ประโยชน์ที่ผู้เอาประกันจะได้รับ
1.ความคุ้มครอง ให้ความคุ้มครองชีวิตสูงถึง 250 เท่าของเบี้ยประกัน
2.สัญญาเพิ่มเติม UDR สามารถแนบสัญญาเพิ่มเติมแบบชำระค่าการประกันภัย โดยการขายคืนหน่วยลงทุน
3.ปรับสัดส่วนประกันชีวิตกับการลงทุนอัตโนมัติตามความต้องการของผู้เอาประกันภัย
4.สัญญาเพิ่มเติม PPR ผู้เอาประกันสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมแบบ PPR ได้
5.ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูง เพราะมีผู้เชี่ยวชาญดูแลเงินในกองทุนให้
6.ยังมีผลประโยชน์กรณี Non-lapse guaranteed แม้ว่ามูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนจะไม่เพียงพอในการจ่ายค่าธรรมเนียมตามเงื่อนไขที่กำหนด
7.มีโบนัสยามเกษียณ 0.45 ต่อปีของมูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนของเบี้ย PPR
8.การลงทุนของผู้เอาประกันจะถูกทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงจากตลาดผันผวน
9.สามารถปรับเปลี่ยนกองทุนบางส่วนหรือตามที่บริษัทกำหนด โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ
.
ประกันชีวิตควบการลงทุนเหมาะกับใคร ?
ประกันชีวิตแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการวางแผนทั้งประกันชีวิตและการลงทุนภายในกรมธรรม์เดียว
.
ความต้องการด้านประกันชีวิต
1.เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี
2.เหมาะกับผู้ที่ต้องการส่งต่อผลประโยชน์ให้คนในครอบครัว โดยไม่ต้องเสียภาษีมรดก
3.เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีหลักประกันให้ครอบครัว
.
ความต้องการด้านการลงทุน
1.เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนแต่ไม่มีเวลาดูแลเอง
2.เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนแต่ไม่มีความรู้มากพอ
3.เหมาะกับผู้ที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญช่วยคัดสรรกองทุน
4.เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงการลงทุน และต้องการลงทุนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ