The Queen 2.
กล่องประทับตราครั่งปิดไว้ใบนี้เป็นกล่องใส่เอกสารขนาดกลางมีลักษณะเหมือนกล่องทั่วไป หากแต่ลวดลายรอบกล่องเป็นลวดลายประหลาดและแปลกตานัก เมื่อรวมกับตราครั่งที่ประทับอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกไปว่ากล่องใบนี้มีดวงตาแดงฉานจับจ้องมองอะไรบางอย่างอยู่
และดวงตาแดงฉานนี้เองกำลังจับจ้องมาที่ข้าพเจ้าตรงเบื้องหน้ามัน
เมื่อนึกถึงขณะนั้น ข้าพเจ้าเองในตอนนี้ก็ยังอดประหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้...
แต่ข้อมูลจากที่ผมได้มาจากโบราณสถานนั้นมัน...
ยังไงก็ตามที ทางเราก็ยังต้องทำการวิจัยต่อไปก่อน คงจะยังไม่สามารถบอกได้ว่าข้อมูลนั้นเป็นของจริงหรือไม่
ข้าพเจ้ายังมีข้อกังขาแปลกใจในคำขอของสหายรักจึงได้รั้งรอและเก็บกล่องประทับตราครั่งนี้ไว้ก่อนชั่วคราว และเมื่อจะเก็บกล่องใบนี้ข้าพเจ้าก็เห็นสมุดบันทึกอีกหลายเล่มที่บรรจุไว้ในกล่องเก็บเอกสารเดียวกัน ข้าพเจ้าจึงหยิบสมุดบันทึกเหล่านี้ออกมา
ข้าพเจ้าพบว่าสมุดบันทึกเหล่านี้จัดวางเรียงไว้เป็นระเบียบดุจเดียวกันกับเอกสารในกล่องที่ข้าพเจ้าได้ส่งไปตามที่ที่สหายของข้าพเจ้าได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้
ลายมือที่เขียนอยู่แม้จะอ่านยากสำหรับผู้อื่นแต่ก็เป็นระเบียบ ข้าพเจ้าคุ้นชินกับลายมือนี้มานานจึงอ่านได้อย่างไม่ลำบากนัก
เนื้อความที่ปรากฎในสมุดบันทึกนั้นเกี่ยวกับรายละเอียดการสำรวจโบราณสถานเก่าแก่แห่งหนึ่งเป็นส่วนใหญ่ ข้าพเจ้าจึงอ่านแต่เพียงผ่านๆเพราะเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่สู้จะสนใจมากนักอีกทั้งยังรายละเอียดในบันทึกนั้นก็โน้มเอียงเป็นไปในงานเชิงวิชาการเสียมากกว่า เมื่ออ่านบันทึกจบไปหลายเล่มข้าพเจ้าจึงบังเกิดความคิดที่จะมอบสมุดบันทึกเหล่านี้ให้กับทางสมาคมนักโบราณคดีที่สหายของข้าพเจ้าเข้าร่วมอยู่
และครั้นเมื่อข้าพเจ้ากำลังจะเก็บสมุดบันทึกเหล่านี้ ข้าพเจ้าก็พบว่ายังเหลือสมุดบันทึกเล่มเล็กๆอีกเล่มหนึ่งหล่นอยู่ข้างๆกล่องประทับตราครั่งใบนั้น ข้าพเจ้าจึงเปิดบันทึกเล่มนี้ออกอ่านดูอย่างผ่านๆด้วยคิดว่าคงเป็นบันทึกทางวิชาการเช่นเดิม หากแต่ข้าพเจ้าก็ต้องประหลาดใจที่บันทึกเล่มนี้หาใช่บันทึกการสำรวจไม่ มันกลับเป็นบันทึกประจำวันและบันทึกความเห็นส่วนตัวของสหายข้าพเจ้าเอง
อาจารย์ครับ ยังไงผมก็ว่า...
ผมเข้าใจ
...เมื่อคณะของเราสำรวจโบราณสถานเสร็จแล้ว หมอผีได้แต่เร่งให้เรากลับออกไปจากพื้นที่เสียด้วยเหตุอันใดไม่แน่ชัด รู้แต่เลาๆว่าน่าจะเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย
...พวกชาวบ้านเผาทุกอย่างในพื้นที่ปิดล้อม ควันคลุ้งจนพวกเราต้องย้ายแคมป์ไปตั้งที่อื่นแทนชั่วคราว
...แอบถามชาวบ้านเลยรู้มาว่าพวกเขาเจอพันธุ์ไม้ต้องสาปในตำนาน เราหูผึ่งเพราะที่เรามาที่นี่ก็เพราะเรื่องนี้ เราคิดว่ามันมีจริงตามตำนาน
...ฝนตกหนัก การเผาเลยต้องชะงักไป เรายังมีโอกาสอยู่
...คณะเราส่งสัมภาระส่วนหนึ่งกลับไปก่อนโดยมีThe Queenติดไปด้วย เก็บอย่างดีไม่ให้มีใครค้นเจอ เข้าแล็ปแล้วน่าจะได้อะไรคืบหน้าบ้าง ที่เหลือก็ค่อยๆทะยอยเก็บแคมป์ ผมแอบเอาThe Queenส่วนหนึ่งเก็บไว้อย่างดีส่งไปฝากไว้กับเพื่อนรักของผมเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น เราต้องสำรองไว้
...เราเก็บแคมป์เรียบร้อยและเตรียมตัวกลับ แล็ปยังไม่ได้บอกผลมาแต่เราต้องรีบกลับก่อนที่ความจะแตก หวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย
ทางสมาคมยินดีที่จะรับเอาข้อมูลชุดนี้ไว้ตรวจสอบต่อไป น่าจะไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องตำนาน ผมยังเห็นเหมือนเดิม
เท่านี้ก็เป็นพระคุณแล้วล่ะครับ เอกสารพวกนี้ผมเก็บไว้เองก็ไม่มีประโยชน์ สงสัยว่าเพื่อนผมคงจะลืมส่งกลับมาให้ทางสมาคมมากกว่า
โอเค เรียบร้อยแล้วล่ะ
ขอบคุณอาจารย์มากครับ
ข้าพเจ้าอ่านบันทึกเล่มเล็กจบลงด้วยความแปลกใจ อะไรคือThe Queenกันแน่ แล้วทำไมต้องเก็บไว้เป็นความลับขนาดนี้ และตำนานที่ว่านี้คืออะไรกันแน่ แต่ชื่อThe Queenเองก็ฟังดูคุ้นหูข้าพเจ้าเป็นอันมากราวกับว่าข้าพเจ้าเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้ว ข้าพเจ้าลองรื้อกล่องเอกสารใบนี้อีกครั้งอย่างละเอียด ครั้งนี้ข้าพเจ้าพบจดหมายเพิ่มอีก2ฉบับจึงได้เปิดอ่านดู
ฉบับแรกเป็นการกล่าวถึงความคืบหน้าจากห้องแล็ปที่ส่งThe Queenไปตรวจสอบ ผลการตรวจสอบนั้นระบุว่าเนื้อเยื่อของตัวอย่างนั้นยังคงสภาพดีอยู่และได้แยกเนื้อเยื่อนำไปเพาะและทำการวิจัยต่อเนื่องแล้ว เนื้อเยื่อเจริญเติบโตค่อนข้างดีในอุณหภูมิควบคุมเนื่องจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเนื้อเยื่อไม่สามารถเจริญได้ดีที่อุณหภูมิปกติ น่าจะเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ไม่พบตัวอย่างในที่อื่นๆอีกยกเว้นบริเวณแถบโบราณสถานเพราะพื้นที่แห่งนั้นมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมกับThe Queenมากกว่า รวมทั้งอาจไม่มีศัตรูโดยธรรมชาติของThe Queenด้วย
อีกฉบับหนึ่งนั้นเป็นการเล่าขานตำนานของThe Queenจากที่คณะสำรวจได้ประมวลไว้และสหายของข้าพเจ้าได้เรียบเรียงไว้เป็นการสรุปโดยมีใจความพอสังเขปดังนี้...
มีเรื่องเล่าขานตามตำนานของชนพื้นเมืองว่าเมื่อครั้งอดีตนั้น องค์ปฐมราชาได้ทำการแผ่ขยายอำนาจไปไกล เมืองต่างๆเข้ามาสวามิภักดิ์มากมาย ครั้งนั้นองค์ปฐมราชาได้ทำการผูกไมตรีกับราขาแห่งแคว้นทะเลเหนือโดยการขออภิเษกสมรสกับพระธิดาองค์โตขององค์ราชา เมื่อใกล้วันพระธิดากลับสิ้นชีพเสียก่อน ราชาแห่งแคว้นทะเลเหนือจึงยกพระธิดาองค์รองให้ทำการอภิเษกสมรสแทน แต่แท้ที่จริงพระธิดาองค์โตนั้นได้หนีการอภิเษกสมรสไปกับองครักษ์ของพระองค์ ภายหลังราชาแห่งแคว้นทะเลเหนือทราบเรื่องจึงได้ส่งกองทหารไปพาตัวทั้งสองกลับมารับโทษ
ข่าวคราวของกองทหารเงียบหายไป แต่กลับมีเสียงเล่าลือถึงกองทหารอันดุร้ายแต่งกายคล้ายกับกองทหารที่ส่งไปเดินทางมาที่แคว้นและอาละวาดไปทั่ว ทางแคว้นจึงได้ตั้งกองทัพรับมือแต่กลับถูกตีแตกอย่างง่ายดายและยึดเมืองนี้ไว้ได้ มีคนจากแคว้นนี้หนีรอดออกไปและได้ไปขอความช่วยเหลือจากองค์ปฐมราชา พระองค์จึงส่งกองทัพมาที่นี่ ด้วยกำลังและอาวุธที่เหนือกว่าทำให้มีชัยชนะเหนือกองทหารนั้นได้สำเร็จ
เมื่อทำการตรวจดูก็พบว่ากองกำลังเหล่านี้กลับเป็นศพของทหารที่ส่งไปล่าตัวพระธิดาและองครักษ์ เป็นที่น่าสังเกตว่าแต่ละศพจะมีดอกไม้เกาะติดอยู่ ตรวจสอบแล้วจึงพบว่าเป็นดอกไม้จริงๆที่พบได้เฉพาะในแคว้นนี้ เมื่อชันสูตรทุกอย่างแล้วเสร็จจึงมีความเห็นว่าดอกไม้ชนิดนี้น่าจะเป็นตัวการแพร่อะไรบางอย่างที่ทำให้ศพนั้นคืนชีพได้ องค์ปฐมราชาจึงให้ทำการปิดล้อมพื้นที่ ตัดทางเข้าออกทั้งหมดและทำการเผาทุกอย่างให้สิ้นซากรวมทั้งให้สร้างจารึกตราไว้เป็นกฎว่าห้ามทุกคนเข้ามาในเขตนี้ หากละเมิดก็จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปในเขตแคว้นนี้อีกเลย
เมื่ออ่านบันทึกมาถึงตรงนี้แล้วข้าพเจ้าก็พลันนึกขึ้นมาได้ว่าแท้จริงแล้วThe Queenคืออะไร
The Queen
The Missing Queen
ราชินีผู้สาบสูญ
(จบตอนที่2)
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
