ลี่เจียง (Lijiang) เมืองมรดกโลก
สระมังกรดำ ( Heillongtan Black Dragon Pool)
เพื่อนสาวกลับจากจีน นำรูปมาอวดเพื่อยั่วกิเลส พร้อมของฝากน่ารัก เรานั่งดูรูปเหล่านั้น โห...ไม่นึกเลยว่ามันจะสวยเช่นนี้ ก็เลยจดจำชื่อเมืองไว้อย่างแม่นยำ หากสบโอกาส มีใครชวน จะได้รีบตอบตกลง ทันที ไม่มีการลังเล
เสียงตามสายของเพื่อนรวมงานเก่า โทรมาชวนว่า ยังขาดสมาชิกอีก 1 คน กำลังจะไป “ลี่เจียง “นางบอกว่าทริปนี้ เฉพาะคนรู้จักคุ้นเคย เท่านั้น สรุปว่าพอได้ยินลี่เจียง ตอบไปแบบไม่คิดว่า OK
เมืองเก่าลี่เจียง (Lijiang)เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม
เพื่อนพาญาติๆ มาด้วยกัน 12 คนได้ และมีเพื่อนเราอีก 6 คนรวม Staff อีก 2 คนรวมทั้งหมด 20 คน ก็ค่อนข้างเยอะอยู่ สำหรับทัวร์ ครอบครัวเพื่อน มีหลานๆวัยรุ่น ผู้ใหญ่ กลางคน และพี่ๆ แก่สุดมีอายุ 50 Up ดังนั้น. การเที่ยวหนนี้ จึงไปกันแบบไม่เร่งรีบ และการเที่ยวกับทัวร์ ถึงแม้ว่าไม่ใช่สไตล์เรา แต่ก็ปรับตัวได้เพราะมีคนวัย ไม่ต่างกันหลายคนอยู่ด้วย😊
หลังจากถึงจีนแล้ว ต้องนั่งเครื่องในประเทศอีก 1 ต่อ ตรงไปที่ลี่เจียง กว่าจะถึงก็บ่ายๆแล้ว ไกด์จึงบอกให้เอาของไปเก็บและมาเจอกันที่
ล๊อบบี้ ประมาณ บ่าย 4 เพื่อจะพาไปเดินชมเมืองเก่าลีเจียง และทานอาหารที่นั่น ทุกคนหายเงียบกันไป และเมื่อถึงเวลา ก็มาพร้อมเพรียง และแน่นอนที่สุด ทุกคนใส่เสื้อกันหนาวมาเต็มที่ เพราะอากาศข้างนอกหนาวมาก🥶
รอบๆตัวเมือง จะมีคลองที่มีน้ำใสแจ๋ว อยู่กระจายไปทั่วเมือง
รถพาเราไปจอดที่ประตูเข้า มีสัญญลักษณ์ กังหันวิดน้ำอยู่ด้านหน้า ซึ่งจะเป็นจุดนัดพบกันหากหากันไม่เจอ ไกด์บอกว่าปล่อยให้ทุกคนเดินตามสบาย และกลับมาเจอกัน เวลา 19.45 น มากับทัวร์ก็จะแบบนี้แหละ เหมือนไปทัศนศึกษา 😄
ตัวเมืองเก่า มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี พื้นถนนจะปูด้วยแผ่นหินทั่วไปหมด และจะมีบ้านทรงจีน สวยงามแปลกตา ข้างถนนจะขนาบด้วยลำรางเล็กๆมีน้ำไหลเอื่อย สะอาดมากๆ ขนาดมีปลาคราฟ ว่ายน้ำกันสลอน ทำให้ภาพลักษณ์ประเทศจีน ดูดีในความคิดของเรา เพราะจากที่เคยอ่านในหนังสือ มันตรงกันข้ามกับที่ตาเห็นอยู่ พวกเราเดินดูนั่นดูนี่ จนถึงเวลาก็เดินกลับไปที่นัดหมาย เพื่อไปทานข้าว และส่งกลับหลับเอาแรงเพื่อวันพรุ่งนี้
ภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow)
เช้าวันใหม่ ตามนัดอีกแหละ ไกด์บอกว่าจะพาไปเยี่ยมชม เขามังกรหยก (ไกค์บอกว่าที่นั่นเคยมาถ่ายทำหนังจีนเรื่องมังกรหยก เลยชื่อมังกรหยก) และมีชื่อจีนว่า “อวี้หลงเฉวีย “ภูเขานี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก อยู่ในเมืองลี่เจียงในมณฑลยูนาน ซึ่งยอดเขาที่ว่านี้ สูงเหนือระดับน้ำทะเล 5,596 เมตร ส่วนตัวเขาสูงจากฐาน 3,202 เมตร ดังนั้นก่อนขึ้นกระเช้า คุณไกค์จะแจกกระป๋องอ๊อกซิเจน กันคนละกระป๋องพร้อมยาแก้แพ้ความกดอากาศให้ทุกคนติดตัวไว้ แรกๆก็ดูเกะกะ แต่พอไปถึงข้างบน เพิ่งได้เห็นประโยชน์ของมันทันที เนื่องจากมันสูงมากอากาศจึงบางเบา หายใจได้แผ่วๆ ผู้สูงอายุในทริปจึงพากันนั่งดมอ๊อกซิเจนตามๆกัน
แผ่นป้ายสำหรับอธิษฐาน มีเหมือนกันทุกเมืองไม่ว่าจะที่ไหน😁
ด้านบนมีลานกว้างให้ถ่ายรูป และมีพื้นที่ให้เล่นหิมะ และที่สำคัญมีสไลด์เดอร์ที่ทำจากห่วงยาง ที่มัดติดกันเป็นพวง แล้วถูกลากขึ้นไปที่สูง ให้ผู้โดยสารที่อยากเล่นนั่ง แล้วปล่อยไถลลงมาท่ามกลางหิมะ ทัวร์ไม่ได้มีรายการนี้อยู่ในเพ็คเกจ แต่กลุ่มเราที่แอบหนีไปเล่นซะ 2 รอบ สนุกสนานมาก😄
สไลด์เดอร์หิมะ😄
พอเล่นจนเหนื่อยแล้ว เลยพากันไปเดินดูของกินเล่นที่ร้านขายของตรงจุดถ่ายรูป น้องคนหนึ่งในทีมตะโกนมาว่า “เนื้อย่างตรงโน้นอร่อยมาก” พร้อมยื่นไม้มาให้เราชิม อร่อยจริงด้วย เลยพากันไปซื้อเพิ่ม และยืนกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ขณะนั้นมีพี่คนหนึ่งที่มาด้วยกันแกอ่านภาษาจีนได้เก่งเชียวแหละ ประเภทจะต่อราคาของ ต้องไปจูงมือแกมาจัดการให้ แกเดินตามหลังมาสมทบ ที่หน้าร้านเนื้อย่างของพวกเรา แกเงยหน้าอ่านป้ายที่เขาประชาสัมพันธ์ไว้ อย่างบังเอิญด้วยเสียงอันดังว่า “เนื้อสุนัขย่างไม้ละ…หยวน เท่านั้นแหละที่กินอยู่ในปากพุ่งออกมาหมดใส้หมดพุงทั้งแก๊งค์😂😂
สระมังกรดำ (Black Dragon Pool)หรือชื่อจีนว่า เฮยหลงถัน
หลังจากลงเขามาด้านล่าง คุณไกด์บอกว่า เราจะเดินทางต่อไปที่สระมังกรดำ ชื่อภาษาจีนว่า “ เฮยหลงถัน” ตั้งอยู่ในสวน ยัวฉาน สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์ชิง ปีคศ 1737 สระนี้สวยงามมากๆ น้ำใสมาก เหมือนมรกต มีฉากหลังเป็นภูเขามังกรหยก ประกอบกับเก๋งจีนสวยๆ ประทับใจมากๆ สระมังกรดำนี้มีตำนานเล่าขานว่ามีคนเคยเห็นมังกรสีดำ ว่ายน้ำเล่น ดำผุดดำว่ายอยู่ในสระน้ำแสนสวยแห่งนี้ เขาจึงเรียกที่นี่ว่าสระมังกรดำ
ฉากหลังของสระ คือภูเขามังกรหยก
เนื่องจากการเดินทางโดยทัวร์ เขาจะจัดแจงให้เราไปหมด ดังนั้นภาพเมืองจีนในวัน 2 วันนี้ ที่ลี่เจียง จึงไม่เลวร้ายสำหรับสายตาเราเลย ถือว่าสอบผ่าน จะมีแปลกๆ ก็ตอนเข้าห้องน้ำสาธารณะ นิดหน่อย เพราะมักจะพบว่า มีบางห้องไม่ปิดประตู เวลาเข้าห้องน้ำ เราถึงกับอึ้งว่า เปิดทำไม ของเหมือนๆกันไม่อยากดู พอกลับถึงรถบัส เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเม้าท์มอย กันสนุกสนาน
และเนื่องจากไปกับทัวร์ แน่นอนที่สุด เขาจะมีช่วงหนึ่ง ที่เขาจะจัดให้เราต้องไปแวะ Shopping ตามที่เขาทำแพลนไว้ ซึ่งเราเพิ่งจะเคยครั้งแรก ก็เลยรู้สึกไม่ OK เนื่องจากการ Shopping กึ่งบังคับขายเนี่ย มันชวนให้เรา ไม่ชอบเอามากๆ เขาจะพาไปจอดที่ center ขายของเขาเลย และข้างในจะมีจำพวก แผ่นแปะแก้ปวด หยก ผ้า อะไรประเภทนั้น และที่อาเจ้ทั้งหลายในกรุ๊ปนี้ ชื่นชอบเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นครีมบัวหิมะ นางซื้อกันเป็นหมื่นๆทีเดียวเชียว ส่วนเรานิสัยไม่ดี เมื่อจิตใจแอนตี้ จึงไม่สนใจอะไรกับใคร ได้แต่ไปหากาแฟมานั่งชิวรอเขา shop กันอยู่ด้านหน้า
สักครู่เพื่อนสาวออกมาเจอเรา ก็ชักชวนให้ลองไปตรวจสอบร่างกายกับหมอแมะ เพิ่งเคยได้ยิน หมอแมะคืออะไร พอลองเข้าไปกับเพื่อน พบว่าทุกคนนั่งต่อคิวกันอยู่ และพอถึงคิวเรา จึงเข้าใจ ว่าแมะ มันคือการเอามือ มาสัมผัสที่ชีพจร เพื่อตรวจสอบธาตุในตัวของแต่ละคน ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง หลังจากนั้นก็จะแนะนำยา และขายยา ซึ่งเรานั่งอมยิ้ม ดูผู้คนที่ต่อแถว จนกระทั่งมาถึงเรา สรุปทุกคนมีอาการที่จะต้องซื้อยาทั้งสิ้น หมอแมะได้กล่าวไว้😂😂😂
น่าจะเป็นดอกไอริส ดอกใหญ่สวยงามมาก
หลังจากออกมาจากศูนย์ shopping ทุกคนหมดตังค์กันอย่างน้อยก็ 1000-2000 บาท มากสุดๆก็เป็นหมื่นๆ จากหยกและบัวหิมะ ส่วนเรา หมดแค่ค่ากาแฟ 1 แก้ว เพราะมองดูแล้วของแต่ละอย่าง ไม่ใช่แนว😎
📌ประเทศจีน มีสถานที่ ท่องเทียวสวยๆเยอะ แต่เดินทางแบบเบ็คแพ็ค ยังไม่ค่อยสะดวกนัก ถ้าพูดจีนไม่ได้😳
📌หากไปเที่ยวด้วยทัวร์ โลกของเราจะสวย สดใส ไร้กังวล แต่เราจะไม่ได้รู้ว่าเมืองๆนั้น จริงๆแล้วมันเป็นอย่างไร เพราะไกด์ ได้ตระเตรียมไว้เฉพาะสิ่งที่ดีๆมาเสริฟ์😁
📌ใครว่าอาหารจีนอร่อย เราคนนึงละไม่ชอบ เพราะส่วนใหญ่ จะเยิ้มๆ มันๆ แต่ถ้าเป็นอาหารจีนในไทย เนี่ย เขาดัดแปลงให้เป็นแบบไทยแล้ว อร่อยจริง😊
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
