17 ธ.ค. 2020 เวลา 12:24 • สุขภาพ
ล่าสุด!! ผลสอบสวน"เจ้าของแพปลา" สมุทรสาคร ติดโควิด-19
จ.สมุทรสาครแถลงพบผู้ติดโควิด-19 จำนวน 1 ราย พร้อมเปิดผลสอบสวนโรคเบื้องต้น คนสัมผัสเสี่ยงติดเชื้อต่ออีก 18 ราย รู้ผลตรวจรอบ 1 แล้ว 10 ราย
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2563 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า พบผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ที่จ.สมุทรสาคร โดยได้รับแจ้งจากจังหวัดว่ามีการตรวจพบหญิงไทยอายุ 67 ปี มีอาการไม่สบายจึงไปพบแพทย์ และมีการตรวจพบว่าติดโควิด-19
ขณะนี้อยู่ในการดูของรพ.ในพื้นที่ ทางจังหวัดเข้าดำเนินมาตรการควบคุมป้องกันโรค และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม
เบื้องต้นทางผู้ป่วยให้ข้อมูลว่าไม่เคยมีการเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน แต่ทีมสอบสวนโรคต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนเปิดเผยรายละเอียดให้ทราบ
ต่อมานายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นพ.ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร แถลงข่าวกรณีนี้ว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้เป็นเจ้าของแพปลา เมื่อมีอาการป่วยไปตรวจที่ รพ.มหาชัย ผลการตรวจเป็นบวก ติดโควิด-19 จึงได้ถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาและกักตัวที่ รพ.สมุทรสาคร
จากการสอบสวนโรคเบื้องต้น มีผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้ใกล้ชิดและเสี่ยงที่จะติดเชื้อต่อจากหญิงรายนี้มากที่สุด จำนวน 18 ราย
เป็นคนในครอบครัว 8 ราย ลูกจ้างชาวเมียนมา 2 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ 8 ราย เก็บตัวอย่ส่งตรวจหาเชื้อแล้ว 16 ราย
ผลเบื้องต้นเป็นลบ 10 ราย อีก 6 รายรอผลตรวจ และ 2 รายอยู่ระหว่างติดตามตัว
ระบุเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นหญิงอายุ 67 ปี อาชีพค้าขาย (เจ้าของแพปลา) ในตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร เริ่มต้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2563 มีอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น จึงเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งพบว่ามีผลเป็นบวก จึงส่งมาเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร และจากการสอบสวนโรคอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 การตรวจ 2 ครั้งจากโรงพยาบาลสมุทรสาคร และ ศวก.ที่ 5 สมุทรสงคราม พบผลเป็นบวก แพทย์ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด – 19 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการกักกันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร
ส่วนผู้ใกล้ชิดที่ถูกกักกันตัวไว้เพื่อเฝ้าดูอาการด้วยนั้นมีด้วยกัน 4 กลุ่มทั้งหมดรวม 18 คน ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ลูกชายคนที่ 2 (ชาย 31 ปี) กับ เพื่อนลูกชาย (หญิง 25 ปี) ผลไม่พบเชื้อ กักกันที่รพ.สมุทรสาคร ,
กลุ่มที่ 2 มารดาผู้ป่วยติดเตียง (หญิง 95 ปี) ,น้องชายผู้ป่วย (ชาย 57 ปี), น้องสะใภ้ (หญิง 57 ปี) , พี่สาวคนโต (หญิง 73 ปี) , แม่บ้าน (ไป-กลับ) (หญิง 56 ปี ) ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอผล กักกันที่บ้าน,
กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่สัมผัสกับผู้ป่วยในช่วงขายของ คือ ลูกชายคนที่ 1 (ชายอายุ 39 ปี)กักกันตัวที่โรงพยาบาล , ลูกจ้างพม่าชาย 40 ปี กับ ลูกจ้าพม่าชายอายุ 48 ปี อยู่ระหว่างติดตามมาเก็บตัวอย่างและกักกัน
ส่วนกลุ่มที่ 4 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 8 ราย เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้วไม่พบเชื้อ
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า สำหรับต้นตอของเชื้อโควิด – 19 ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายนี้ ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนโรคว่ารับเชื้อมาจากใคร ซึ่งขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร รอฟังการแถลงข่าวจากทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร หรือบุคลากรที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น อย่าเชื่อข่าวลือโดยยังไม่ผ่านการคัดกรองเด็กขาด
ส่วนมาตรการในการควบคุมโรค ได้แก่ ผู้ป่วยได้รับการรักษาและแยกกักในโรงพยาบาล ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 18 ราย (ในครอบครัวในสถานประกอบการใน สถานพยาบาล) ได้รับการเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อ และกักกัน เก็บตัวอย่างแล้ว 16 ราย (ผลลบ 10 ราย รอผล 6 ราย) ส่วนอีก 2 ราย (แรงงานพม่า) อยู่ระหว่างติดตามทำการสอบสวนโรค ค้นหา คัดกรอง
และเก็บตัวอย่างผู้สัมผัสเพิ่มเติมในตลาดกุ้ง ได้แก่ ผู้ค้า ผู้ซื้อ และแรงงานในตลาดกุ้ง ลูกค้าที่มาซื้อปลาเป็นประจำ และ ผู้ที่ติดต่อกับผู้ป่วย
ผู้บริหารตลาดให้ความร่วมมือในการหยุดให้บริการตลาดกุ้ง 1 วัน ในส่วนแพปลาที่พบผู้ป่วยจะหยุดให้บริการจนครบ 3 วัน และทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ ตลาดกุ้ง แพกุ้ง แพปลาสื่อสารประชาสัมพันธ์ เพื่อลดความตระหนักของประชาชน
รวมทั้งเน้นย้ำมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้น ระยะห่างระหว่างบุคคล ทำความสะอาดพื้นผิว โดยเฉพาะที่สาธารณะบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการไปสถานที่ชุมชน
เน้นย้ำสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังผู้ที่มี อาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค โดยเฉพาะ ผู้ที่มีประวัติไป แพปลา แพกุ้ง ที่ เดียวกับผู้ป่วย หรือสถานที่เดียวกับที่ผู้ป่วยเคยไปในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้มในเรื่องมาตรการจับปรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากก่อนออกจากบ้าน โดยใช้มาตรการตามที่จังหวัดสมุทรสาครเคยประกาศใช้ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา