12 ธ.ค. 2020 เวลา 00:45 • การศึกษา
“ความจริงผมก็โตมาในชนบท เเต่มันให้ความรู้สึกที่เเตกต่างกันมาก ชนบทในความทรงจำไม่ค่อยมีทุ่งนา มีเเต่ชายหาด ทะเล คลองเล็กๆในชุมชน”
.
ชอบชนบทที่มีทุ่งนามาก ตอนเช้าๆเวลาที่นาข้าวสีเขียวกระทบกับเเสงอาทิตย์ มันสวยมาก รวงข้าวเปลี่ยนเป็นสีทอง ตอนเย็นที่อาทิตย์จะลับขอบฟ้าก็ทิ้งเเสงสุดท้ายไว้สวยงามไม่เเพ้กัน
.
ผมย้ายมาสอนที่ปราจีนบุรีเป็นอาทิตย์เเรก โรงเรียนห่างจากกรุงเทพนั่งรถประมานหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เเละห่างจากตัวเมืองปราจีนราวสี่สิบกิโล จะเข้าเมืองสักครั้งก็คงต้องรอวันหยุด
.
เพื่อนครูเเละนักเรียนที่นี่ให้การต้อนรับดีมาก นักเรียนมี self-awareness (ความตระหนักรู้ในตนเอง) เเละ compassion (ความเห็นอกเห็นใจ) มากกว่าที่ผมคิดไว้ ต่างกับบรรยากาศห้องเรียนที่อยู่ในตัวเมือง
.
ด้วยการเรียนการสอนเเบบ block course study นักเรียนไม่ได้รู้สึกเเบบเรียนเป็นภาคการศึกษาเเล้ว เเต่จะเรียนเเบบสิบห้าวันตัดเกรดหนึ่งครั้ง หนึ่งเทอมมีหกคอร์ส
.
สำหรับวิชาหลักอย่างวิทย์ คณิต อังกฤษ ก็บุฟเฟ่เหมาเรียนทั้งช่วงเช้าไปเลย เพื่อเปิดพื้นที่ให้นักเรียนได้ค้นหาตัวเองให้ได้มากที่สุด หากพบว่ามันไม่เวิร์ค เราจะได้หาทางออกร่วมกันทันท่วงที
.
นักเรียนเเละผู้ปกครองที่นี่เปรียบเสมือนญาติต่างถิ่น ทุกวันก็จะมีคนยิ้มเเละทักทายให้กัน เหมือนว่ารู้จักกัน (เดาว่าเป็นผู้ปกครองนักเรียน) จริงๆเป้าหมายหนึ่งของการเลือกมาอยู่ที่นี่คือ การดูเเลสุขภาพตัวเองไปพร้อมกับการพัฒนางานสอน เเละเป้าหมายอื่นๆตามลำดับ
.
มีหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้เเละปรับตัว โดยเฉพาะผลกระทบเชิงบวกที่ต้องการสร้างต่อนักเรียนทั้งในด้านวิชาการเเละทักษะที่จำเป็นตลอดระยะเวลาสองปี ภายใต้กรอบเเนวคิด “โรงเรียนดี มีคุณภาพ เเละใกล้บ้าน” นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นของอีกหนึ่งความท้าทายในชีวิตของผม
.
หลังจากนี้จะใช้พื้นที่ตรงนี้ในการบันทึกเรื่องราว การเดินทางของผม นักเรียน เเละระบบการศึกษาที่เราทุกคนใฝ่ฝันว่ามันจะดีขึ้น (โดยการสร้างผลกระทบบางอย่าง) อยากฟังเรื่องเล่า ความเห็น ของทุกคนด้วยเช่นเดียวกันครับ
.
อยากขอบคุณทุกคนที่ติดตามเพจ เเละให้กำลังใจเสมอมา มันไม่ใช่เเค่ผมที่ได้รับพลังงานบวกจากพวกคุณ เเต่เป็นนักเรียนของผมด้วย ทุกคนคือส่วนสำคัญในการเดินทางครั้งนี้
โฆษณา