17 ธ.ค. 2020 เวลา 03:42 • ข่าว
ยุ่งอีกแล้ว !! วัคซีนบริษัทไฟเซอร์(Pfizer) เกิดแพ้รุนแรงแบบช็อคที่สหรัฐอีกหนึ่งราย
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของโรงพยาบาลในเมือง Juneau รัฐอลาสก้า (Alaska) ซึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคน เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง
(Anaphylaxis-Severe life-threatening allergic reaction) หลังจากได้รับวัคซีนโควิดจากบริษัทไฟเซอร์ จนต้องเข้ารับการรักษาตัวในไอซียูของโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ไม่มีประวัติการแพ้ใดใดมาก่อน และไม่เคยมีการแพ้อย่างรุนแรงแบบช็อคด้วย
โรงพยาบาลดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ทำงานและรับวัคซีนรวม 96 คน ทุกคนได้รับการเฝ้าดูอาการ 30 นาทีหลังจากฉีดวัคซีน ว่าจะมีผลข้างเคียงหรือไม่
เจ้าหน้าที่รายดังกล่าว เริ่มต้นการแพ้ด้วยการมีอาการร้อนแดงบริเวณใบหน้า หลังฉีดวัคซีน 10 นาที
1
ได้รับยาแก้แพ้ทันที (Antihistamine-Benadryl) แต่ยังคงมีอาการมากขึ้น คือมีหัวใจเต้นเร็ว และหายใจลำบาก
จึงได้รับ Epinephrine หรือ Adrenaline และ Steroid พออาการดีขึ้นแล้ว ก็ย้อนกลับมามีอาการซ้ำอีก จนต้องให้ยาอีกครั้ง
แล้วย้ายจากห้องฉุกเฉินไปเข้าไอซียู
กรณีดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นตามหลังวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ที่เคยพบอาการแพ้รุนแรงแบบช็อคสองรายที่อังกฤษและมีการรายงานไปก่อนหน้านี้แล้ว
ทาง CDC ของสหรัฐฯ แนะนำว่า คนที่แพ้ยาฉีดทุกชนิดควรงดการรับวัคซีนไว้ก่อน แม้โอกาสที่เกิดขึ้นจะมีไม่มากนักก็ตาม
1
USFDA CDC และบริษัทไฟเซอร์ จะต้องทำงานร่วมกัน เพื่อทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน
1
และทุกที่ที่จะค ้ ฉีดวัคซีนดังกล่าว จะต้องมีความพร้อมในการสามารถรักษาผู้ป่วยอาการแพ้รุนแรงได้ เช่น มีออกซิเจน ยาฉีด Adrenaline ยาแก้แพ้ สเตียรอยด์ และการเฝ้าระวังที่ใกล้ชิด
สรุปประเด็นสำคัญ
1) วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า mRNA ซึ่งยังไม่เคยใช้ผลิตวัคซีนชนิดใดมาก่อนเลย
2) ในระหว่างการวิจัย โดยทดลองเฟส 3 ในอาสาสมัครหลายหมื่นคนนั้น ได้มีการคัดกรองอาสาสมัครที่มีอาการแพ้ต่างๆไม่ให้เข้าร่วมในการทดลองดังกล่าว
5
3) มีการแพ้แบบรุนแรงเกิดขึ้นแล้วในอังกฤษ สองราย
4) ครั้งนี้พบการแพ้แบบรุนแรงเป็นรายแรกของสหรัฐฯ
1
5) วัคซีนของ Moderna และคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ก็ใช้เทคโนโลยีแบบ mRNA เช่นเดียวกัน
1
6) จะต้องจับตา ติดตามดูเรื่องความปลอดภัย(Safety)ของวัคซีนตัวนี้อย่างใกล้ชิด
ต่อไป พร้อมกับติดตามดูเรื่องประสิทธิภาพ
(Effective ness)ในการป้องกันโรคด้วย
1
วัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีที่เราคุ้นเคยในการผลิตวัคซีนมาแล้ว และพบว่ามีความปลอดภัยสูงคือวัคซีนชนิดเชื้อตายที่เรียกว่า Inactivated Vaccine
ขณะนี้ในกลุ่มที่ก้าวหน้ามากคือ กำลังทดลองเฟสสามและเป็นวัคซีนเชื้อตายด้วย คือวัคซีนของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
1
ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มความหวังของวัคซีนที่จะประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันใกล้และมีความปลอดภัยสูงจากเทคโนโลยีที่เคยใช้ผลิตวัคซีนมาแล้ว
1
ส่วนวัคซีนของประเทศรัสเซีย(Sputnik V) และของอังกฤษ(AstraZeneca) เป็นวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีที่เคยใช้มาแล้วเช่นกัน โดยการใช้ ไวรัสเป็นพาหะ(Viral Vector) นำไวรัสโคโรนาเข้าสู่ร่างกายเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ก็เป็นวัคซีนที่น่าจะมีความปลอดภัยค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน
1
Reference
โฆษณา