Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หมอมวลชน
•
ติดตาม
11 ธ.ค. 2020 เวลา 09:00 • ความงาม
*รอยแผลสิว*
อันรอยแผลเป็นด่างดำตลอดจนแผลที่เป็นหลุมนั้น ต้องดูแลตั้งแต่ตอนเกิดสิวใหม่ๆ เกิดบาดแผลแต่เนิ่นๆ เพราะหากได้หลุมได้รอยมามากแล้ว ก็อาจจะสายเกินแก้
ที่มาของรอยแผลจากสิวนั้น สาเหตุแรกคือบาดเจ็บชอกช้ำ จากการกดบีบเค้นที่รุนแรงเกินเหตุ นอกจากเจ็บเหลือล้น บวมเหลือหลายแล้ว ผลที่ตามมา คือรอยช้ำดำเข้มไปอีกนานเหลือรับ
การกดสิวที่ถูกหลัก ถูกวิธี ถูกทิศทาง จึงต้องคำนึงถึงให้มาก…กดให้ถูกทิศ กดตามรูต่อมไขมันก็คือลงเฉียงๆ ย้อนแนวเส้นขนตรงนั้น…กดให้ถูกวิธีคือให้น้ำหนักพอดีพอออก...อย่าเค้นจนเลือดกระฉอก...ไม่ใช่กดแบบเอาเป็นเอาตายจนช้ำชอกออกบวมเป่ง อย่าสะกิดเขี่ยทิ่มแทงหัวสิว...กดให้ถูกหลักคือห้ามกดสิวอักเสบ…อย่ากดใกล้จุดอักเสบ เพราะจะบวมช้ำลามไปทำให้ยิ่งอักเสบ…เลือกเม็ดที่ทาสลายอุดตันแล้วผุดขึ้นมาพร้อมกด…ค่อยๆ ทำเฉพาะเม็ด ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะแต่ละเม็ดสุกไม่พร้อมกัน จะหวังให้กดครั้งเดียวออกได้หมดจรดนั้นเป็นไปไม่ได้...อย่าเอาแอลกอฮอล์ไปเช็ดหัวสิวเพราะมันแสบร้อนระคายเคือง ระคายแผล ระคายผิว !
หากมีอักเสบต่อเนื่องในขณะที่ขาดสารอาหารอันจำเป็นต่อการหายของบาดแผล ขาดการเชื่อมประสานของเนื้อเยื่อ มีการติดเชื้อแทรกซ้อน ก็อาจรุนแรงถึงขนาดเกิดหลุมตื้นหลุมลึกตามระดับความรุนแรงของบาดแผล ตลอดจนระดับความขาดแคลนสารอาหาร ฯ…การประหยัดค่าใช้จ่ายสุดๆ ไม่ลงทุนเผื่ออนาคตในเรื่องให้ถึงพร้อมซึ่งสารอาหารจำเป็นจึงอาจได้ไม่คุ้มเสีย เพราะปัจจัยที่ร่างกายต้องมี เพื่อซ่อมแซมสิ่งสึกหรอ เพื่อการสร้างเนื้อเยื่อ เพื่อต้านทานเชื้อโรค ได้แก่แร่ธาตุสังกะสี วิตามินซี น้ำมันปลา เบต้ากลูแคน ตลอดจนสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ เป็นต้น
ส่วนที่กล่าวกันว่าแค่กินอาหารให้ครบ 5หมู่ก็เพียงพอนั้น คงเป็นการมองโลกสวยสำหรับคนเมือง เพราะปัจจุบันล้วนหาอาหารธรรมชาติที่ปลอดสารพิษปนเปื้อนได้ยากเต็มที ถึงมีก็มักแพงกว่า หายากกว่าสารเสริมอาหารเสียอีก
นอกจากสารอาหารช่วยการหายของรอยแผลแล้ว เราทราบดีว่าโครงสร้างหลักของผิวหนังนั้นประกอบด้วยคอลลาเจน อิลาสตินและกรดไฮอะลูโรนิค ขาดคอลลาเจนไหนเลยจะนุ่ม ขาด อิลาสตินไหนเลยจะเด้ง ขาดไฮยาซี เอ้ย ! ไฮอะลูโรนิคแล้วจะไปแน่นเต่งตึงไร้รอยริ้วได้อย่างไร ! สิ่งทั้งหลายนี้ล้วนต้องมีวัตถุดิบไม่ว่าคอลลาเจน ซิงค์ วิตามินซี น้ำมันปลา เบต้ากลูแคน
จะให้ขาวกระจ่างใสไม่ดูหมองคล้ำ มีน้ำมีนวลก็ต้องมีกลูต้า วิตามินซี ช่วยลดการสร้างสี จึงนอกจากหลีกเลี่ยงพาราอันพาดำเพราะไปแย่ง กลูต้ามาล้างพิษพาราแล้วอาจต้องเสริมเติมกลูต้า ทุกวันนี้กลูต้าที่ตับสร้างได้ยังต้องแบ่งตัวไปใช้ต้านสารกันบูดกันเสีย ที่เพิ่มมาในอาหารประจำวันมากๆ จนที่กล่าวกันว่าตับนั้นสามารถสร้างกลูต้าเองได้เพียงพอนั้น อาจจะไม่จริง ก็แค่กินพาราก็พาดำแล้วยังถูกใช้ไปต้านสารกันบูด แล้วจะมีอะไรเหลือไปสกัดกั้นสีดำสีคล้ำ จึงดูเหมือนไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าควรเสริมเพิ่มเติมกลูต้า วิตามินซี
แล้วสารต้านอนุมูลอิสระไม่ว่า OPC เบต้ากลูแคนนั้นก็ต้องมีพร้อมใช้ต้านรังสี UVB มิให้กระตุ้นการสร้างสีดำคล้ำ ต้าน UVA มิให้เหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย...ผิวจะดีมีเลือดฝาดนั้นต้องไม่ขาด โอเมก้า3 น้ำมันปลา อันเป็นปัจจัยในโครงสร้างผนังเซลล์ผิว...ผนังเซลล์ผิวที่ดียังป้องกันการเกิดอุดตันก่อสิว โอเมก้า3 ยังช่วยต่อต้านอาการอักเสบอีกแรงหนึ่ง
ช่วงสิวหายซ่อมแผลใหม่ ผิวที่บอบบาง แล้วโดนแดดเผา ย่อมดำเข้มสนิทติดทนนาน แต่ช่วงบาดแผลอ่อนแอบอบบางนี้จะทากันแดดบำรุงใดๆ ผิวก็ไม่รับ ร่มหรือผ้าปิดจึงจำเป็นต้องใช้ไปก่อน...ครั้นแผลทุเลาขึ้นมาหน่อยจึงควรรีบหากันแดดมาทาช่วยกันรังสี กันแดดดีๆ ช่วงนี้ไม่ใช่ SPF สูงเข้าว่า แต่ควรหาที่เคมีผสมน้อยๆ จะได้ไม่ซึมเข้าแผลมากไป…ซึ่งก็คือ SPF15 ควรทาบ่อยๆ ยิ่งยามที่ต้องออกแดดนั้นควรจัดให้ทุก 2 ชม.เพราะแดดเมืองไทยนั้นก็แรงแซงแชมป์โลก !
สิ่งล้างหน้านั้น อย่าคิดว่าไม่สำคัญ หรือคิดว่าสบู่ใดๆ ก็ฟอกล้างได้เหมือนๆ กัน เพราะช่วงผิวบอบบางอ่อนแอนี้ย่อมต้องพึ่งพาสารโอบอุ้มบำรุงปกป้อง พึงหลีกหนีสิ่งระคายเคือง จึงควรพิถีพิถัน คัดสรรเจลล้างหน้าที่อ่อนใส
ยังมีวิตามินอีออยที่ขึ้นชื่อในการสมานผิว สมานรอยแผล ลดรอยดำด้วยการทาทุก 6 ชม.สลับกับสารสกัดบัวบกที่สรรพคุณเหลือหลายขนาดเสือยังรู้ใช้ในยามที่บาดเจ็บ นำมาใช้ร่วมกันได้ยิ่งดี ยิ่งเสริมส่งกัน
ระหว่างการแก้ปัญหา...หากมีรอยดำตกค้างบ้างก็ยังมีอะเซลีนทรีทเมนต์ช่วยลดรอยดำ ลดสิวเป็นอีกตัวช่วย ตลอดจน whitening มาสค์...หากมีระคายเคือง ผิวแห้งไม่นุ่มไม่เนียน มาสค์สาหร่ายก็เป็นสิ่งช่วยลดสิวบำรุงผิวได้
สรุปเมนูที่สูงกว่ามาตรฐานสำหรับงานลดและปกป้องรอยแผลเป็นได้แก่
1. แต้มรอยแผลรอยดำด้วยน้ำมันวิตามินอีสลับกับบัวบกสกัดทุก 6 ชม. โดยอาจใช้สลับกันเว้นช่วง 15 - 30 นาที
2. ใช้เจลอ่อนใสล้างหน้าเช้าเย็น
3. เช้าทากันแดด และทาซ้ำทุก 2 ชม.หากออกแดดจัด
4. อย่าให้ขาดสารอาหารสำคัญอันจำเป็นต่อการหายแล้วได้ผิวสวย อีกทั้งต้องได้แต่เนิ่นๆขณะเกิดบาดแผล ไม่ใช่ รอกินรอแก้ เมื่อเกิดแผลเกิดหลุมขึ้นแล้ว
ได้แบบนี้ ส่วนมากแผลก็มักหายด้วยดี ยกเว้นบางรายที่ร่างกายตอบสนองต่อการหายผิดปกติไป ก็ยังอาจเกิดแผลเป็นนูนใหญ่แบบ คีลอยด์ก็มีได้…บาดแผลที่ลงลึกไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ หากเย็บภายในไม่เข้าที่ ปะต่อผิวได้ไม่ดี ย่อมมีสิทธิ์เกิดรอยแผลเป็นนูนใหญ่
ส่วนแผลหลุมที่เกิดแล้วย่อมแก้ไขได้ยาก หลุมตื้นอาจพอแต้มน้ำยาช่วยเรียกเนื้อได้บ้าง แต่หลุมลึกนั้นมักต้องพึ่งการศัลยกรรมตกแต่งเช่นกรอผิว เลเซอร์ ทว่าเลเซอร์ก็ก่อผลเสียร่วมด้วยเช่นทำให้ผิวตรงนั้นเสียหายบอบบางระคายง่าย ทนแดดไม่ได้ไปตลอดชีวิต พวกคีลอยด์แผลหลุมทั้งหลายทั้งปวงนี้ล้วนควรต้องพบแพทย์ผิวหนังหรือศัลยกรรมตกแต่งเท่านั้น
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย