12 ธ.ค. 2020 เวลา 05:44 • หุ้น & เศรษฐกิจ
#Cryptolook
ขอแชร์จากโพสของคุณ KIM Property Live นะขอรับ
“ฟองสบู่ครั้งประวัติศาสตร์ กำลังจะเกิดกับ บิตคอยน์”
James Rickards and the Bitcoin
สัญญาณ กระทิงที่ 1 ผู้ทรงอิทธิพล เริ่มพูดว่า “บิตคอยน์เป็นฟองสบู่” มาตามนัดเลยน๊า
ต่อไปก็ “บิตคอยน์กำลังจะตาย” ตายมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วเนอะ
ต่อไปก็ “บิตคอยน์เป็นสิ่งหลอกลวง”
ต่อไปก็... เจ้าคนที่พูดๆอ่ะแหล่ะ ตอนนี้ซื้อเอาๆ 😀 #Jpmorgan #DBSbank
ปล. รอนิทานลิงอยู่นะ
— คุณ จิม ริคคาร์ดส (James Rickards, คนเดียวกัน @JamesGRickards) นักกฏหมาย นักเศรษฐศาสตร์การเงินและโลหะมีค่า ผู้ประพันธ์หนังสือ “Currency Wars” ชื่อดัง ท่านต้องกลับไปศึกษาใหม่ดีๆนะคับ ท่านอาจจะได้ไอเดียในการเขียนหนังสือเล่มใหม่ก็ได้ 😀 ...
ผู้มีอิทธิพลชื่อดังมากมาย หรือ ใครก็แล้วแต่ เมื่อรู้จักบิตคอยน์ใหม่ๆ และยังไม่ได้ทำความเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ ก็จะพูดแบบนี้กันทุกคนล่ะ “เป็นเรื่องปกติ”
— มาย่อยข้อสงสัยกันสักนิด
1.บิตคอยน์มีโอกาสเหลือ 0 ไหม มีนะ ฮ่าๆ เมื่อ คนเลิกใช้งาน เลิกเก็งกำไรมัน เลิกมีส่วนร่วมในเน็ตเวิร์คธุรกรรมการเงินของบิตคอยน์ แต่นี่จะย่างเข้าปีที่ 12 แล้ว คงเลิกยากแล้วมั้ง ถ้าสัก ปีสองปีแรก ว่าไปอย่าง เหมือนกับ social network ให้เลิกตอนนี้ก็คงยาก “บิตคอยน์ ก็คือ โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คทางการเงิน” พูดง่ายๆ
2.บิตคอยน์ ยังไม่เคยผ่านวิกฤตการเงินมาก่อน... บิตคอยน์ กำเนิดจากสาเหตุวิกฤติการณ์เงินน่ะแหล่ะ จิตวิญญาณของมัน เกิดมาเพื่อ “ชะลอ” หรือ “บรรเทา” วิกฤติการณ์เงินตะหาก แต่เราจะไม่ได้เห็นศักยภาพนั้นในรอบชีวิตของเราหรอก หรือต่อให้ “ทารกที่เกิดในวันนี้” ก็อาจเป็นรุ่นที่เริ่มเห็นศักยภาพที่แท้จริงของมัน 😀
3.เมื่อเกิดวิกฤติการณ์การเงินจริง “เงินกระดาษดอลล่าล์” จะไม่ร่วงว่างั้น? แน่นอน “ทองคำ” ลอยตัว แล้วมีทางเลือกอะไรอีกบ้าง ก็นี่ไง อย่างน้อยก็อีกหนึ่งทางเลือก... แต่ เนื่องด้วยเรายังอยู่ในยุคเริ่มต้นมาก ซึ่งเป็น “ยุคเก็งกำไร” และ บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ใหม่ มีความเสี่ยงสูงสุด เมื่อเกิดวิกฤติขึ้น ธรรมชาติของนักลงทุน ต้องเทขาย “สินทรัพย์ที่เสี่ยงที่สุด” ก่อนอยู่แล้ว จะเหลือ “ผู้ที่เชื่อมั่นในบิตคอยน์” เท่านั้นที่คงอยู่..
4. บิตคอยน์ มีหน่วยงานตรวจสอบ อ่ะ แน่ล่ะซิ มีอะไรบนโลกนี้บ้างที่ไม่ถูกตรวจสอบ บิตคอยน์ มีบันทึกธุรกรรมบนบล็อกเชน “ถาวร” ตรวจสอบย้อนหลังได้ คุณหนีภาษีไม่ได้อยู่แล้วถ้าเขาจะย้อนตรวจ แต่ตอนนี้ คนเก็บภาษียังมึนตึงอยู่ ตามไม่ทัน 😀,
คุณต้องใช้บล็อกเชนเหมือนกัน ในการตรวจสอบ เรียกเก็บ อาจจะเป็น “Tax coin” อะไรก็ว่าไป ซึ่งเมืองนอกเขาก็เริ่มทำกันแล้ว อนาคตการเก็บภาษี ผ่าน คริปโต หรือ CBDC แทบจะอัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งกรอกใบ ทวิ ทเวะ ให้วุ่นวาย
5.มูลค่าที่สูงขึ้นของบิตคอยน์ ส่วนหนึ่งมาจากการเก็งกำไร อันนี้เห็นด้วย อย่างที่บอก “ยุคเริ่มต้น” แต่อีกส่วนก็คือ มูลค่าจากเน็ตเวิร์คและการมีส่วนร่วมใช้งาน คุณคิดว่า “อินเตอร์เน็ต” มีค่าไหม ถ้าเผื่อว่า อินเตอร์เน็ต ไม่ใช่ของสาธารณะล่ะ มันจะมีค่าขนาดไหน บิตคอยน์ ก็เช่นกัน แต่กระนั้นเราก็ยังต้องจ่ายถ้าจะใช้ อินเตอร์เน็ต ใช่ไหมล่ะ บิตคอยน์ ก็มีค่าธรรมเนียม เช่นกัน
อีกส่วนเป็นเรื่องของ “ความหายาก” ซึ่งเป็นโมเดลเดียวกับ “ทองคำ” ต่างตรงที่ บิตคอยน์ มีปริมาณสำรองจำกัดชัดเจน และหายากยิ่งกว่าทองคำ ซึ่งโมเดลที่นิยมพูดถึงกันก็คือ “Stock to flow model” โดยเฉพาะ “S2FX model” ของ PlanB ที่กำลังโด่งดัง ใครยังไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ ตามอ่านนะ
#สถานะที่5บิตคอยน์ ในศักราชที่4
6.ไม่สามารถใช้ต้นทุนในการวัดมูลค่าของบิตคอยน์ได้ แต่ต้นทุนการขุดบิตคอยน์ ก็สะท้อนพื้นฐานราคาในตลาดได้อยู่ แต่การจะหามูลค่าที่แท้จริงให้กับ บิตคอยน์ ก็เหมือนการหามูลค่าที่แท้จริงของ อินเตอร์เน็ต เป็นเรื่องที่หาคำตอบแน่ชัดได้ยาก
7.การใช้ไฟฟ้าในการขุดบิตคอยน์ ข้อเท็จจริงคือ เหมืองขุดบิตคอยน์ขนาดใหญ่ ใช้ ”พลังงานหมุนเวียน” ร่วมกับพลังงานหลัก โดยสัดส่วนมากกว่า 50% แล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะยาว ประสิทธิภาพของเครื่องขุดก็ดีขึ้นเรื่อยๆ กินพลังงานน้อยลง ...
-=สรุป=-
— ในยุคเก็งกำไร เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ประโยชน์ใช้สอยของบิตคอยน์นั้น ไปตกอยู่ในตลาดเก็งกำไรซะส่วนใหญ่ และปัจจุบัน นักลงทุนเริ่มมองว่า บิตคอยน์ เป็น “สินทรัพย์เกิดใหม่” และเริ่มให้สถานะเป็น “ทองคำดิจิทัล” หรือ GOLD 2.0 ซึ่งประโยชน์ที่คนมองตอนนี้ คือ “การเก็บรักษามูลค่าเงิน” แบบเดียวกับ ทองคำ แต่เป็นทองคำที่เราสามารถ “ส่งหากันได้บนอินเตอร์เน็ต อย่างปลอดภัย” แบ่งย่อยได้ และมีระบบบัญชีให้ด้วยเสร็จสรรพ
— บิตคอยน์ ถูกจับตาดูได้ แต่ถูกควบคุมห้ามใช้ไม่ได้ ตราบใดที่เรายังถือไพรเวทคีย์ และไม่ถูกห้ามใช้อินเตอร์เน็ต เราก็ยังเข้าถึงบิตคอยน์ได้ ขอบอกว่า บิตคอยน์ พัฒนาไปไกลแล้ว บิตคอยน์โหนด ขึ้นไปอยู่บนอวกาศเรียบร้อย บนเครือข่ายดาวเทียม ต่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สาม เครือข่ายบิตคอยน์ก็จะยังคงอยู่นะ 🙂
— เรื่องการฟอกเงิน และกิจกรรมใต้ดิน คงมีแต่ Noob (เด็กอ่อนหัด) ใต้ดินเท่านั้นล่ะ ที่ยังพูดถึงสิ่งนี้กันอยู่ เขารู้หมดแล้วว่า บิตคอยน์มันติดตามธุรกรรมได้ “โปร่งใสยิ่งกว่าเงินดอลล่าล์อีก” เขาก็ใช้เงินกระดาษ ผ่านระบบธนาคารเดิมนั่นล่ะ เนียล และซิกแซ็กได้ดีกว่า! 😀
จบ!
@cryptotica
โฆษณา