“ตั่วเล่าเอีย” (ศาลเจ้าพ่อเสือ) repost
หลายปีก่อน เคยฝึกสมาธิแนวพิสดาร.. ด้นดั้นไปตามหาครูอาจารย์ท่านหนึ่ง.. ที่สำนักสงฆ์ ธารน้ำตกหลังเหว.. แถวเขาใหญ่..
กราบเรียนท่านว่า ..
“ผมเคารพนับถือ หลวงปู่โต.. จะมาขอความรู้จากท่าน..”
ท่านทักว่า ..
“เรานี่..แม่ขอมาเกิดใช่มั้ย.. ไปขอมาจากที่ไหน”
พอกราบเรียนตอบไปว่า .. คุณแม่อยากได้ลูกชาย จึงไปขอจากศาลเจ้า... ย่านเสาชิงช้า
.. ท่านบอกว่า..
“นึกอยู่แล้วเชียว.. เราสองคน ศิษย์ครูองค์เดียวกัน..555”
ผมงง.. ถามท่านกลับว่า..
“ครูองค์เดียวกันนี่ องค์ไหนครับ”
ผมเหลือบไปเห็นรูป หลวงปู่โตในกุฏิท่าน.. เลยเข้าใจว่าคงเป็นสมเด็จโต
ท่านตอบว่า..
“พรหม ชินะปัญชะระ..”
พอท่านตอบแบบนั้น.. ผมย้อนคิดไปถึงภาพในอดีตราว 4-5 ปีก่อน..
วันนั้น ผมไปเดินเล่นที่ห้างดิโอลด์สยาม..แถวสะพานพุทธ..
บังเอิญเดินขึ้นไปชั้นสอง.. กวาดสายตาไป เจอรูปภาพขนาดใหญ่.. เป็นภาพวาด ที่เจ้าของร้านตั้งโชว์ไว้หน้าร้าน..
สวยงาม เตะตามาก.. ยังจำได้ติดตาว่า..
เป็นรูปวาดภาพ พราห์มหนุ่มน้อย.. สวมชุดคลุมเหมือนจีวรสีขาว.. เกล้าผมมวย.. มีปิ่นปักผม รูปจันทร์เสี้ยว.. มือถือคฑา..
เท้าสองข้าง เหยียบเต่า และงู..
ผมชอบ ถึงขนาดเข้าไปถามราคา.. และถามว่าเป็นรูปใคร..กะว่าจะซื้อ..
เจ้าของร้านบอกว่า..
“อ๋อ.. รูปนี้ไม่ได้ขายครับ..มีคนมาจ้างให้วาด.. แต่นานแล้ว ยังไม่มารับ..เลยเอามาวางโชว์หน้าร้าน..
คนมาจ้างเขาบอกเป็นรูปพระพรหม ชื่อ..
..พรหมชินะปัญชะระ ครับ..”
อืม.. ช่างบังเอิญจริง..
จากกรุงเทพเมื่อ 5 ปีก่อน.. มาได้ยินชื่อนี้อีกครั้ง..ที่วัดริมน้ำตก ในป่าเขาใหญ่ แถวโคราช..
“อาจารย์ครับ.. ผมไม่เชื่อครับ.. เพราะที่แม่ผมไปไหว้อ่ะ .. เป็นศาลเจ้าครับ.. ไม่ใช่วัดแขก..
ไปไหว้เจ้าจีนครับ.. ไม่ใช่ไหว้พระพรหม..”
ผมกราบเรียนย้อนแย้ง. พระอาจารย์ที่นั่งอยู่ตรงหน้า..
“555 ไม่เชื่อ.. ก็กลับไปดูสิ.. ที่ศาลเจ้านั้นน่ะ.. ไปดูว่า รูปปั้นเทพเจ้า เขาเหยียบอะไรไว้..555”
ท่านตอบกลับ หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
หลายปี ผ่านไป.. เสียงหัวเราะของพระอาจารย์ยังดังก้องในหูผม...
ผมเดินทางกลับไปที่ศาลเจ้าแห่งนั้น ..แถวเสาชิงช้า.. เบื้องหน้าผม..
คือ ศาลเจ้าพ่อเสือ อันศักดิ์สิทธิ์...
วันนั้นมีคนมากราบไหว้มากมาย.. แน่นจน แออัดเบียดเสียด..
แม้เสียงคนจะดัง.. แม้เสียงกลอง เสียงฆ้องจีน.. จะอื้ออึง..ปนเปไปหมด..
และแม้จะมีกลิ่นเทียน.. มีควันธูป เป็นม่านขาว.. จนแสบจมูกแสบตา..
แต่ผมก็ยังตั้งใจ.. เพ่งมอง ผ่านควันขาวของธูปเทียน.. ไปที่เท้าทั้งสองข้างของ รูปเคารพที่นั่งเป็นองค์ประธานในศาลเจ้านั้น..
“ตั่วเล่าเอีย”...
ตกใจเล็กๆครับ..
..เท้าข้างหนึ่ง ท่านเหยียบ เต่า.. ส่วนเท้าอีกข้างหนึ่ง ท่านเหยียบ งู..
เหมือนภาพวาดพราห์มหนุ่ม..ที่เห็นในดิโอลด์สยามวันนั้น.. ไม่มีผิด...
เออเนอะ.. พระท่านไม่มุสา..
#ตั่วเล่าเอียคือใคร..
ตั่วเล่าเอีย หรือศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นศาลเจ้าที่เคารพของชาวจีนและชาวไทยมาช้านาน..
ตำนานจีน กล่าวว่า..ตั่วเล่าเอีย ท่านเป็นเทพเจ้าชาวจีน.. สมัยเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในยุคลัทธิเต๋า..
ท่านฝักใฝ่ปฎิบัติธรรมจนตัวตาย.. อวัยวะภายในไหลออกมา ตกลงแม่น้ำ ..
กลายเป็นเต่ากับงู..
ด้วยเหตุนี้ รูปปั้นตั่วเล่าเอีย จึงสังเกตง่าย.. เท้าหนึ่งเหยียบงู.. อีกเท้าหนึ่งเหยียบเต่า..
ส่วนตำนานของไทยกล่าวว่า..ในอดีตแถวเสาชิงช้าเป็นป่ารก.. มีเสือชอบกินคน ...
ตอนหลัง เสือกลับใจเป็นเสือดี.. และเสือถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยสาเหตุที่กินคนตาย..
พอมีการสร้างศาลเจ้าตั่วเล่าเอีย เลยมีรูปปั้นเสืออยู่ด้วย..
คนเลยเรียกว่า ศาลเจ้าตั่วเล่าเอียว่า..
“ศาลเจ้าพ่อเสือ”..
อีกตำนานหนึ่ง บอกว่า สมเด็จโต ได้คาถาชินบัญชรมาจากพรหมองค์หนึ่ง.. ชื่อท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระ ..
แต่ตอนเป็นมนุษย์ ท่านเคยบวชในพุทธศาสนา..
แล้วแต่ความเชื่อนะครับ..
แค่อยากจะบอกว่า .. ความเชื่อบาง.. อย่างอาจจะงมงาย.. ไม่ใช่เรื่องจริง.. ทำให้คนไม่ฉลาด..
แต่ถ้าเขาเชื่อแล้ว ทำให้เขาเป็นคนดีได้.. ก็ไม่เสียหายที่เชื่ออย่างงมงายนะ...
เพราะแม้เขาจะไปนิพพานไม่ได้.. แต่เขาไปสวรรค์..ไปพรหมโลกได้..
ดีกว่า คนที่ฉลาด .. ไม่เชื่อในสิ่งไร้สาระ หรือพิสูจน์ไม่ได้..
เขาไม่งมงาย.. และภาคภูมิใจในความฉลาดของเขา..
แต่ถ้าเขาไม่ยึดมั่นในความดี.. แม้ฉลาดแค่ไหน.. ก็น่าเสียดายที่ได้เกิดเป็นมนุษย์นะครับ..
ปล.
ตั่วเล่าเอีย หรือศาลเจ้าพ่อเสือที่เสาชิงช้า ..เป็นปางเทพเจ้าจีน ..แต่งตัวแบบงิ้ว..
แต่ปางที่เห็นในรูปนี่แปลกตาดีครับ เหมือนนักพรตมากกว่า..
#โพสต์เก่า.. มาขัดใหม่..
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
