20 ธ.ค. 2020 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
“สตีเฟน ฮอว์กิง (Stephen Hawking)” อัจฉริยะบนรถเข็น” ตอนที่ 2
2
ชีวิตมหาวิทยาลัยของอัจฉริยะ
ตั้งแต่เด็ก สตีเฟนนั้นโปรดปรานการเล่นบอร์ดเกม แต่บอร์ดเกมอย่างเกมเศรษฐีนั้นก็เริ่มจะน่าเบื่อสำหรับเขา
สตีเฟนและเพื่อนจึงช่วยกันสร้างบอร์ดเกมของตนเองขึ้นมา โดยเกมโปรดของสตีเฟน คือเกมสงครามที่ยากมาก เนื่องจากสตีเฟนสร้างกฎขึ้นมาหลายข้อ
ไม่ว่าจะเล่นเกมอะไร สตีเฟนจะทุ่มเพื่อเอาชนะ และครั้งหนึ่ง เมื่อสตีเฟนแพ้แมรีในเกมหมากรุก หลังจากที่ชนะมาตลอด สตีเฟนก็เลิกเล่นหมากรุก
3
แต่ถึงจะเป็นเด็กฉลาด แต่กว่าเขาจะเรียนการอ่านก็ปาเข้าไปแปดขวบแล้ว การบ้านที่เขาทำก็ไม่ค่อยจะเรียบร้อยนัก ลายมือก็จัดว่าแย่มาก
2
สตีเฟนไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องการท่องจำ แต่เขาถนัดการคิดไอเดียใหม่ๆ
4
ในช่วงวัยรุ่น สตีเฟนและเพื่อนช่วยกันสร้างคอมพิวเตอร์ ซึ่งดูไม่เหมือนคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันเลยซักนิด ขนาดก็ใหญ่เทียบเท่ากับตู้เย็น
คอมพิวเตอร์ของสตีเฟนและเพื่อนๆ ถูกสร้างขึ้นมาจากชิ้นส่วนต่างๆ ที่พอจะหาได้ โดยคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาง่ายๆ เท่านั้น แต่ในเวลานั้นคือยุค 50 (พ.ศ.2493-2502) ซึ่งนับว่าสตีเฟนนั้นล้ำหน้ากว่าคนอื่นๆ มาก
3
เพื่อนๆ ของสตีเฟนเรียกเขาว่า “ไอน์สไตน์ (Einstein)” มาจากชื่อของ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)” นักฟิสิกส์ชื่อดัง เนื่องจากสตีเฟนนั้นฉลาดล้ำมาก
2
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)
แต่ในห้องเรียน สตีเฟนไม่ได้ฉลาดล้ำโดดเด่น เมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นๆ เขาเป็นเพียงนักเรียนระดับกลางที่ไม่ได้โดดเด่น
1
สตีเฟนมักจะรู้สึกเบื่อหน่ายในโรงเรียน ฟิสิกส์ก็ง่ายเกินไป โดยวิชาที่เขารู้สึกว่าน่าสนใจกว่า คือวิชาเคมี การคิดสูตรเคมีที่ไม่ทราบผลลัพธ์
2
พ่อและแม่ของสตีเฟนนั้นเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford) และหวังว่าสตีเฟนจะได้เข้าเรียนในอ็อกซ์ฟอร์ดเช่นกัน แต่ด้วยความที่มีผลการเรียนระดับกลาง การจะได้เข้าเรียนอ็อกซ์ฟอร์ดจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
2
พ่อของสตีเฟนอยากให้สตีเฟนเดินตามรอยตน เข้าเรียนด้านการแพทย์ หากแต่สตีเฟนก็ไม่สนใจนัก
สตีเฟนต้องการจะศึกษาคณิตศาสตร์เป็นวิชาเอก หากแต่ที่อ็อกซ์ฟอร์ดนั้นไม่มีคณิตศาสตร์เป็นวิชาเอก สตีเฟนจึงเลือกฟิสิกส์แทน
สตีเฟนนั้นทำให้อาจารย์ประทับใจด้วยผลการสัมภาษณ์ที่โดดเด่น อีกทั้งผลการสอบฟิสิกส์ก็ยอดเยี่ยม ทำให้สตีเฟนได้รับการตอบรับ เข้าเรียนในอ็อกซ์ฟอร์ด
ในเวลานั้น สตีเฟนมีอายุเพียง 17 ปี และก็เริ่มการศึกษาที่อ็อกซ์ฟอร์ดในปีค.ศ.1959 (พ.ศ.2502)
1
เพื่อนร่วมชั้นต่างบอกว่าเขาเป็นคนฉลาดและตลก หากแต่สตีเฟนก็ต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าจะปรับตัวเข้ากับเพื่อนคนอื่นๆ ได้ เนื่องจากนักศึกษาส่วนมากมีอายุมากกว่าเขา
1
สตีเฟนนั้นใช้ชีวิตนักศึกษาอย่างสนุกสนาน เขาเข้าร่วมชมรมพายเรือของมหาวิทยาลัย และได้มีเพื่อนใหม่อีกมากมาย
แต่ดูเหมือนสตีเฟนจะใช้เวลากับกิจกรรมและงานปาร์ตี้มากเกินไป
1
ภายหลัง สตีเฟนได้ลองประเมินตัวเอง และพบว่าช่วงเวลาสามปีในมหาวิทยาลัย เขาใช้เวลาในการเรียนไปราวๆ 1,000 ชั่วโมง ซึ่งฟังดูเหมือนเยอะ แต่ถ้าลองหารออกมา จะเท่ากับว่าเขาศึกษาวันละไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ซึ่งน้อยมาก โดยเฉพาะกับสถาบันชื่อดังอย่างอ็อกซ์ฟอร์ด
สตีเฟนนั้นเริ่มจะโดดเรียนและเริ่มเป็นที่ร่ำลือกันไปทั่วว่าเขาทำงานด้วยยาก โดยสตีเฟนนั้นเคยนั่งประชุมกับอาจารย์ของเขา ก่อนจะลุกขึ้นไปฉีกเอกสาร งานที่เขากับอาจารย์ร่วมกันทำขึ้นมา และโยนลงถังขยะ
1
บางทีที่สตีเฟนทำอย่างนี้ ก็เป็นเพราะว่าเขารู้เรื่องต่างๆ ดีกว่าอาจารย์ และเขาก็คิดว่าการสอบผ่านโดยไม่ต้องทำงานหนัก เป็นเรื่องที่ดูดี
สิ่งที่สตีเฟนคิดนั้นอาจจะจริง ด้วยความที่เขาฉลาด ทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดได้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยตั้งใจก็ตาม
เรื่องราวของสตีเฟนจะเป็นอย่างไรต่อไป เส้นทางสู่อัจฉริยะของเขาจะเป็นไปในทิศทางไหน
มาหาคำตอบได้ในตอนหน้านะครับ
โฆษณา