10 ธ.ค. 2020 เวลา 10:18 • หุ้น & เศรษฐกิจ
FOCUS : วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ เริ่มส่อแววปะทุ หลังจากราคาบ้านใน San Francisco ซึ่งเป็น 1 ในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของสหรัฐฯ ร่วงลงถึง 35% และเริ่มมีสัญญาณของการผิดชำระหนี้เพิ่มขึ้น
1
ในขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งสูงขึ้นและการเสนอขาย IPO ของบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับสูงกำลังจะสร้างเศรษฐีเงินล้านใหม่ ๆ มากมาย แต่สำหรับเมือง San Francisco นั้น คาดว่าช่วงเวลาที่เฟื่องฟูได้สิ้นสุดลงแล้ว
4
การฟื้นคืนของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบให้ San Francisco ซึ่งถือเป็นเมืองศูนย์กลางเทคโนโลยีแห่งหนึ่งของโลกกลับเข้าสู่มาตรการ Lockdown
สำนักงานของบริษัทต่าง ๆ มีแต่ความว่างเปล่า เนื่องจากนโยบายการทำงานจากที่บ้านขยายเวลาออกไปเรื่อย ๆ และในสัปดาห์นี้ก็มีการขายหุ้นของบริษัทที่ถือกำเนิดในเมืองนี้คือ Airbnb Inc และ DoorDash Inc
2
แม้ว่าโดยปกติเมืองนี้จะท่วมท้นไปด้วยความมั่งคั่ง แต่ปัจจุบันคนงานหลายคนกำลังทยอยอพยพออกจากเขตชานเมือง รวมถึงสถานที่พักผ่อนนอกเมือง และไม่มีที่ไหนที่จะมีผลกระทบเด่นชัดไปกว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งค่าเช่าอพาร์ทเมนต์กำลังร่วงลงอย่างรุนแรงที่สุดในประเทศ
2
ค่าเช่าเฉลี่ยสำหรับห้องสตูดิโอในเดือนที่แล้วลดลง 35% จากปี 2019 เป็น 2,100 ดอลลาร์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำหรับห้องพักแบบ 1 ห้องนอนลดลง 27% เป็น 2,716 ดอลลาร์ ตามข้อมูลของ Realtor.com
2
การลดลงของค่าเช่ากำลังทวีความรุนแรงขึ้นจากช่วงก่อนหน้านี้(ช่วงต้นของการระบาด) ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผู้คนที่มีความยืดหยุ่นในการย้ายที่อยู่ (flexibility to move) กำลังอพยพออกจากเมือง San Francisco ซึ่งยังคงเป็นเขตที่อยู่อาศัยที่มีราคาแพงที่สุดในสหรัฐฯ
San Francisco เป็น 1 ในเมืองของสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจาก COVID-19 ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมหลัก ๆ ที่ขับเคลื่อนความมั่งคั่งของเมือง ขณะที่บริษัททางการเงินใน New York หลายแห่งกำลังผลักดันให้ผู้คนกลับไปทำงานที่สำนักงาน
แต่ในทางกลับกัน บริษัททางด้านเทคโนโลยีนั้นมีการยอมรับการทำงานระยะไกลอย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวของอสังหาริมทรัพย์ราคาแพง และปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ฝังรากลึก
Danielle Hale หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Realtor.com กล่าวว่า
“Tech companies have been among the most flexible with allowing people to work remotely and a lot of workers are taking advantage of that, I expects San Francisco’s apartment rents to eventually recover, though it depends on how quickly people return to the office.”
1
“บริษัททางด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ มีความยืดหยุ่นมากที่สุดในการอนุญาตให้ผู้คนทำงานจากระยะไกล และมีคนงานจำนวนมากใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้น แต่ฉันคาดว่าค่าเช่าอพาร์ทเมนต์ของ San Francisco จะฟื้นตัวในท้ายที่สุด แม้ว่ามันจะขึ้นอยู่กับว่าผู้คนจะสามารถกลับไปที่สำนักงานได้เร็วแค่ไหน”
ในปัจจุบันหลายบริษัทกำลังดำเนินการเพื่อลดขนาดพื้นที่ของสำนักงาน เนื่องจากพวกเขามองว่าสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากไวรัส ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
1
อัตราว่าง (office-vacancy rate) ของสำนักงานใน San Francisco เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าในปีนี้เป็น 8.3% ขณะที่การขอเช่าลดลงเกือบ 9% ตามรายงานของ CBRE บริษัทชั้นนำทางด้านอสังหาริมทรัพย์
1
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Pinterest Inc. ได้ระดมทุนเกือบ 90 ล้านดอลลาร์เพื่อยกเลิกการเช่าอาคารในย่านใจกลางเมืองแห่งใหม่ เนื่องจากการปรับมุมมองของบริษัทในยุคหลัง COVID-19 ขณะที่บริษัท Startup ทางด้านที่อยู่อาศัยอย่าง Opendoor จ่ายเงินเป็นจำนนวน 5.2 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติการเช่าในย่านใจกลางเมืองก่อนกำหนด
นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริษัท Hewlett Packard Enterprise Co. ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับ Silicon Valley กล่าวว่าพวกเขาได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่ Texas โดยเข้าร่วมกับบริษัทต่าง ๆ เช่น Palantir Technologies Inc. และ Charles Schwab Corp. ในการย้ายสำนักงานหลักออกจากรัฐ California ไปยังรัฐที่มีต้นทุนต่ำกว่า
Hans Hansson ประธานของสำนักงานนายหน้า Starboard ซึ่งดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ใน San Franciusco กล่าวว่าเขาคาดว่าผลกระทบของ COVID-19 ภายในเมืองจะใกล้เคียงกับช่วงเวลาหลังแผ่นดินไหวเมื่อปี 1989 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 60 คนและทำให้มีการอพยพออกจากพื้นที่ในอีกหลายปีต่อจากนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน
1
“เราพึ่งพาเทคโนโลยี แต่พวกเขาไปแล้ว" Hansson กล่าว
เศรษฐกิจของเมืองได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการ Lockdown ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระเงินของประชาชน ท่ามกลางการปิดตัวลงหรือล้มละลายของธุรกิจ
1
ผู้อยู่อาศัยในอพาร์ทเมนต์กำลังมองหาการลดค่าเช่าและเกือบ 9% ไม่ได้จ่ายค่าเช่าเต็มจำนวนในเดือนพฤศจิกายน ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยสมาคมอพาร์ทเมนของเมือง (San Francisco Apartment Association) ซึ่งทำงานในนามของหน่วยงานท้องถิ่น
1
นอกจากนี้เมื่อมองโดยรวมแล้ว เราจะพบว่าอัตราผิดชำระหนี้ทางด้านอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ เริ่มที่จะส่งสัญญาณของการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว และสัญญาณก็บ่งบอกว่านี่ยังเป็นเพียงช่วงแรกของวิกฤตเท่านั้น (ลองสังเกตกราฟด้านล่างเทียบกับในช่วงปี 2008 ที่เกิดวิกฤตการเงินโลก)
ในการสำรวจความคิดเห็นของคนงานทางด้านเทคโนโลยี โดยเว็บไซต์ networking ระดับมืออาชีพพบว่าประมาณ 20% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดเกือบ 1,200 คนกล่าวว่าพวกเขาย้ายออกจาก San Francisco และมากกว่า 10% หรือ 124 คนกล่าวว่าการย้ายที่อยู่จะเป็นไปอย่างถาวร
1
ตลาดจะมีการฟื้นตัวหรือไม่ ?
สำหรับเรื่องนี้ Jed Kolko หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำซานฟรานซิสโกจากบริษัท Indeed กล่าวว่า
“San Francisco and California had their biggest inflow of population just after the Great Recession, when home prices became relatively affordable, It could be that there’s a sustained drop in real estate prices that draws people in.”
“เมือง San Francisco และรัฐ California มีประชากรไหลเข้ามามากที่สุดหลังภาวะถดถอยครั้งใหญ่ เมื่อราคาบ้านอยู่ในระดับที่ค่อนข้างไม่แพง ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าจะมีการลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ดึงดูดผู้คนเข้ามา”
1
(สรุปง่าย ๆ ก็คือ ตลาดจะต้องร่วงลงก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมา และเมื่อฟื้นตัวกลับมาจนถึงจุดสูงสุดก็จะพังทลายลงอีกรอบ เป็นวัฏจักรเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ)
3
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
โฆษณา