยมองเค้าเป็นแบบอย่าง เคยนับถือเค้าอย่างพระเจ้าในถิ่นเอสซีจี นั่นยิ่งทำให้การ “ปลุก” จิตวิญญาณกิเลนของนักเตะทุกคนดูไม่ยากเย็นเลย การมีอารมณ์ร่วมกับเกมส์ การสั่งตะโกนลูกทีม การวิ่งไปดีใจกับแฟนบอล หรือไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ นี่คือการ “ให้ใจ” สำหรับตำนานนักเตะเบอร์ 20 ผู้นี้อย่างเต็มเปี่ยม
ไม่เพียงแค่มาริโอเท่านั้น การเข้ามาครั้งนี้เค้ายังพาอดีตเพื่อนร่วมทีมในยุครุ่งเรืองอย่าง “ดักโน่ เซียก้า” มาเป็นมือขวาข้างกาย คอยสนับสนุนพร้อมให้คำปรึกษาในการทำงานครั้งนี้อีกด้วย ยิ่งทำให้ “เลือด” ของกิเลนในยุคนี้มันช่างเข้มข้นซะเหลือเกิน
ได้เวลา กิเลน ยังบลัด
เหล่ากิเลนยังหลัด พร้อมแล้วสำหรับการก้าวมาเป็นตัวหลักของทีม
ในปีนี้ เป็นอีกหนึ่งปีที่เมืองทองฯนั้น ไม่ได้ทุ่มเม็ดเงินซื้อนักเตะชื่อดังอย่างมากมายนัก กลับกันพวกเค้าได้ไปซื้ออดีตลูกหม้อเก่าอย่าง “เคน” พิชรา อุทรา กลับมาจากทางด้านของสมุทรปราการเพียงแค่นั้น
นอกนั้นตัวไทยที่เหลือคือเด็กกลัดมันวัยยังบลัดที่กำลังต้องการพิสูจน์ตัวเองอย่าง สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ , สรวิทย์ พานทอง , กรวิชญ์ ทะสา , ศฤงคาร พรหมสุภะ , วีระเทพ ป้อมพันธุ์ , วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ , ปรเมศย์ อาจวิไล รายชื่อเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เล่นที่ผ่านเยาวชนทีมชาติมาแล้วแทบทั้งสิ้น
ด้วยความเป็นดาวรุ่ง หรือบางคนเพิ่งได้เล่นไทยลีกแบบเต็มๆเกมส์ด้วยการเป็นตัวหลัก ทำให้การยืนระยะหรือการรักษามาตราฐานฟอร์มการเล่นนั้น อาจเป็นไปได้ยากสักนิดหนึ่ง และด้วยอันดับตารางคะแนน รวมถึงรายชื่อผู้เล่น ณ ตอนนี้ก็ต้องบอกว่าเราอาจกาชื่อของเมืองทองฯทิ้งไปได้เลยสำหรับทีมที่จะลุ้นแชมป์
แต่ทว่าอีกหนึ่งหรือสองฤดูกาลข้างหน้าก็ไม่แน่นักที่เหล่า “กิเลน ยังบลัด” เหล่านี้จะพาทีมของพวกเค้าคว้าแชมป์ไทยลีกกลับสู่ถิ่น SCG Stadium อีกครั้งก็เป็นได้
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย