รู้จักกับเสื้อผ้าญี่ปุ่น “WORK MAN”
แบรนด์รุ่นพี่ “เก๋าแต่ไม่ยอมแก่”
WORK MAN
“WORK MAN” แบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานี้
ทำเอา Uniqlo ถึงกับอยู่นิ่งไม่ได้เลยทีเดียว
WORK MAN ไม่ใช่แบรนด์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่
แต่มีมานานแล้วถึง 40 ปี
หากพูดถึงแบรนด์ “WORK MAN” แล้ว
คนญี่ปุ่นจะนึกถึงชุดทำงาน หรือ ชุดยูนิฟอร์มของเหล่าช่างเทคนิค, ชาวเกษตรกร, ชาวประมง,หรือช่างฝีมือทั้งหลาย
ที่ถ้าหากได้ใส่แบรนด์นี้ทำงานแล้ว จะรู้สึกมั่นใจ ดูเป็นมืออาชีพ
ซึ่งภาพจำของ WORK MAN นั่นก็คือ
“ภาพคุณลุงที่ใส่ชุดยูนิฟอร์ม”
และนี้คือภาพโฆษณาของ WORK MAN ในสมัยก่อน
WORK MAN
แต่มาในวันนี้ WORK MAN ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ เป็นเสื้อผ้าที่มีดีไซน์ทันสมัยมากขึ้น
และนี้คือโฆษณาในปัจจุบัน
WORK MAN
ถ้าไม่บอก ก็คงไม่มีใครรู้ว่า นี้คือแบรนด์เดียวกัน
WORK MAN คือ บริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้า
ที่เข้าใจความต้องการของคนทำงานทุกสาขาอาชีพ
ผู้คิดค้นและวิจัยเนื้อผ้าและดีไซน์ให้เหมาะกับแต่ละงาน
ทั้งชุดยูนิฟอร์ม กันลม กันฝน กันหนาว หรือกันไฟ
ไม่ว่าคนทำงานจะต้องเจอกับงานที่ยากลำบากขนาดไหน WORK MAN ก็เอาอยู่
WORK MAN
ด้วยการนำ Know how เรื่องเนื้อผ้าที่สั่งสมมาหลายสิบปี ออกแบบดีไซน์ให้ทันสมัย บวกกับใส่ฟังชั่นการใช้งานเพิ่มเติมเข้าไป
WORK MAN ได้เปลี่ยนคำนิยามของคำว่า “เสื้อผ้า” ขึ้นใหม่
เพราะไม่ได้ใส่เพื่อแฟชั่นเท่านั้น แต่กลายเป็น “ของที่จำเป็นต้องมี”
WORK MAN
เสื้อผ้าที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่นี้
ใส่ได้ในทุกโอกาส ทั้งไปทำงาน, ไปเที่ยว, หรือทำกิจกรรม Outdoor
แถมราคายังถูกกว่ายี่ห้ออื่นประมาณ 20~30%
ปี 2018 WORK MAN ได้รีแบรนด์เสื้อผ้าใหม่เป็น “ WORK MAN Plus+”
มาดูตัวอย่างเสื้อผ้าขายดีของ WORK MAN Plus+ กันค่ะ
1.) WASHABLE FUSION DOWN
WORK MAN
เสื้อแจ็คเก็ตดาวน์ ที่สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ มีเทคโนโลยี REPAIR TECH แก้ไขเนื้อผ้าเป็นรู
โดยหากเสื้อผ้าโดนเกี่ยว หรือโดนหนามทิ่มแทง ให้ใช้นิ้วลูบ วนเบาๆ เพียงไม่นาน เนื้อผ้าจะคืนตัวเหมือนเดิม
เหมาะกับการเดินป่า ,แคมปิ้ง หรือในชีวิตประจำวัน
ราคาขาย 3,900 เยน (ประมาณ 1,200 บาท)
2.) HEATER VEST
WORK MAN
เสื้อกั๊กดาวน์ไฟฟ้า ที่มีฮีทเตอร์ในตัว
โดยการเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ขนาดเล็ก ที่เก็บไว้ในกระเป๋าล้วง
ปรับอุณหภูมิได้ 3 ระดับ โดยกดปุ่มที่หน้าอก สามารถทำอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 50 องศา และนานสูงสุด 16 ชั่วโมง
เหมาะกับการไปเล่นสกีหิมะ หรือคนขี้หนาว
ราคาขาย เสื้อกั๊ก 3,900 เยน , แบตเตอรี่ 4,900 เยน (ประมาณ 1,200+1,450 บาท)
3.) AEGIS SUITS
WORK MAN
เสื้อแจ็คเก็ตและกางเกงกันลม กันน้ำ
ที่ขายดีในหมู่พนักงานส่งของ ,คนขี่มอเตอร์ไซค์ หรือปั่นจักรยาน
ตัวเสื้อกันน้ำได้มากกว่าร่มถึง 30 เท่า
ระบายความชื้นได้เร็ว และมีช่องเก็บของเยอะ
เรียกว่า ทั้ง Grab bike, Line man, หรือ Gojek เวอร์ชั่นญี่ปุ่น
แทบทุกคนก็ต้องใส่รุ่นนี้
ทั้งเซ็ตราคา 6,800 เยน (ประมาณ 2,000 บาท)
4.) BAG IN RAINCOAT
WORK MAN
เสื้อกันฝนขยายไซส์ได้ ไม่ต้องกลัวกระเป๋าเปียกอีกต่อไป
เสื้อกันฝนรุ่นนี้มีซิปที่ด้านหลัง สามารถรูดซิปเพื่อปรับขนาดไซส์ให้ใหญ่ขึ้นได้
มีขนาดกว้าง คลุมกระเป๋าเป้สะพายหลังได้สบาย และระบายความชื้นได้ดี
ราคาขาย 3,900 เยน (ประมาณ 1,200 บาท)
นอกจากนี้ ยังผลิตแบรนด์
“WORKMAN GIRL”
ที่จำหน่ายเสื้อผ้าสตรีโดยเฉพาะอีกด้วย
WORK MAN
สำหรับในปีหน้า
WORK MAN ยังมีแพลนที่จะจำหน่ายชุดทำงาน สำหรับพนักงานออฟฟิศอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น เสื้อสูทแจ็กเกตที่กันน้ำได้
ราคาคาดการณ์คือ 2,900 เยน
ต่อไปนี้ ถ้าโดนฝนนิดหน่อย ก็ยังหล่อเนียบไปพบลูกค้าต่อได้
WORK MAN
ด้วยคุณภาพของสินค้าที่ดี ราคาที่ถูก
จึงทำให้ความต้องการของตลาดเพิ่มสูงขึ้น
ทำให้ปีนี้ มียอดขายสูงกว่าปีก่อนๆเพิ่มขึ้นถึง 30% สวนทางกับวิกฤติโควิดเลยทีเดียว
ปัจจุบันนี้ WORK MAN มีสาขาในประเทศญี่ปุ่นถึง 902 สาขา
ซึ่งแซงหน้า Uniqlo ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
(Uniqlo มีสาขาในญี่ปุ่น 817 สาขา แต่มีสาขาในต่างประเทศ 1,379 สาขา)
เชื่อว่า ถ้า WORK MAN Plus+ เปิดสาขาในต่างประเทศ ก็น่าจะขายดีไม่แพ้กัน
หากใครไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้า ก็อย่าลืมแวะไปชมสินค้าของ WORK MAN PLUS+ กันดูนะคะ
เสื้อผ้ารุ่นไหนที่ขายดี จะถูกระบุไว้ว่า
“ซื้อได้เพียงคนละ 1 ชิ้นเท่านั้น”
ใครที่รับฝากซื้อ หรือจะซื้อฝาก คงต้องทำใจหน่อยนะคะ
/ฮิเมะ
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
