28 ธ.ค. 2020 เวลา 13:45 • ประวัติศาสตร์
# ชายผู้มีนามว่า Nikola Tesla
ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมเกิดจากโอกาสที่ยิ่งใหญ่ อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
*****
Nikola Tesla เป็นวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ที่รู้จักกันดีในการออกแบบระบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งเป็นระบบไฟฟ้าที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลกในปัจจุบัน เขายังสร้าง "ขดลวดเทสลา" ซึ่งยังคงใช้ในเทคโนโลยีวิทยุ
Nikola Tesla เกิดเมื่อปี 1856 ที่เมือง Smiljan ประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสโตร - ฮังการี Tesla มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน นั้นก็คือ Denmark , Angelina, Milka และ Marica ซึ่งตั้งแต่เล็กเขาก็มีความสนใจและมีความหลงใหลในเรื่องวิทยาศาสตร์และการประดิษฐ์อุปกรณ์ต่าง ๆ
ด้วยเหตุที่ Djuka Mandic แม่ของเขา เป็นผู้คิดค้นเครื่องใช้ในครัวเรือนขนาดเล็ก ส่วนพ่อของเขา เป็นชาว ออร์โธดอกซ์ เซอร์เบีย ทำอาชีพเป็นนักเขียน และเป็นศิษยาภิบาล
แม้จะเป็นพ่อที่มักผลักดันลูกให้เดินทางในแบบของตน แต่ Tesla ก็ยังคงสนใจและยืนหยัดในทางของเขาเรื่อยมา
จนกระทั่ง Tesla เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เขาก็ได้ป่วยเป็นโรคอหิวาตกโรค นานกว่า 9 เดือน จึงจะรักษาหายได้ และหลังจากนั้น Tesla ก็ได้เข้าเรียนในสาขาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยปราก
ทันทีที่เรียนจบ Tesla ก็ได้ย้ายไปทำงานที่ บูดาเปสต์ ซึ่งเขาทำงานเป็นวิศวกรไฟฟ้า บริษัท Central Telephone Exchange แม้ทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยความเรียบง่าย และดูธรรมดา
แต่แล้ววันหนึ่ง ในระหว่างที่ Tesla กำลังเดินไปทำงานอยู่นั้นเอง เขาก็เกิดความคิดขึ้นมาได้ว่า “เราน่าจะสามารถสร้าง มอเตอร์ AC ที่ใช้แม่เล็กไฟฟ้าแทนการหมุดขดลวดโดยใช้แปรงถ่าน ในรูปแบบเดิม ๆ ได้นะ”
จึงทำให้ในปี 1882 เขาย้ายไปที่ ปารีส และเริ่มทำงานกับ บริษัท Continental Edison Company ซึ่งเริ่มแรกของการทำงาน เขาทำงานอย่างหนัก ในแบบที่เรียกได้ว่า ไม่ได้หลับได้นอนเลยทีเดียว จนทำให้เขามีโอกาสได้พบกับ เอดิสัน เป็นครั้งแรก
สองปีหลังจากนั้นเขาย้ายไป อเมริกา เนื่องจากผู้จัดการของเขาต้องการให้ Tesla ทำงานที่ Machine Works
เขาทำงานใน นิวยอร์ก เป็นเวลาประมาณหนึ่งปี จน เอดิสัน รู้สึกประทับใจกับความคิดและสิ่งประดิษฐ์ของ Tesla มาก จนเป็นเหตุให้ทั้งสองคน เริ่มทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเคียงข้างกัน เพื่อปรับปรุงสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ของ Edison
หลายเดือนต่อมาทั้งสองจึงได้ตัดสินใจแยกทางกัน เนื่องจากความสัมพันธ์ทางธุรกิจและวิทยาศาสตร์ที่ขัดแย้งกัน ด้วยบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างไม่น่าเชื่อ
เอดิสัน เป็นนักประดิษฐ์ที่มุ่งเน้นไปที่ความสำเร็จทางด้านการตลาดและการเงินค่อนข้างมาก แต่ Tesla มองในทางตรงกันข้าม และคิดว่าการทำธุรกิจนั้นค่อนข้างเสี่ยง ประกอบกับเรื่องการขโมยความคิดในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ด้วย Nikola Tesla จึงก้าวออกมาและไม่เคยมองย้อนกลับไปอีก
“ผมไม่เคยสนใจว่าพวกเขาจะขโมยความคิดของผม ไป เพราะสิ่งที่ผมมองคือพวกเขาช่างน่าสงสารที่พวกเขาไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง” Tesla ให้สัมภาษณ์
หลังจากนั้นสองปีต่อ เขาก็ได้รับเงินทุนสำหรับ ในสร้าง บริษัท Tesla Electric ของเขา
จึงทำให้ตลอดการทำงาน Tesla ได้ค้นพบ ,ออกแบบ และพัฒนาแนวคิดมากมาย สำหรับสิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญหลายอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการจดสิทธิบัตรอย่างเป็นทางการ รวมถึงไดนาโม (เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่คล้ายกับแบตเตอรี่) และมอเตอร์เหนี่ยวนำ
เขายังเป็นผู้บุกเบิกการค้นพบเทคโนโลยีเรดาร์เทคโนโลยีเอ็กซ์เรย์ ,รีโมทคอนโทรล และสนามแม่เหล็กหมุน ซึ่งเป็นพื้นฐานของเครื่องจักร AC โดยส่วนใหญ่ Tesla เป็นที่รู้จักมากที่สุด จากผลงานด้านไฟฟ้ากระแสสลับและขดลวด Tesla นั้นเอง
Tesla ออกแบบระบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งจะกลายเป็นระบบไฟฟ้าที่โดดเด่นมากในช่วงศตวรรษที่ 20 อย่างรวดเร็ว และยังคงเป็นมาตรฐานทั่วโลกนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
นอกจากนั้น ระบบ AC ของ Tesla ก็ยังได้รับความสนใจจากวิศวกรและนักธุรกิจชาวอเมริกัน George Westinghouse ซึ่งกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาการจัดหาพลังงานทางไกลให้กับประเทศ
และด้วยความเชื่อมั่นว่าสิ่งประดิษฐ์ของ Tesla จะช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายนี้ได้ ในปี 1888 เขาจึงตัดสินใจซื้อสิทธิบัตรเป็นเงินสดและหุ้นมูลค่ากว่า 60,000 ดอลลาร์ใน Westinghouse Corporation
และเมื่อความสนใจในระบบ AC เพิ่มขึ้น Tesla และ Westinghouse ก็เริ่มทำการแข่งขันโดยตรงกับ Thomas Edison ซึ่งตั้งใจจะขายระบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ให้กับประเทศ อีกทั้งแคมเปญข่าวเชิงลบก็ถูกขับเคี่ยวโดย เอดิสัน ซึ่งพยายามที่จะบ่อนทำลายความสนใจในเรื่องของไฟฟ้ากระแสสลับ AC ไป
แต่ก็น่าเสียดาย เนื่องจากบริษัท Westinghouse Corporation ได้ถูกเลือกให้เป็นผู้จัดหาหลอดไฟ ในงานนิทรรศการ Columbian Exposition ของโลกในปี 1893 ในชิคาโก อีกทั้ง Tesla ยังได้ทำการสาธิตระบบ AC ของเขาที่นั่น จึงทำให้ ความฝันนั้นของ เอดิสัน พังทะลายไป
ในปี 1895 Tesla ได้ออกแบบสิ่งที่เป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ AC แห่งแรกในสหรัฐอเมริกา ที่น้ำตก ไนแองการ่า ขึ้นมา
และในปีต่อมา มันก็ถูกใช้ในเมือง บัฟฟาโล นิวยอร์ก ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลก และช่วยให้การไฟฟ้ากระแสสลับก้าวไปสู่การเป็นระบบไฟฟ้าของโลกมากยิ่งขึ้น
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 Tesla ได้จดสิทธิบัตรขดลวด Tesla และยังเป็นการวางรากฐานสำหรับเทคโนโลยีไร้สาย และยังคงใช้ในเทคโนโลยีวิทยุ มาจนถึงปัจจุบัน วงจรไฟฟ้าขดลวด Tesla จึงเป็นหัวใจหลักของตัวเหนี่ยวนำที่ใช้ในเสาอากาศส่งสัญญาณวิทยุในยุคแรก ๆ
โดยขดลวดจะทำงานร่วมกับตัวเก็บประจุเพื่อสะท้อนกระแส และแรงดันไฟฟ้า จากแหล่งจ่ายไฟข้ามวงจร นอกจากนี้ Tesla เองก็ใช้ขดลวดเพื่อศึกษาการเรืองแสงรังสีเอกซ์ ,วิทยุพลังงานไร้สาย และแม่เหล็กไฟฟ้าในโลกและชั้นบรรยากาศด้วยเช่นกัน
หลังจากหมกมุ่นอยู่กับการส่งผ่านพลังงานแบบไร้สายนานหลายปี
ในปี 1900 Tesla ก็ได้ตั้งเป้าที่จะทำงานในโครงการที่เสี่ยงที่สุด นั่นคือการสร้างระบบสื่อสารไร้สายระดับโลก - ที่ส่งข้อมูลต่าง ๆ ผ่านหอคอยไฟฟ้าขนาดใหญ่ เพื่อแบ่งปันข้อมูล และให้พลังงานฟรีทั่วโลกได้
ด้วยการระดมทุนจากกลุ่มนักลงทุน ที่รวม เจพี มอร์แกนยักษ์ใหญ่ด้านการเงิน จึงทำให้ในปี 1901 Tesla ก็ได้เริ่มทำงานในโครงการพลังงานฟรีนี้อย่างจริงจัง เขาออกแบบ และสร้างห้องทดลองพร้อมโรงไฟฟ้า และหอส่งสัญญาณขนาดใหญ่ขึ้นมาบนพื้นที่ใน ลองไอส์แลนด์ นิวยอร์ก ซึ่งกลายเป็นที่รู้จักในชื่อว่า Wardenclyffe
แต่อย่างไรก็ตาม ความสงสัยก็เริ่มเกิดขึ้นในหมู่นักลงทุนของเขา เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของระบบไร้สายที่ Tesla กำลังสร้าง
อีกทั้ง Guglielmo Marconi คู่แข่งของ Tesla ผู้ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินจาก Andrew Carnegie และ Thomas Edison ก็ได้สร้างความรุ่งเรืองอย่างมาก กับเทคโนโลยีวิทยุ จนทำให้ Tesla ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องล้มเลิกโครงการ เพราะนายทุนต่างหลั่งใหลไปลงทุนกับ Marconi กันหมด
เจ้าหน้าที่ของ Wardenclyffe จึงถูกปลดออกในปี 1906 และในปี 1915 ทุกสิ่งที่ Tesla สร้างมา จึงถูกริมทรัพย์ไป ด้วยเหตุนี้ สองปีต่อจากนั้น Tesla ก็ประกาศล้มละลาย และหอคอยไฟฟ้าของเขาก็ถูกรื้อถอน และขายเป็นเศษเหล็กเพื่อชำระหนี้ที่เขาได้สร้างไว้
หลังการปิดโครงการพลังงานฟรี Tesla ก็ป่วยเป็นโรคประสาท แต่ทันทีที่รักษาหาย Tesla ก็กลับมาทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาเป็นหลัก
เมื่อเวลาผ่านไปความคิดของเขาก็ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็เริ่มออกนอกลู่นอกทาง เขาใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ ในการดูแลนกป่า ที่สวนสาธารณะของเมือง นิวยอร์ก
นอกจากนั้นแล้ว Tesla ยังได้รับความสนใจจาก FBI หลังจากที่เขาออกมาพูดถึงการสร้าง "รังสีมรณะ" ที่ทรงพลังมาก จนทำให้สหภาพโซเวียตเกิดความสนใจ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ในช่วงบั้นปลาย Tesla มีชีวิตที่น่าสงสารและสันโดษ เขาเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 1943 ด้วยวัย 86 ปีใน นครนิวยอร์ก ซึ่งเขาอาศัยอยู่มาเกือบ 60 ปี อย่างไรก็ตาม มรดกงานที่ Tesla ทิ้งไว้ ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้
ด้วยเหตุนี้ในปี 1994 จึงมีการติดตั้งป้ายชื่อถนนว่า "Nikola Tesla Corner" ซึ่งเป็นถนนที่ใกล้กับที่ตั้งของห้องปฏิบัติการในเมือง นิวยอร์ก ที่เขาเคยทำงานในอดีต
ในปี 2003 กลุ่มวิศวกรรุ่นใหม่ ยังได้ก่อตั้ง Tesla Motors ซึ่งเป็น บริษัท รถยนต์ที่ได้รับการตั้งชื่อตาม Tesla และอุทิศตนเพื่อสร้างรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรก
โดยผู้ประกอบการ และวิศวกรหนุ่ม Elon Musk ที่บริจาคเงินกว่า 30 ล้านดอลลาร์ให้กับมูลนิธิ Tesla ในปี 2004 จึงได้ดำรงตำแหน่งซีอีโอ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งของบริษัทนับแต่นั้นเป็นต้นมา
*****
ดังที่ Nikola Tesla กล่าวไว้ว่า “ผมไม่ห่วงว่าใครจะขโมยไอเดียผมหรอก ผมห่วงแค่ว่า พวกเขาไม่คิดจะมีไอเดียของตัวเองบ้างเลยหรือ”
*****
แปลและเรียบเรียงโดยเรื่องเล่าจากดาวนี้
ที่มา:
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา