18 ธ.ค. 2020 เวลา 05:59
อาชีพ Coach, Consult, Counseling/Therapy, NLP , Mentor ต่างกันอย่างไร???
#ยุคNew normal #
ในบรรดาเทคนิคที่ใช้ในการพัฒนาคน ที่เรามักจะพบบ่อยๆ และ นำมาใช้ ในการสร้างรายได้. ประกอบอาชีพ ในยุคนี้ มีมากมาย # ยุค New normal นี่แหละ#
เทคนิคเหล่านี้ ได้แก่ Coach, Mentor, Consult, Counseling/Therapy, NLP , Training
และพวกเราเคยสงสัยมั้ย ว่าเทคนิคหรืออาชีพเหล่านี้ มี Key ,ความเหมือน หรือ แตกต่างกันอย่างไร?
ในยุคnew normalนี้ พวกเราคงปฏิเสธ กันไม่ลงนะคะว่า อาชีพที่กำลังมาแรง ในขณะนี้คืออาชีพ consultant, Coach, Mentor , Instucture เป็นอาชีพที่ต้องลงทุนด้วย สมอง ความรู้ ทักษะ แรงกาย แรงใจ โดยที่อาจจะใช้เงินลงทุนไม่สูงมากนัก และกำลังนิยมมาก
# ทุกอาชีพก็มีการลงทุนเสมอ อย่างน้อย การหาความรู้เพิ่ม อุปกรณ์ต่างๆ#
หลายๆคนกำลังคิด จะเริ่มอาชีพที่สอง หรือ เกษียนทำงาน หรือการายรับเพิ่ม และอาจจะกำลังตัดสินใจว่าจะทำอาชีพ อะไรดี
เราจะมาดูกันค่ะว่า แต่ละอาชีพ ที่เรากำลังคิดจะทำ ต่างกันตรงไหน เราจะได้วางแผนได้ถูกทางค่ะ
มาดูกันค่ะ
Coach vs Consulting
มีความสัมพันธ์กันระหว่าง 2 วิธีนี้ คือ โดยทั่วไป Consult จะเป็นผู้เชี่ยวชาญ (specialist) ใน Area หรือ ขอบเขตงานที่เฉพาะเจาะจงนั้นๆ โดยคนที่เป็น Consult จะให้คำแนะนำ (Recommend) และวิธีการ (Solution) แก่ลูกค้า/ผู้จ้าง และจะทำงานร่วมกับลูกค้า/ผู้จ้างในการแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่งที่เฉพาะเจาะจง และเมื่อปัญหาได้รับการแก้ไข งานของ Consult ก็จะจบเพียงแค่นั้น แต่ คนที่เป็น Coach จะไม่ให้วิธีการหรือคำแนะนำ แต่จะช่วย (Facilitate) ลูกค้า/ผู้จ้างในการวิเคราะห์สถานการณ์, สร้างแผนการดำเนินงาน และร่วมคิดไปกับลูกค้า/ผู้จ้าง เพื่อให้ได้แนวทางแก้ไขปัญหานั้นๆ ด้วยวิธีการของ ลูกค้า/ผู้จ้าง ที่คิดขึ้นได้เอง (ไม่ได้ให้วิธีการ แต่ช่วยสร้างแผนการตามความรู้และสถานการณ์ของลูกค้า/ผู้จ้าง)
Coach vs Counseling / Therapy (นักบำบัด)
ถึงแม้จะมีลักษณะคล้ายกัน ในเรื่องของการปรับ/เปลี่ยนพฤติกรรม แต่ก็มีสิ่งที่แตกต่างกันของ 2 วิธีนี้ คือ แนวทางของ Counseling จะโน้มเอียงไปในเรื่องของความรู้สึกและประสบการณ์ ในอดีต ขณะที่ Coaching มุ่งไปยังเป้าหมายและกระตุ้น / ให้กำลังใจกับลูกค้า/ผู้จ้าง ให้เกิดการกระทำไปข้างหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมาย Counseling เป็นขบวนการที่ผู้ให้คำปรึกษา (นักบำบัด (therapist)) จะช่วยให้ผู้จ้าง/ลูกค้า/ เข้าใจสาเหตุของปัญหา และแนะนำให้ไปเข้าขบวนการเรียนรู้วิธีการรักษา/บำบัด เพื่อทำให้ผู้จ้าง/ลูกค้า ตัดสินใจ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น Coaching จะมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ (Result) ที่ต้องการไม่ใช่สำรวจปัญหา/สาเหตุของปัญหา แต่ให้ดูว่า ผู้จ้าง/ลูกค้า จะทำอย่างไรเพื่อให้ชีวิต ดำเนินไปอย่างมี ประสิทธิภาพ ไปสู่จุดหมายปลายทางอาชีพได้อย่างบรรลุเป้าหมาย
Coach vs Mentor (พี่เลี้ยง)
มีหลายสิ่งที่ทั้ง 2 วิธีการนี้คล้ายกันแต่ Mentor จะให้ความรู้สึก ในเรื่องของประเพณี หรือ วัฒนธรรม และให้เกิดการดำเนินการตามเส้นทางของผู้มาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ และ ประสบการณ์มากกว่า ในการพัฒนาผู้มาทีหลัง เชิงความรู้ และ/หรือ การดำเนินการวิธีทำงานตามรูปแบบ/วิธีการที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา ในขณะที่ Coach ไม่ได้ดำเนินการบนพื้นฐานที่โค้ชมีประสบการณ์ตรง ในสายงานนั้นๆ key ของโค้ชมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นจูงใจให้ลูกค้า/ผู้จ้างสร้างเส้นทางชีวิตและดำเนินการในรูปแบบ/แนวทางของตัวเอง โดยปรับกรอบความคิดของลูกค้า/ผู้จ้าง ไม่ใช่เป็นการให้ความรู้ หรือ วิธีปฏิบัติ ดังนั้นประสบการณ์ของ Coach จึงเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น
Coach กับ NLP
NLP เป็นเทคนิค/Model ที่มีประโยชน์มากในการดำเนินกรอบการ Coaching, เทคนิคของ NLP ให้เครื่องมือและทักษะ เพื่อการพัฒนาส่วนบุคลที่ดีเยี่ยม เป็นการสร้างระบบ ความเชื่อของมนุษย์ที่ทรงพลังอันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ในอีกระดับของ NLP เป็นการช่วยให้มนุษย์ค้นพบตัวตน และสำรวจตัวเองเกี่ยวกับเป้าหมายชีวิตส่วนบุคคล อันจะทำให้เกิดความเข้าใจในศักยภาพของตัวเอง ในขณะที่ Coaching เป็นการนำเทคนิคต่างๆ, หลักการ และความเชี่ยวชาญของโค้ชเอง รวมถึง NLP มาใช้ในการพัฒนาศักยภาพของลูกค้า/ผู้จ้าง ตัว Coach เองอาจจะได้ศึกษา/ฝึกฝนโดยใช้เทคนิค NLP และนำ NLP มาประยุกต์ใช้ในงาน Coaching ก็ได้
Training และ Teaching:
Training เป็นการให้ความรู้ โดยมีลำดับขั้นตอน ในอีกระดับคือการฝึกให้กับผู้เรียนปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้มีการสอน (Teach) เพื่อให้เกิดความชำนาญ
ส่วน Teaching เป็นการสอนเพื่อเพิ่มพูนความรู้ใหม่ๆ ให้กับผู้เรียน บ่อยครั้งที่การพัฒนาคน ต้องใช้หลายๆแนวทางผสมผสานกันไป ขึ้นอยู่กับ ปัจจัยหลายๆอย่างนะคะ
Key หลักสำคัญๆ ที่คล้ายและต่างกันเหล่านี้
พวกเราลองนำมาทบทวนดูนะคะว่าเ รามีความสามารถ ที่เหมาะกับเทคนิคแบบไหน หรือเราอาจจะทำได้หลายอย่าง
สำคัญคืออย่า เพิ่งท้อแท้ ก่อนลงมือ สิ่งสำคัญที่เราควรคำนึงถึง คือ ข้อมูล หรือความรู้ ที่นำไปใช้กับลูกค้า หรือโค้ชชี่ ของคุณ ต้องถูกต้องจริงๆ นะคะ
# Coachee คือผู้ที่ได้รับการCoach #
ทุกเทคนิคเหล่านี้ เราสามารถนำมา พัฒนาบุคคลากร ให้มีความสามารถ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและ มีผลดีต่อทีม ต่อองค์กรต่อไปนะคะ
# อีเจ้ นำ เทคนิคเหล่านี้ ล่ะค่ะ มาพัฒนา ทีมตนเอง และ วิธีการ , contents หรือ หัวข้อการพัฒนาที่จะนำมาใช้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ Factor หรือ point ตรงไหนที่เรา จะปรับปรุง ให้ดียิ่งขึ้น และอะไรคือ Weakness ของทีมเรา นะคะ # ทำ SWOT ในทีมก็ดีนะคะจะได้รู้ว่า เราจะพัฒนาอะไร ใช้เทคนิคไหนนะคะ
เลือกเอาคร้าว่าจะใช้เทคนิคไหนดี หรือ ทำอาชีพอะไรดี
อีเจ้ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ เลือกเลยคร้าค่ะ
“ Right Man and The Right Job “
# ตัวSMART GIRL เอง ก็เป็นFreelance Consultant, Coach , Instructor และ Lead Auditor # Management Systems & Performance #
ขอให้ทุกคน มีความสุขกับการทำงาน และอาชีพใหม่นะคร้า
ขอบคุณค่ะ
SMART GIRL
“ ผู้หญิง ลั่นล้า💃🏻💃🏻”
Reference & Credit
#PERLA coaching & consultant
#cr.เจ้าของภาพทุกท่าน#
ขอบคุณค่ะ🙏🙏🙏
โฆษณา