21 ธ.ค. 2020 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
การล่มสลายของราชวงศ์ฮั่น
การล่มสลายของราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อนคริสตกาล-พ.ศ.764) นับเป็นความล้มเหลวของราชวงศ์ที่โด่งดังราชวงศ์หนึ่งในประวัติศาสตร์จีน
3
ราชวงศ์ฮั่น นับเป็นราชวงศ์ที่สำคัญ และยุคนี้ก็เป็นยุคที่รุ่งเรือง และมีอิทธิพลมากซะจนแม้แต่คนในปัจจุบันหลายกลุ่มก็ยังเรียกตัวเองว่าเป็น “ชาวฮั่น”
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะรุ่งเรืองในหลายๆ ด้าน หากแต่การล่มสลายของราชวงศ์ฮั่นก็ทำให้แผ่นดินจีนอยู่ในความวุ่นวายเป็นเวลานานเลยทีเดียว
ในยุคของราชวงศ์ฮั่น เป็นยุคที่วิทยาการ ปรัชญา ศาสนา การค้ารุ่งเรือง และสามารถขยายขอบเขตอิทธิพล ครอบครองพื้นที่กว่า 6.5 ล้านตารางกิโลเมตร
หากแต่เมื่อเวลาผ่านไป หลังจากครองแผ่นดินมานานกว่า 400 ปี ราชวงศ์ฮั่นก็ล่มสลาย โดยสาเหตุก็มาจากการทุจริตภายในและการกบฏ
5
ในรัชสมัยของ “จักรพรรดิฮั่นอู่” ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ 141-87 ปีก่อนคริสตกาล ได้มีการเปลี่ยนนโยบายด้านการต่างประเทศ จากที่มีการประนีประนอมกับดินแดนอื่นๆ เป็นการนำดินแดนต่างๆ เข้ามาอยู่ใต้อำนาจของราชสำนัก
3
ในเวลาต่อมา ราชสำนักก็อ่อนแอ จักรพรรดิก็ไม่ทรงสนใจในการบริหารบ้านเมือง เหล่าขันทีก็โกงกิน และมีการร่วมมือกับทหารระดับสูงในการทุจริต
1
ในปีค.ศ.189 (พ.ศ.732) “ตั๋งโต๊ะ” ขุนศึกคนหนึ่งแห่งยุคสมัย ได้ทำการปลงพระชนม์จักรพรรดิหองจูเปียน และแต่งตั้งพระอนุชาเป็นฮ่องเต้แทน
3
จักรพรรดิฮั่นอู่
ทางด้านเศรษฐกิจ ในครึ่งหลังของราชวงศ์ฮั่นตะวันออก รัฐบาลได้ลดภาษี จำกัดการใช้จ่ายของราชสำนักและเงินสนับสนุนกองทัพ
1
เหล่าขุนนางเองได้รับการยกเว้นภาษี ส่วนชาวนาก็มักจะหลีกเลี่ยงภาษี เมื่อนายอากรมาเยือนหมู่บ้านต่างๆ ก็จะมีการเตือนกันเป็นทอดๆ และจะหนีออกไปรอบนอกหมู่บ้าน รอจนนายอากรกลับไป
ด้วยเหตุนี้ ทำให้รัฐบาลไม่มีเงินในการบริหารแผ่นดิน
1
ปัญหาอีกอย่าง คือการรุกรานจากชนเผ่าเร่ร่อน
1
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่มีมานานแล้ว โดยชนเผ่าเร่ร่อนนี้จะอาศัยอยู่ตามทุ่งหญ้า ทั้งทางเหนือและทางตะวันตก โดยชายแดนของจีนมักจะถูกควบคุมโดยชนเผ่าเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเผ่าอุยกูร์หรือเผ่าซงหนู รวมทั้งพวกมองโกล
ชนเผ่าซงหนู
ชนเผ่าเร่ร่อนเหล่านี้มีกำลังมากพอที่จะควบคุมเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ ทำให้ทางการยังต้องเกรงใจชนเผ่าเร่ร่อน บางครั้งก็ต้องส่งของขวัญไปให้เพื่อให้อำนวยความสะดวก บางทีก็ต้องจ้างให้ชนเผ่าเหล่านี้ปกป้องพวกตนจากชนเผ่าเร่ร่อนเผ่าอื่น บางครั้งจักรพรรดิถึงขั้นต้องส่งเจ้าหญิงไปแต่งงานกับหัวหน้าชนเผ่าเร่ร่อน
แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลฮั่นไม่มีกำลังพอที่จะดึงชนเผ่าทุกชนเผ่าเข้ามาเป็นพวก
1
นอกจากนั้น ก็ยังมีปัญหาจากสงครามที่ชายแดนและกบฏภายใน ทำให้เกิดการแทรกแซงจากกองทัพ และภายหลัง ชนเผ่าต่างๆ ยังแข็งข้อ ต่อต้านราชวงศ์ฮั่น ทำให้อำนาจของฮั่นเริ่มจะเสื่อมลงเรื่อยๆ
ในเวลาต่อมา ชาวนาและบัณฑิตยังได้รวมตัวกัน ก่อตั้งกองทัพของตนเอง
ค.ศ.184 (พ.ศ.727) ได้เกิดกบฏขึ้นในชุมชนต่างๆ กว่า 16 ชุมชน เกิดเป็นกองทัพ “โจรโพกผ้าเหลือง” ต่อต้านราชสำนัก
ถึงแม้ว่าโจรโพกผ้าเหลืองจะถูกปราบได้ในเวลาไม่นาน แต่ก็ได้เกิดกบฏต่างๆ ตามมาอีกมากมาย
1
โจรโพกผ้าเหลือง
ภายในปีค.ศ.188 (พ.ศ.731) รัฐบาลท้องถิ่นก็เข้มแข็งกว่ารัฐบาลหลักที่ลั่วหยาง และในปีค.ศ.189 (พ.ศ.732) “ตั๋งโต๊ะ” ขุนศึกจากชายแดนก็ได้รุกรานลั่วหยาง ลักพาองค์จักรพรรดิ และทำการเผาเมืองจนราบเป็นหน้ากลอง
ตั๋งโต๊ะ
ตั๋งโต๊ะถูกฆ่าในปีค.ศ.192 (พ.ศ.735) และองค์จักรพรรดิก็ตกไปอยู่ในมือขุนศึกต่างๆ และแผ่นดินฮั่นก็แตกออกเป็นแปดส่วน
เสนาบดีคนสุดท้ายของราชวงศ์ฮั่นคือ “โจโฉ”
โจโฉนั้นเป็นขุนศึกผู้หนึ่งที่เข้าคุมองค์จักรพรรดิและเชิดอยู่หลังม่านเป็นเวลากว่า 20 ปี และภายหลัง “โจผี” บุตรชายของโจโฉ ก็ได้ยึดบัลลังก์และขึ้นเป็นฮ่องเต้
1
ราชวงศ์ฮั่นได้สิ้นสุดลง และแผ่นดินก็แตกออกเป็นสามก๊ก
โจโฉ
โฆษณา