20 ธ.ค. 2020 เวลา 02:01 • สุขภาพ
ในขณะที่ ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ วิกฤติโควิด "รอบที่ 2"
แต่ ประเทศเกาหลีใต้ ได้เข้าสู่ "รอบที่ 3" เป็นที่เรียบร้อย..
4
เข้าใจว่า "Second Wave" สำหรับประเทศไทย อาจจะเป็นความรุนแรงที่สาหัสกว่า หลายๆประเทศที่เจอไปแล้วเมื่อช่วง เดือน สิงหา - ตุลาคม
1
ซึ่งในขณะที่หลาย ๆ ประเทศในยุโรป หรือ เอเชียตอนเหนือ เผชิญกับ Second Wave
อาจเรียกได้ว่า ความเป็นอยู่ของพวกเรานั้น
ดีกว่าพวกเขาเยอะมากๆ
3
เราแทบจะใช้ชีวิตด้วยความไม่กังวล ด้วยการใส่หน้ากากตลอดเวลา ไร้กังวลขนาดที่ ถึงแม้จะมีใส่หน้ากากไว้ใต้คางบ้างก็ตามที..
6
แต่เพราะเรา ไร้กังวลจริงๆ มาเป็นระยะเวลาเกือบ 4 เดือน จึงทำให้เวลานี้ การปรับตัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อาจมีความสาหัสได้
3
(หากนับตั้งแต่สิงหาคม ช่วงที่รัฐบาลปลดล็อคดาวน์ 100% และ หลายๆบริษัทเริ่มผ่อนคลาย โดยให้มาทำงานที่ออฟฟิศได้)
2
เราคิดว่าจากแหล่งข่าว และบทความต่างๆ อาจจะพูดถึงการอัพเดทผู้ติดเชื้อ และผู้แพร่เชื้อ ให้เพื่อนๆอ่านกันมาเยอะแล้ว
3
งั้นในบทความนี้ เราจะพามาดูกันดีกว่าว่า ประเทศอื่น ๆ ในตอนนี้ เป็นอย่างไร ?
1
อย่างน้อยที่สุด ประเทศไทยเรา ก็ไม่ได้เผชิญกับวิกฤติในรอบที่ 2 อย่างโดดเดี่ยว
5
1. ประเทศเกาหลีใต้ - รอบที่ 3
1
- ประเทศเกาหลีใต้เคยผ่าน "รอบที่ 2" มาก่อนเราในช่วงกลางเดือนสิงหาคม กับจำนวนผู้ติดเชื้อ 441 เคส / วัน
- สถานการณ์ในขณะนี้คือ ประเทศเกาหลีใต้เข้าสู่ "รอบที่ 3" เป็นที่เรียบร้อยในช่วงเริ่มต้นเดือนธันวาคม ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 1,000+ เคส / วัน
3
ถือว่ามากขนาดไหน ?
- มากกว่าการแพร่กระจายในรอบแรก ช่วงเดือนกุมภาพันธ์
ที่สูงสุดเพียงแค่ 813 เคส / วัน เท่านั้น
- มากขนาดนี้ อาจแซวได้ว่า นี้คือ All Time High เลยก็ว่าได้
1
2. ประเทศฝรั่งเศส - รอบที่ 2 (และยังไม่ถึงจุดสูงสุด)
1
- ประเทศฝรั่งเศสเข้าสู่ "รอบที่ 2" จริงๆก็ในช่วงพฤศจิกาที่ผ่านมานี้เอง ด้วยบอดที่พุ่งสูงถึง 86,000 เคส / วัน
- ต้องบอกว่า เขาไม่ได้เริ่มติดกันในช่วงเดือน 11 ที่ผ่านมานะ แต่ต้องย้อนไปยังจุดเริ่มต้น คือ วันที่ 17 ตุลาคม
- ซึ่งวันนั้นคือ วันที่ผู้คนชาวฝรั่งเศสออกมาเดินช้อปปิ้งเทศกาล "Black Friday"
2
รู้หรือไม่ ?
ที่บอกว่ายังไม่ถึงจุดสูงสุด ไม่ใช่แค่ตัวเลขอย่างเดียวนะ
แต่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง
ก็พึ่งจะติดเชื้อไป เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมานี่เอง...
และเทศกาลคริสต์มาส ที่กำลังจะมาถึง รวมถึงประชาชนที่เพิกเฉยต่อโควิดไปเสียแล้ว
3. สหราชอาณาจักร - รอบที่ 2 แบบเรื้อรัง
- เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อน ๆ หลายคน น่าจะรู้ข่าวสารเกี่ยวกับ วัคซีนของ Pfizer ที่กำลังได้รับอนุมติให้ใช้กับประชาชนทั่วไปเป็นกรณีฉุกเฉินได้
1
- แต่เชื่อไหมว่า... ข่าวนี้อาจทำให้ราคาและตลาดหุ้นขึ้นก็จริงแต่ยังไม่ได้ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวัน ลดลงแต่อย่างใด....
- สหราชอาณาจักร เข้าสู่ "รอบที่ 2" อย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ตุลาคม
- และในวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อ
กลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นเสียอีก เป็น 35,000 เคส/วัน ซะแล้ว
4. ประเทศรัสเซีย - รอบที่ 2 สไตล์นวดหนัก และสาหัส
- พูดถึงแดนหมีขาว เราก็จะนึกถึงเรื่องของวัคซีน เจ้าแรกที่จดทะเบียนสำเร็จของโลก Sputnik V
(ถ้าจากคำอ้างอิงของรัสเซียคือ ก่อน วัคซีน Remdesivir อีกนะ)
1
แล้วถ้าถามว่า สำเร็จจริงไหม ?
1
เราขอพูดถึงตัวเลขสั้นๆ ให้เพื่อน ๆ คิดต่อ ละกัน
- จำนวนผู้ติดเชื้อ มีจำนวน เกิน 10,000 เคส/วัน ซะแล้ว
- และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แบบที่เราขอเรียกว่า นวดหนัก และสาหัส เพราะปัจจุบัน มียอดผู้ติดเชื้อสูงถึง 27,787 เคส / วัน ไปซะแล้ว..
1
5. ประเทศจีน
- ถ้าการหาจากแหล่งข่าว (Google Covid stats) ไม่ผิดพลาด
- ไม่น่าเชื่อว่า.... พี่จีนไม่มีแม้กระทั่ง รอบที่ 2
ใช่แล้ว เพื่อน ๆ ไม่ได้อ่านผิด มันมีผู้ติดเชื้อ แต่ไม่ได้เข้าสู่ รอบที่ 2
ต้องแยกกันให้ชัดเจนนะ
แล้ว สงสัยไหมว่า นี่ก็กำลังจะเข้าหน้าหนาวแล้ว บวกกับ
ประเทศอื่นก็ยังติดรอบที่ 2 เป็นปกติ.. จนมีรอบที่ 3
2
แล้วพี่จีนทำได้ยังไง ?
- รัฐบาลจีน มีความตื่นตัวที่สูงมาก เพราะว่าพวกเขาไม่อยากเป็นต้นตอให้เกิดชนวนแบบสายพันธ์ุที่ Wuhan อีก
(แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นต้นตอนะ เพราะยังมีเชื้อจากประเทศอิตาลี ที่เป็นคนละสายพันธ์ุ)
4
- โดยกระทรวงสาธารณสุขของจีน เข้มงวดในเรื่องของแรงงานต่างด้าว
โดยที่พวกเขาอนุญาตให้มีการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงาน ซึ่งสิ่งที่เขาทำก็คือ การบังคับให้ ผู้ประกอบการ
จัดรถบัส หรือ รถตู้สำหรับบรรทุกเหล่าพนักงานต่างด้าว
4
รวมถึงมีการตรวจเชื้ออย่างแน่นหนาตลอด ไม่ใช่เพียงแค่ วัดอุณหภูมิทั่วไป
5
- อย่างกรุงปักกิ่ง ที่มีการเริ่มต้นเปิดให้มีการท่องเที่ยวเอง รัฐบาลจีนก็ได้เข้ามาควบคุมอย่างดี
- รวมถึงเรื่องของการเรียนการสอนด้วยเช่นกัน ทั้งในโรงเรียนและมหาลัย ที่เกือบจะเป็นประเด็นแพร่เชื้อ ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา (แต่ก็ไม่มีนะจ้ะ)
ในส่วนประเทศอื่น ๆ เราขอสรุปดังนี้นะ
ขอหยิบแต่ประเทศที่สำคัญมา
- ประเทศฮ่องกง กำลังจะเข้าสู่ "รอบที่ 3" หลังผ่านรอบที่ 2 ไปเมื่อเดือนสิงหาคม
- ประเทศญี่ปุ่น ประกาศเข้ารอบที่ 2 ช่วงเดือนสิงหาคม ...
แต่ดูเหมือนว่า พวกเขาจะจัดการได้ไม่ดีสักเท่าไร เพราะยอดผู้ติดเชื้อรายวันในเดือนธันวาคม กลับมากกว่าเดิม..
- สหรัฐอเมริกา เข้ารอบที่ 2 อย่างเต็มตัวในช่วงเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ปิดท้ายด้วย ประเทศบราซิล กับคำถามว่า..
เมื่อไรจะได้ออกจาก รอบที่ 2 หลังจากพวกเขาติดแบบเรื้อรังตั้งแต่เดือนพฤษภาคม กราฟดูทรงแล้วเหมือนจังหวะการเต้นของหัวใจ ขณะออกกำลังกายอยู่เลย...
1
เชื่อว่า หลายคน อ่านจนจบตรงนี้แล้ว ก็อาจจะไม่ได้อุ่นใจขึ้นมาเท่าไร...
แต่ จะอุ่นใจได้ไม่อุ่นใจเนี่ย ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
ถึงแม้ว่า คนที่คาดว่าเป็นจุดเริ่มต้นการแพร่เชื้อที่สมุทรสาครจะเป็น กลุ่มคนงานต่างด้าว
แต่ตอนนี้.. มันไม่ใช่วงแคบ แค่นั้นแล้ว
เพราะเชี้อกำลังเข้ามาในเมืองหลวง แบบไม่รู้ตัว
แล้วเพราะอะไร ถึงไม่รู้ตัว?
1
เพราะว่า ลักษณะการติดแบบไม่แสดงอาการ ..
เท่ากับว่า ตอนนี้ทุกคน คือส่วนหนึ่งของการช่วยกันซะแล้วละ
ถ้าเรารอหวังพึ่งแต่วัคซีน....
เห็นข่าวดี ตั้งหลายบริษัทยาแข่งกันผลิต แข่งกันจดทะเบียน เดี๋ยววัคซีนก็มาแล้ว
เราขอถามนิดนึง ต่อให้วัคซีนมาแล้วจริงๆ
ใครจะได้เป็นกลุ่มบุคคลที่จะได้ฉีดก่อนกัน ?
อันนี้ ถ้าเราพูดในเรื่องของ Critria นะ ยกตัวอย่างเช่น ผู้สูงอายุ หรือ ผู้ที่อายุไม่เกิน 64 ปี แต่ไม่น้อยกว่า 40 ปี
4
อย่างไรก็คงไม่ทั่วถึงในเร็ววัน หรือ อาจจะในปี 2021 ด้วยซ้ำ
1
ทั้งหมดนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า ประเทศไทยจะนำเข้า
วัคซีนตัวไหนมา ?
และเมื่อนั้น เราถึงจะบอกได้ว่า ใครคือกลุ่มบุคคลที่จะได้เริ่มฉีดก่อน...
1
References:
- Google Covid Stats
- Statista
- Cnbc.com (ตามเรื่องของข่าวแต่ละประเทศที่ได้ประกาศการติดเชื้อ)
1
โฆษณา