ลุย! ตลาดกัญชา มูลค่ากว่าแสนล้านดอลลาร์
จากรายงาน The Global Cannabis Report ของ Prohibition Partners จัดทำรายงานมูลค่าตลาดกัญชาระดับโลก คาดการว่ามูลค่าจะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 103.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2567
ตลาดที่มีพืชเกษตรมูลค่าสูงมาก อีก 4ปีไทยเราจะได้เปรียบ หรือสร้างประโยชน์อย่างไรในการแข่งขันเพื่อแบ่งกินเค้กก้อนโตนี้
แบ่งเป็นตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์มีสัดส่วนราว 60% ของมูลค่าตลาดกัญชาทั้งหมด และอีก 40 % เป็นตลาดกัญชาเพื่อการสันทนาการ
ล่าสุดเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2563 นี้ประเทศไทยมีการปลดล็อคเพิ่ม เกี่ยวกัยการใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมาย แต่ยังมีการยกเว้นเรื่องเมล็ดและช่อดอกทั้งกัญชงและกัญชา โดยมุ่งเน้นเพื่อการวิจัยทางยาและการรักษาทางการแพทย์
แต่ตลาดกัญชาถูกกฎหมายของไทยยังมีมูลค่าน้อยมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นส่วนผสมอยู่ในตำรับยาไทย และยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการทดลองทางการแพทย์เพื่อใช้กับผู้ป่วย
ทั้งนี้จะเห็นทั้งหน่วยงานภาครัฐและมหาวิทยาลัยต่างๆเริ่มให้ความสนใจและความสำคัญเกี่ยวกับสารสกัดจากกัญชามากขึ้น แม้จะต้องได้รับการควบคุมดูแลโดยหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจเป็นพิเศษ
"ว่ากันว่าถ้ามีการผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง และมีการจำหน่ายในรูปแบบเชิงพาณิชย์ ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ของไทยน่าจะมีมูลค่าราว 3,600-7,200 ล้านบาทในปี 2564 ซึ่งยังมีขนาดที่เล็กมากหรือคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.02-0.04 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หรือถ้าเทียบกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ขนาดใหญ่ของโลก มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้าน"
cr.prohibitionpartners.com
ช่วงที่ผ่านมา เธอเป็นข่าวที่มีกระแสโด่งดัง
มหาวิทยาลัยรังสิ ร่วมกับกระทรวงกลาโหม” ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อการแพทย์
-เพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อการแพทย์
-เพื่อใช้งานผลิตภัณฑ์กัญชาในด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ มุ่งสู่การผลิตใช้ในราชการ และการเพิ่มการจ้างงาน
-เพื่อการสร้างมาตรฐานทางการทหาร และลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ
ลดต้นทุนการผลิตทั่ต้องการนำเข้าจากต่างประเทศ
การพัฒนาที่เริ่มจากสเกลเล็กๆเพื่อพัฒนาสู่อุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่จำเป็นต้องร่วมมือกันหลายภาคส่วนทางภาครัฐและเอกชน
หากเทรนโลกเริ่มปลดล็อคและมีความสนใจในการใช้สารสกัดจากกัญชามากขึ้น
ประเทศไทยต้องเร่งกระบวนการงานวิจัยเพื่อเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตจนสามารถมีส่วนแบ่งทางการตลาดในระดับโลกมากขึ้น
แต่จากการที่มีข่าวเป็นกระแสโด่งดังเรื่องกัญชาก็ต้องยอมรับว่าจะมีผู้เสพที่ใช้เพื่อสันทนาการ หรือถึงขั้นใช้เพื่อเป็นยาเสพติดจะมีมากขึ้น
จากข้อมูล ประเทศไทยมีการใช้กัญชาในระบบ 25% แต่เป็นกัญชาใต้ดิน 75%
แสดงให้เห็นว่าคนใช้กัญชาที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานสูงมาก และจากการทดลองกันเองส่วนใหญ่จะมีสารปนเปื้อน เช่น โลหะหนัก และสารต่างๆ หรือสารเสพติดที่เป็นโทษต่อร่างกาย
หลังจากปลดล็อคข้อกฎหมายการศึกษาวิจัยกัญชา จะต้องทำการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิ์ อยากให้รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนอกจากคำนึงถึงความปลอดภัยในการผลิตแล้ว
ควรจะเปิดกว้างให้ประชาชน หน่วยงานรัฐหรือเอกชน สถาบันที่มีการศึกษาวิจัยผลชัดเจน เชื่อถือได้เปิดกว้างให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลและมีการรับรองการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาที่ดี มีคุณภาพ
ต้องช่วยกันให้ประโยชน์เหล่านี้ถึงมือประชาชนมากที่สุดโดยไม่เอื้อนายทุนจนเกินไป
ทั้งที่กัญชามีประโยชน์ต่อการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คน บำบัดรักษาโรค และเพิ่มเม็ดเงินมหาศาลทางเศรษฐกิจได้ครับ
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
