14 ธ.ค. 2020 เวลา 13:34 • ดนตรี เพลง
EP.28 : “พี่ซาร์ กับ The Marshall Tucker Band”
หลังจากอ่อนล้าขาดพลัง สมองตื้อตัน ด้วยเศรษฐกิจอักเสบจากพิษ
โควิด ทำให้เขียนอะไรไม่ออกมาพักใหญ่..
เมื่อวาน (13/12/20) ผมได้อ่านโพสต์ในเฟส “ซาร์ คาร์น” ของพี่ซาร์
มีข้อความบางตอนที่สร้างประกายกระตุ้นให้ผมได้คิดทบทวนและ
รวบรวมสติ เพื่อการเขียน..ต่อไป
“ถ้าเราขาดเงินเราก็จะหาเงิน แล้วเราก็จะเสียความฝัน ...แล้วทุกอย่าง
ก็หลุดลอยไป เหลือเพียง ความฝัน ซึ่งมันไม่สูงส่งเหมือนครั้งแรก
เพราะมันคือฝันร้ายในภายหลัง คุณจะมีพรสวรรค์ขนาดไหนก็ช่าง
ถ้าคุณเลือกเงิน คุณก็จะได้แค่เงิน แต่คุณจะไม่เห็นแม้กระทั่ง พรสวรรค์
ที่คุณมีตั้งแต่ครั้งแรก”
..เป็นข้อความธรรมดาๆที่พี่ซาร์สื่อสารถึงนักดนตรีผู้ไขว่คว้าตามล่าฝัน..
พี่ซาร์นั้นไม่ได้เป็นโค้ชสร้างแรงบันดาลใจขั้นเทพ
ผมก็ไม่ใช่นักดนตรีที่ตามล่าฝัน..
แต่ข้อความนี้ ช่างคมคาย ชัดเจน ตรงและโดนใจผม มันช่วยเติมพลัง
ที่ขาดหาย ละลายความตื้อตัน ให้กลับมาทำในสิ่งที่ชอบอย่างรู้สึกดี...
ขอบคุณมากครับพี่ซาร์
“วิบูลย์” คือชื่อจริงของพี่ซาร์ นักดนตรีคนไทยที่เล่นเบสได้เทียบชั้น
สากล, นามสกุล “ปานพุ่ม” แห่งเมืองอุดรธานี นั้นถือเป็นครอบครัว
นักดนตรีอย่างแท้จริง เราต่างก็รู้จักศิลปินดังอย่าง “แมว” (จิระศักดิ์
ปานพุ่ม) หรือ “พี่เล็ก” (วิทยา ปานพุ่ม) มือกลอง “ที-โบน” วงเร็กเก้-สกา
ชั้นแนวหน้าของไทย ครอบครัวนี้ยังมีอีกหลายคนที่เล่นดนตรี
(ค่อยให้พี่ซาร์เล่าดีกว่านะครับ)
พี่ซาร์ กับ พี่เล็ก และวง (Eternally) ของครอบครัว “ปานพุ่ม” เคย
มาเล่นดนตรีประจำให้กับ “Marina Night Club” สร้างสีสันยามราตรี
ของ “ภูเก็ต” เมื่อครั้งอดีต ในยุคเปลี่ยนผ่านธุรกิจเหมืองแร่ สู่ยุคบุกเบิก
การท่องเที่ยว ประมาณต้นยุค 70
ผมมาอยู่ “ภูเก็ต” เมื่อเข้ายุค 80 ซึ่งไม่มีพี่ซาร์และคณะแล้ว แต่มีสมาชิก
วงบางคนเลือกที่จะปักหลักอยู่ภูเก็ต ไม่ได้ไปกับวงด้วย
ทำให้ผมมีโอกาสได้ยินเรื่องราวเล่าขาน ถึงสีสันดนตรีของพี่ซาร์
และคณะในวันเก่าบรรยากาศเดิมอย่างเห็นภาพ..
ต้องขอขอบคุณ “คุณก้อย ผกามาศ” (ภรรยา พี่เบิ้มเพื่อนสนิทพี่ซาร์)
สำหรับเรื่องเล่าประทับใจในวันเก่าๆของเหล่ามิตรสหายศิลปินภูเก็ต
ผมได้พบพี่ซาร์ เมื่อประมาณ 25 ปีที่ผ่านมา ครั้งนั้นเป็นมื้ออาหาร
กลางวันที่ “ภัตตาคารริมน้ำ” (ไทยวิลเลจ) เพื่อรับรองวง “ที-โบน”
ที่ผมกับเพื่อนทีมงาน “Airplay” จัดเป็นโชว์เล็กๆ ใน “Timber Hut”
ผับดังของภูเก็ตตอนนั้น
 
พี่ซาร์มากับวง ที-โบน และอาหารมื้อนั้นมี พี่เบิ้มเพื่อนสนิทพี่ซาร์มาร่วม
โต๊ะพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ด้วยความทันสมัยของการสื่อสารที่ไร้พรมแดน วันนี้ พี่ซาร์แม้จะอยู่ถึง ฝรั่งเศส แต่ความใกล้ชิดการรับรู้เรื่องราวซึ่งกันและกัน นั้นไม่ไกลเลย
ผมได้เห็นพี่ซาร์ โพสต์ว่า ชอบวง “The Marshall Tucker Band” เหมือน
ไฟในตัวผมมันลุกโชนขึ้นมา เพราะวงนี้ผมเก็บไว้ฟังตลอด..ชอบเช่นกัน
พี่ซาร์บอกชอบเพลง “Can’t You See” ผมเลยหยิบมาฝาก..
เชิญรับฟังครับ
เพลงนี้เป็นซิงเกิ้ลแรก จากอัลบั้มแรกของพวกเขาชื่อ
“The Marshall Tucker Band” ออกในปี 1973 หลังจากที่พวกเขาตั้ง
ชื่อวงอย่างเป็นทางการได้ 3 ปี อันที่จริงพวกเขาฟอร์มวงกันเพื่อตระเวนแสดงแถบ “South Carolina” มาตั้งแต่ต้นยุค 60 แล้ว ด้วยมีศิลปิน
หมุนเวียนสลับกันเข้า-ออกวง ตามวาระเวลา ของแต่ละคน..
จึงยังไม่มีชื่อวงที่ชัดเจน..ร่วม 10 ปี
ปี 1974 พวกเขามีผลงานออกมาถึง 3 ชุด
(2 Studio Album กับอีก 1 Live Album)
Studio Album: A New Life
Studio Album: Where We All Belong (มี Live Album ด้วย)
ผมเลือก เพลง “In My Own Way” อยู่ใน Studio Album
“Where We All Belong” มาเปิด..เชิญฟังครับ
ท่อนหนึ่งของเพลงที่กล่าวว่า...
“There’s a special place in my heart
That’s occupied by you
There ain’t no one on God’s earth
Gonna take your place”
...นั้นช่างสละสลวยงดงาม
ถ้าเป็นนัยของรักฉันท์บ่าวสาว..ก็แสนหวานจับหัวใจ
แต่หากตีความเป็นนัยของจิตมั่นในพระผู้สร้าง..ก็เปี่ยมล้นด้วยศรัทธา
งานของ “The Marshall Tucker Band” นั้นมีความหลากหลายของแนวดนตรีที่ผสมผสานเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Southern Rock, Country, Bluegrass, Folk, Jam Band, Blues และ Jazz
เพลง “Desert Skies” ที่อยู่ในชุด “Carolina Dreams” เมื่อปี 1977
ทำให้รับรู้ได้ถึงความเป็น Jazz ที่เจืออยู่ โดยเฉพาะช่วงโซโลกีต้าร์..
ลองฟังนะครับ
หากมีโอกาสวางแผนขับรถออกต่างจังหวัด ลองเลือกเพลงของ
“The Marshall Tucker Band” มาใส่ไว้ในรถ เปิดเมื่อออกนอกความ
จอแจของเขตเมือง สู่ถนนโล่งและท้องทุ่งกว้าง ปล่อยใจไปกับการ
ขับรถอย่างผ่อนคลาย..
บางทีอาจค้นพบช่วงเวลาแห่งความสุขที่ง่ายๆใกล้ๆตัว..เหมือนผม
ขอจงมีความสุข..แล้วพบกันใหม่...สวัสดีครับ
โฆษณา