17 ธ.ค. 2020 เวลา 01:14 • ปรัชญา
หอม กระเทียม
ของที่ครัวไทยต้องมี
ผมคัดเอาข้อมูลจากประชาชาติธุรกิจมาฝาก เป็นข่าวดีเกี่ยวกับหอม และกระเทียม ที่สามารถขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ได้แล้ว
นับเป็นความโชคดีของคนไทยที่บ้านเราตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่เหมาะสม ทำให้สามารถผลิตพืชอาหารที่หลากหลาย เลี้ยงคนในประเทศได้อย่างพอเพียง
และยังเหลือมากพอจะส่งออกไปขายต่างประเทศได้อีกด้วย
หอม กระเทียม เป็นวัตถุดิบที่เป็นส่วนประกอบในอาหารไทยในเกือบทุกเมนู
เรากิน หอม กระเทียม กันมาแต่ดั้งแต่เดิม ทุกบ้านต้องมีติดครัวไว้ ต้องการทำอาหารเมื่อไร ก็หยิบใช้ได้ทันที
คนโบราณสอนให้ปลูก หอม กระเทียม ไว้ใช้ในครัวเรือน หลังจากว่างจากการทำนา
เป็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนที่เตรียมอาหารไว้รับประทานกันในครอบครัวโดยไม่ต้องซื้อ
ปลูก หอม กระเทียม เพียงแปลงเล็กๆ ก็พอใช้สำหรับทำอาหารได้ตลอดปี และต้องเหลือแนวไว้สำหรับปลูกในปีถัดไปด้วย
แต่ในบางท้องถิ่นการปลูก หอม กระเทียม เป็นไปเพื่อการค้าขาย มีการปลูก หอม กระเทียม มากในพื้้นที่ จังหวัดศรีสะเกษ และผลผลิตยังมีคุณภาพดีอีกด้วย
นี่คือข้อความที่คัดมาจากประชาชาติธุรกิจ เรื่องการขึ้นทะเบียน หอม กระเทียม เป็นสินค้า GI
เชิญอ่านด้วยความภาคภูมิใจในสินค้าท้องถิ่นไทย ที่ไม่มีที่ใดในโลก
" เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 กรมทรัพย์สินทางปัญญาฯ กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศขึ้นทะเบียนหอมแดงศรีสะเกษและกระเทียมศรีสะเกษ เป็นสินค้า GI 2 รายการล่าสุด
ลักษณะเด่นของสินค้า GI ทั้ง 2 รายการที่ได้รับการขึ้นทะเบียน คือ หอมแดงศรีสะเกษมีเปลือกแห้งมัน สีแดงเข้มปนม่วง หัวมีลักษณะกลม มีกลิ่นฉุน พื้นที่ในการปลูกหอมแดงของจังหวัดศรีสะเกษเป็นดินมูลทรายที่เป็นดินตะกอนลุ่มน้ำโบราณลำน้ำมูลและลำน้ำสาขามูลที่ทับถมมานาน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์สูง ประกอบกับเมื่อผสมกับดินโพนหรือดินจอมปลวกตามภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้าน จึงทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ กลิ่นหอมอร่อยเป็นเอกลักษณ์ ส่วนกระเทียมศรีสะเกษมีลักษณะเด่นที่สำคัญ คือ เปลือกนอกสีขาวแกมม่วง เปลือกบาง หัวแน่น กลิ่นฉุน รสเผ็ดร้อน สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่ฝ่อ กระเทียมศรีสะเกษปลูกในดินมูลทรายเช่นเดียวกัน ผลผลิตจึงมีคุณภาพดี และสามารถจำหน่ายได้ราคาสูงกว่ากระเทียมจากแหล่งอื่น”
ขอขอบคุณข้อมูลจากประชาชาติธุรกิจด้วยครับ
โฆษณา