17 ธ.ค. 2020 เวลา 08:46 • ความคิดเห็น
พิธีพระราชทานปริญญาบัตร.. ค่านิยมที่เปลี่ยนไป
พิธีพระราชทานปริญญาบัตรปีการศึกษา 2562 ของมหาวิทยาลัยนเรศวรดูแตกต่างไปจากปีที่ผ่านๆมา สามารถสัมผัสได้ด้วยตาเปล่า ร้านขายของที่ระลึกให้บัณฑิตไม่คึกคักเหมือนปีผ่านๆมา ตอนดึกเมื่อคืนแวะไปซื้อของแถวรอบมหาวิทยาลัย ร้านอาหารปกติจะคึกคักแต่ปีนี้เงียบเหงากว่าปกติ จากข้อมูลที่ได้ฟังจากอาจารย์ที่อยู่ในการซ้อมการรับปริญญาให้บัณฑิต ปีนี้มีบัณฑิตที่ไม่เข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตรสูงถึง 2,000 คนจากจำนวนบัณฑิตที่ปกติเข้าร่วมพิธีประมาณ 5,000 กว่าคน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับสัดส่วนคนไม่เข้าร่วมพิธีในปีนี้ เป็นครั้งแรกที่จำนวนผู้ไม่เข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตรสูงเกือบครึ่งหนึ่งของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา
ความเชื่อและค่านิยมของคนรุ่นใหม่เริ่มเปลี่ยนไป นับจากกระแสที่ผู้ชุมนุมบริเวณหน้า MBK Center เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาโดยประกาศไม่ร่วมพิธีรับปริญญา​
ความเห็นต่อต้านในการร่วมพิธีพระราชทานปริญญาเกิดการแพร่กระจายในกลุ่มบัณฑิตที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร​ปีนี้ในวงกว้าง
ผมเคยสอบถามความเห็นของว่าที่บัณฑิตหลายคนว่าจะเข้าพิธีพระราชทานปริญญาบัตร​ไหม? มีทั้งจะเข้ารับและจะไม่เข้ารับแต่จะมาถ่ายรูปกับเพื่อนร่วมรุ่น
ผมไม่สรุปว่าความคิดเห็นจะเข้าร่วมพิธีพระราชทาน​ปริญญาบัตร​ของบัณฑิตแต่ละคนเป็นความถูกหรือผิด เป็นเสรีภาพส่วนบุคคลที่เลือกจะทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ
สิ่งที่เจอกับตาตนเองในวันรับพระราชทานปริญญาบัตร​วันนี้ก็คือ มีบัณฑิตหลายคนใส่ชุดนิสิตสวมครุย สวมรองเท้าผ้าใบ สวมกระโปรงดำ มาถ่ายภาพกับครอบครัว ถ่ายภาพกับเพื่อน แต่ไม่เข้าหอประชุมร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ซึ่งชุดที่เขาสวมใส่ไม่ใช่ชุดที่อนุญาตให้เข้าไปในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร​
ถ้าเหตุผลของการไม่เข้าร่วมพิธีพระราชทานปริญญาบัตร​คือเสียค่าใช้จ่ายเยอะแยะ มันคือข้ออ้าง เพราะการจ้างช่างภาพหลายพันบาทเพื่อมาบันทึกภาพ ให้ช่างทำผมแต่งหน้า ชวนญาติพี่น้องมาถ่ายภาพด้วย รวมทั้งเชิญชวนเพื่อนๆ รุ่นน้อง มาถ่ายภาพด้วย แน่นอนของขวัญที่ระลึกในงานรับปริญญา​บัตรมีต้นทุน ค่าเดินทางมาร่วมงาน ต่างมีต้นทุน
ภาพเหตุการณ์​ในระหว่างที่ญาติและครอบครัวของบัณฑิตดูการถ่ายทอดสดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร​จากหอประชุมแห่งใหม่อาคารอุทยานสมเด็จพระนเรศวร แววตาแห่งการปลื้มปิติที่ลูกหลานตัวเองรับปริญญา​จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชฯ เป็นภาพสะท้อนคุณค่าทางจิตใจสำหรับครอบครัวของบัณฑิตในวันแห่งความสำเร็จ
ผมอยากให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาลองทบทวนดูว่า แท้จริงคุณค่าของปริญญา​ที่ได้รับคืออะไรกันแน่
ปริญญา​บัตรโดยตัวมันเองอาจจะแค่กระดาษใบหนึ่งจริงๆ ถ้าคุณคิดว่ามันคือแค่กระดาษใบหนึ่ง มันก็คือกระดาษใบหนึ่งจริงๆ ปริญญาบัตรใบที่ผมได้รับจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ตอนเรียนจบปริญญาตรี​ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ปริญญา​บัตรปริญญา​โทจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ฯใบที่รับจากสมเด็จพระพันปีหลวงเนื่องจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ประชวรในปีนั้น ดังนั้นสมเด็จพระพันปีหลวงจึงเสด็จมาพระราชทานแทนและใบปริญญา​บัตรระดับปริญญาเอกที่ได้รับจากอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเคโอ ศาสตราจารย์อันเสะ ผมไม่ได้เอาไว้แขวนอวดโชว์บนฝาผนังบ้านว่าจบจากสถาบันชั้นนำ รับมาแล้วก็เก็บเอาไว้ แต่ผมคิดว่าปริญญา​บัตรเป็นเครื่องหมายของความสำเร็จที่เกิดจากเราพากเพียรของตัวเรา โดยได้รับการชี้แนะจากครูอาจารย์ ความรักและความปรารถนาดี​จากเพื่อนๆ และที่สำคัญครอบครัวที่คอยให้กำลังใจและเฝ้ารอความสำเร็จวันนี้ ภาพรับปริญญา​บัตรแต่ละภาพจึงมีความหมายสำหรับผม
หลายๆครอบครัว พ่อแม่ไม่ได้มีโอกาสจะได้ร่ำเรียนในระดับอุดมศึกษา​ การได้เห็นลูกหลานสำเร็จการศึกษาในวันรับปริญญา​เป็นความภาคภูมิ​ใจที่บัณฑิตบางคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
หน้าที่พระราชทานปริญญาบัตร​เกิดในสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ทรงเห็นความสำคัญของบัณฑิตที่จะออกไปพัฒนาชาติไทยในอนาคต การเสียสละเวลาแค่ส่งมอบปริญญา​จากพระหัตถ์​ให้บัณฑิตแค่นี้ก็ถือว่าเป็นความสุขสำหรับบัณฑิตและครอบครัวอย่างล้นพ้นแล้ว ที่ช่วงเวลาหนึ่งมีโอกาสได้ใกล้ชิดที่สุดกับพระองค์ในวันสำคัญ พิธีพระราชทาน​ปริญญาบัตรในไทย​กลายเป็นประเพณีที่คนต่างชาติไม่เคยได้มีโอกาสแบบนี้ เพราะกษัตริย์​ในต่างประเทศไม่ได้มีหน้าที่มาเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร​
จากเหตุการณ์​ที่เกิดขึ้นในพิธีพระราชทาน​ปริญญาบัตร​ปีนี้ทำให้ผมเห็นกระแสและค่านิยมของสังคมที่กำลังเปลี่ยนไป อาจจะเป็นข้อดีสำหรับสมเด็จพระกนิษฐา​ธิราชเจ้าฯ ต่อไปพระองค์ก็ใช้เวลาสั้นลงและพระราชทานให้เฉพาะบัณฑิตที่ยังประสงค์จะมีโอกาสดีๆครั้งหนึ่งในชีวิตที่รับพระราชทานปริญญาบัตร​จากพระองค์ซึ่งอาจจะมีจำนวนน้อยลงไปเยอะ คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ซึ่งเตรียมและฝึกซ้อมบัณฑิตก็จะเหนื่อยน้อยลงเพราะบัณฑิตประสงค์จะร่วมพิธีมีจำนวนน้อยลง พิธีไวขึ้น แต่ร้านค้าและธุรกิจเกี่ยวข้องกับงานรับปริญญา​อาจต้องทำใจเพราะธุรกิจจะไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนเพราะจำนวนบัณฑิตลดลง นี่คือกระแสสังคมและค่านิยมของสังคมที่กำลังเปลี่ยน ถ้าสังคมไทยไม่ต้องการรับปริญญา​บัตรจากตัวแทนของสถาบันกษัตริย์... พิธีพระราชทาน​ปริญญาบัตร​ก็จะกลายเป็นตำนานที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์​และทรงคุณค่าในสังคมไทย
โฆษณา