มีเกร็ดเล็กๆน้อยเกี่ยวกับการจัดอาหารที่ให้กับผู้วายชนม์
ประเพณีที่เราๆ รู้กันว่าในช่วงที่มีการตั้งศพสวดอภิธรรมจะมีการจัดหาอาหารให้แก่ผู้ตาย
ในเรื่องนี้ Jasmineเ คยเข้าศึกษา เป็นสภาวะนั้นจริงน่ะ เพราะผู้ตายส่วนใหญ่ยังไม่ลืมสภาวะของระบบมนุษย์ว่า จะต้องทานอาหาร จิตยังคงติดว่าถึงเวลาต้องทาน จึงยังมีความหิวโหย ในสมัยโบราณจึงมีพิธีจัดหาอาหารมาให้ผู้ตาย ตรงข้างโลง
Jasmineเคยเห็นเมื่อญาติเอาอาหารมาให้ผู้ตาย อาจด้วยจิตผู้ให้จิตไม่แน่วแน่ในการบอกกล่าว หรืออาจจะเกิดจากบริเวณรอบๆมีดวงจิตที่มีกำลังแข็งแกร่งกว่า มาแย้ง เห็นสัมภเวสีมาแย้งกันกิน ผู้ตายได้แต่ยืนดูเพราะกำลังไม่พอที่จะต่อสู้
ดังนั้น...ในวิชานี้ครูท่านได้สอนไว้ เมื่อจัดสำหรับอาหารเสร็จตอนที่จะใส่ช้อนลงไปในจานอาหารให้กลับช้อน เอาด้ามลง และกำหนดจิตเรียกผู้ตาย ให้จิตนิ่งสงบเรียกอย่างมั่นใจ มั่นคง อย่ากลัว และมีความเชื่อมั่นว่า เราเรียกผู้ตายมาได้ ตรงนี้ผู้ตายจะได้รับอาหารเหล่านี้ ดวงจิตรอบๆจะเข้ามาแย้งไม่ได้ ตรงนี้Jasmine เคยทดลองและศึกษาเห็นมากับตัวเองเลย
แต่ที่จะให้ดีที่สุด ควรให้ผู้ตายรับบุญเสวยบุญจากการสวดมนต์ดีกว่าเปรียบเสมือนอาหารทิพย์เข้าจิตผู้ตายโดยตรง โดยเราจะสวดมนต์ให้เรียกผู้ตายมาร่วมสวดกับเรา ถ้าเค้าสวดไม่ได้ให้เค้าจับเคลื่อนพลังการสวดของเราร่วมโมทนาแทนแล้วค่อยๆสวดช้าๆ ยิ่งดีใหญ่ถ้าจะเรียกดวงจิตรอบๆาร่วมสวดหรือโมทนาตาม จะเป็นบุญบารมีอีกชั้นแก่ผู้ตายดีกว่าการจัดสำรับอาหารให้เสียอีก เพราะที่จริงมิติหลังความตายนั้นเค้าเสพพลังไม่ใช่มวลอาหารที่จับต้องได้แบบเรา
ดังนั้น การสวดมนต์จึงเป็นพลังที่มีอนุภาพและบริสุทธิ์เสมือนอาหารทิพย์ที่ผู้ตายจะได้รับในช่วงที่ดวงจิตยังไม่ได่รับการพิจารณาพิพากษา และควรเป็นญาติที่มีสายใยเชื่อมโยงกับผู้ตายจึงจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
