17 ธ.ค. 2020 เวลา 04:00 • สุขภาพ
🇨🇳 หลังจากประเทศจีนได้เผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างหนักตั้งแต่ปลายปี 2019 เราจะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะภาครัฐ หรือเอกชนของจีนต่างยื่นมือเข้ามาช่วย และยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสร้าย จนทำให้จีนกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศในโลกที่จัดการกับวิกฤตดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ⏩
5 แบรนด์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตลาดจีนปี 2020
ความสำเร็จจากมาตราการล็อคดาวน์ของจีนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งมาตราการที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่า มาตราการล็อคดาวน์ในช่วงเวลาหลายเดือนของจีน ทำให้อุตสาหกรรมมากถึง 24 อุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ และมีการเติบโตที่ช้า และถดถอยในช่วงแรก 😶
▶️ แต่ถึงแม้ว่าในปีที่ผ่านมา จีนจะประสบวิกฤตการณ์ใหญ่ๆ มามากมาย ที่สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ ซึ่งรวมไปถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ หรือสินค้าที่เปลี่ยนไป 🌍 ในด้านคุณค่าในสายตาของลูกค้า (Consumer Value) และทัศนคติกับพฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Attitude) ที่มีต่อแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่วางขายอยู่ในท้องตลาด แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม การระบาดของโควิด-19 ก็ไม่ได้เป็นตัวชี้ว่าการเติบโตทางมูลค่าของแบรนด์ในจีนนั้นจะตกต่ำไปด้วย เพราะจากรายงานของ BrandZ China Top 100 พบว่าค่าเฉลียของมูลค่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในจีนล้วนเติบโตเฉลี่ยกว่า 12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 300 ล้านล้านบาท 👍ซึ่งแบรนด์ม้ามืดในปีนี้ ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตลาดจีนก็มีอยู่ถึง 5 แบรนด์ใหญ่ ที่เราจะมาแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้ ซึ่งเราชื่อว่าอย่างน้อยเพื่อนๆ แฟนเพจต้องเคยได้ยินชื่อแบรนด์เหล่านี้กันมาบ้างแล้วค่ะ ▶️
1️⃣ TikTok (抖音)
นาทีนี้ทั่วโลกคงมีน้อยคนมากที่จะไม่รู้จักกับแอปแชร์คลิปวิดีโอสั้นอย่าง TikTok หรือ ในประเทศจีนที่เรียกกันว่า Douyin แอปนี้มีเจ้าของเป็นบริษัท ByteDance สตาร์ตอัพของจีน มีมูลค่ากิจการอยู่ที่ราว 2.46 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้บริษัทนี้กลายเป็นสตาร์ตอัพที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก เอาชนะ Uber แชมป์เก่าซึ่งมีมูลค่ากิจการอยู่ที่ 2.36 ล้านล้านบาท 😮
2️⃣. 58 Tongcheng (58 同城)
58.com เครือข่ายชุมชนออนไลน์สำหรับหาบ้านที่ใหญ่ที่สุดในจีน บริษัท 58 .com ดำเนินกิจการในฐานะแพลตฟอร์มผู้ให้บริการในด้านต่างๆ ในสังคมของชาวจีนในปัจจุบัน รวมไปถึงธุรกรรมของบริษัท การถ่ายโอนสินค้าและบริการระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นต้น ซึ่งบริการด้านที่เด่นที่สุดของ 58 Tongcheng คือการให้บริการ และจัดหาบ้านเช่า หรือที่อยู่อาศัย ซึ่งรวมไปถึงการจัดหาสินค้ามือสอง การเดินทาง การจัดเลี้ยง ความบันเทิง และการซื้อข้อมูลและบริการต่างๆ อย่างครบวงจร 😍
3️⃣. Mengniu (蒙牛)
China Mengniu Dairy เป็นบริษัทผู้ผลิตนมยักษ์ใหญ่ของจีน มีทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกงด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามตลาด 7.4 แสนล้านบาท ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา Mengniu ตกลงเข้าซื้อกิจการไลออน ไดรี แอนด์ ดริงส์ ของบริษัท คิริน โฮลดิ้ง โค ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่ของออสเตรเลีย รวมมูลค่าประมาณ 1.26 หมื่นล้านบาท ซึ่ง Mengniu จะเข้าควบคุมกิจการนม โยเกิร์ต และผลไม้ของคิริน ขณะที่คิรินจะยังคงดูแลในส่วนธุรกิจเครื่องดื่มเบียร์ ไวน์ และธุรกิจสุราต่อไป 🥛
4️⃣. Baidu (百度)
ส่วนเจ้านี้เราเคยเกริ่นกันไปก่อนหน้านี้ สำหรับ Search Engine เจ้าตลาดของจีน ในสายตาชาวจีนเพราะ Baidu นั้นเปรียบเหมือน Google version ภาษาจีน เนื่องจากฟังค์ชั่นอะไรที่ Google มีทาง Baidu ล้วนแต่มีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Baidu Ads, Baidu Network Banner หรือ Baidu map คนส่วนใหญ่จึงเรียก Baidu ว่า เป็น Google เวอร์ชั่นจีนนั่นเอง ▶️
5️⃣. Eleme (饿了么)
ธุรกิจส่งอาหารเดลิเวอรี่เจ้าแรกๆ ที่มาบุกตลาดเมืองจีน และกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของชาวจีน ซึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ Eleme เกิดขึ้นในปี 2018 เมื่อ Alibaba เข้ามาร่วมทุนและร่วมพลิกโฉมกลยุทธ์การตลาดของ Eleme ใหม่ทั้งหมดอีกทั้งยังพัฒนาระบบใหม่ใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการให้บริการ ด้านการเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจ และด้านระบบการจัดจำหน่ายในพื้นที่แบบเรียลไทม์ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้บริการ 😋
😉 เราจะเห็นได้ว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการแข่งขันทางด้านธุรกิจสูงมาก ผู้บริโภคชาวจีนมีพฤติกรรมในการเลือกซื้อหรือเลือกใช้ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว บวกกับประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นจำนวนมาก จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่เราจะพบเห็นผู้ให้บริการ หรือแบรนด์หน้าใหม่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน 🚩
#KAECPlus
โฆษณา