10 ธ.ค. 2020 เวลา 08:52 • ธุรกิจ
แนวคิดการได้มาซึ่งทรัพยากรของคนอื่นโดยไม่ใช้เงินทุน — คุณค่าของผลตอบแทนคาดหวัง
เราจะให้อะไรแก่เจ้าของทรัพยากรเป็นการตอบแทน
การได้มาซึ่งทรัพยากรจากคนอื่นนั้นมักต้องการผลตอบแทนเสมอ หากเป็นการกู้เงินจากธนาคาร ธนาคารก็ต้องการผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย หากเป็นการขอเงินลงทุนหรือทรัพยากรจากนักลงทุน นักลงทุนเหล่านั้นจะต้องการผลตอบแทนกลับคืน ซึ่งแตกต่างกันไปโดยไม่จำกัดที่ตัวเงินเพียงอย่างเดียว
หากพิจารณาเรื่องของผลตอบแทนในแง่มุมของการกู้เงิน จะพบว่าอัตราผลตอบแทบจะแตกต่างกันไปตามคุณค่าของผู้เสนอ (คุณค่าของผู้กู้) ต่อผู้ให้กู้
แผนภาพ แสดงความสัมพันธ์ระหว่างผลตอบแทนที่ต้องการกับคุณค่าของผู้กู้ต่อผู้ให้กู้
หากเป็นการกู้เงินของคนในครอบครัว คุณค่าของผู้กู้เกิดจากความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายอาจจะไม่มีหรือมีน้อยมาก
ในทางกลับกัน หากผู้กู้เป็นคนไม่มีเครดิต ไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ จึงต้องหันหน้าเข้าหาการกู้เงินนอกระบบซึ่งดอกเบี้ยแพงมหาศาล คือสิ่งที่ผู้กู้ต้องจ่ายออกไป
ผลตอบแทนคาดหวังในการให้ทรัพยากรจึงแปรเปลี่ยนไปตามความสัมพันธ์ของเจ้าของทรัพยากรกับผู้ที่มาเสนอ หากว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างคนในครอบครัวหรือในหมู่ญาติพี่น้องด้วยกันเอง อาจจะไม่มีความคาดหวังในผลกำไรที่เกิดจากการให้ทรัพยากรเหล่านั้นมา
สำหรับความสัมพันธ์เชิงพันธมิตรทางธุรกิจ ผลตอบแทนคาดหวังมักจะสูงกว่าการอัตราดอกเบี้ยหรือการแสวงหาผลกำไรจากตลาดหลักทรัพย์ เพราะการเริ่มต้นพัฒนาธุรกิจใหม่มักจะมีความเสี่ยงที่สูงกว่านั่นเอง
อย่างไรก็ตาม พันธมิตรทางธุรกิจมีหลายประเภทและผลตอบแทนคาดหวังก็ไม่ได้อยู่ในรูปตัวเงินเสมอไป
บางคนต้องการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ เช่น สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ร่วมมือกับ Alibaba ในการส่งออกสินค้าเกษตรและโอทอป ไปยังตลาดจีน ในขณะเดียวกัน Alibaba ก็ได้รับการสนับสนุนด้านการภาษีอากรต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
บางคนต้องการเพื่อมาต่อยอดในธุรกิจของตนเอง เช่น บริษัทแสนสิริที่ลงทุนใน startup ด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้ได้รับองค์ความรู้ทั้งในเรื่องเทรนด์เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงการนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กร
บางคนต้องการข้อมูล อย่าง การร่วมมือกันระหว่าง BTS และ LINE ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เรียกว่า LINE Pay โดยสามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าและบริการต่างๆได้มากมาย โดย LINE จะได้ข้อมูลการใช้จ่ายของสมาชิกมาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ รวมไปถึงการโฆษณาให้ตรงกับความต้องการของสมาชิก ในชณะที่ BTS ก็ได้ขยายฐานลูกค้าออกไปยังกลุ่มที่ไม่ได้ใช้ BTS และขยายธุรกิจไปในสินค้าและบริการอื่นๆนอกเหนือจากบริการรถไฟฟ้า
การเข้าใจความต้องการของพันธมิตรทางธุรกิจจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ในการต่อรองเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพยากรที่ต้องการ
โฆษณา