“TSMC คือบริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ดีที่สุดในโลก”คำกล่าวของผู้ก่อตั้ง HUAWEI
任正非 เหยินเจิ้งเฟย ให้สัมภาษณ์ เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนในงานสัมมนาของมหาวิทยาลัย 9 แห่งที่ดีทึ่สุดของจีน
พูดถึง Huawei ได้ออกแบบคิดค้นชิปในระดับ 5 นาโน คือ Kirin 9000 ซึ่งเป็นชิปรุ่นที่มีประสิทธิภาพที่สุดในปัจจุบันของ Huawei ได้ให้ TSMC : Taiwan Semiconductor Manufacturing Company Ltd. บริษัทสัญชาติไต้หวัน
เป็นผู้ผลิตให้10 ล้านชิ้นและเป็นชิ้นส่วนชิปชุดสุดท้ายของ Huawei ที่สามารถนำไปใช้ต่อได้
เพราะมีคำสั่งห้ามธุรกรรมใดๆกับ Huawei จากอเมริกา
เหยินเจิ้งเฟย กล่าวว่าการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องความสามารถทางเทคโนโลยีในการออกแบบชิปเท่านั้น
เรื่องเครื่องจักรในการผลิต,วัสดุในการผลิต,บุคลากรในการผลิตในปัจจุบัน ประเทศจีนล้วนขาดแคลนทั้งสิ้น
ถ้าแค่พูดกันง่ายๆว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีในเทียบเท่าระดับโลกจะทำได้ในเวลาอันสั้น มันเหมือนจะทำให้ทุกคนเข้าใจผิด
สุดท้ายเหยินเจิ้งเฟย แนะนำแนวทางกับนักศึกษาที่รับฟังสัมมนาว่าอย่ากังวลเรื่องปัญหาถูกแบนจากอเมริกาในปัจจุบัน
ต้องมองไปอีก 20-30 ปีข้างหน้า
ว่าประเทศจีนต้องการอุตสาหกรรมประเภทใด และประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด
คำกล่าวของเหยินเจิ้งเฟย ตอกย้ำถึงเหตุผลที่ว่าทำไมอุตสาหกรรมการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวันถึงได้เป็นผู้นำของโลก
ในเวลานี้
เพราะรัฐบาลไต้หวันได้วางแผนในการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้มาตั้งแต่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมามีการฉลองครบรอบ 40 ปี Hsinchu Science Park ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบริษัทแม่ของ TSMC : Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. Ltd และ United Microelectronics Corporation. สองบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบัน
ทั้งสองบริษัทรวมกันมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 60% ของทั้งโลกเลยทีเดียว
TSMC : Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. Ltd เป็นบริษัทในปี 2020 ที่ถูกพูดถึงมากทั้งในวงการนักลงทุนและวงการข่าวสารเทคโนโลยี
โดยเฉพาะการลงทุนของกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่หุ้น FAANG : Facebook, Amazon, Apple ,Netflix ,Google ของอเมริกา
มี 4 บริษัท ดำเนินธุรกิจในด้านบริการการใช้เทคโนโลยี และ 1 บริษัทที่มีให้บริการเทคโนโลยีและจำหน่ายอุปกรณ์เพื่อใช้ในการบริการเหล่านั้นก็คือ Apple
ซึ่งในวงการนักลงทุนจะกว้านซื้อหุ้นของบริษัท TSMC ถ้าผลประกอบการของ Apple มีแนวโน้มที่ดี
เพราะผลิตภัณฑ์ทุกอย่างในปัจจุบันของApple ทุกประเภททั้ง Iphone ,Ipad, Apple watch, Mac book ไปจนถึง Apple car ที่กำลังจะเริ่มผลิตในอนาคตก็ต้องอาศัยชิปที่ผลิตจาก TSMC ทั้งสิ้น
Apple Worldwide Developers Conference เมื่อกลางปีที่ผ่าน Tim Cook ได้เปิดตัวชิปตระกูล Apple Silicon A14 bionic ในขนาด 5 นาโน และ ชิปตระกูลนี้จะเป็นชิปที่ล้ำสมัยที่สุด
เพราะได้ผู้ผลิตอย่าง TSMC ที่ปัจจุบันเป็นผู้นำเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมนี้
และเหตุผลที่บริษัทคู่แข่งในการผลิตชิปอย่าง Samsung พยายามจะดึงลูกค้ารายใหญ่Apple กลับไปหรือขอส่วนแบ่งคำสั่งในการผลิตชิปไม่สำเร็จ
เพราะ TSMC ไม่ได้รับผลิตอย่างเดียวแต่มีส่วนร่วมในการพัฒนาชิปตระกูล Apple Silicon อีกด้วย
ซึ่งนอกจากชิป A14 bionic ที่ใช้โครงสร้างแบบ ARM (ชิปสำหรับอุปกรณ์พกพา)
ในปีนี้ TSMC ช่วยให้ AMD ในการผลิตชิปในตระกูล Ryzen ในขนาด 7 นาโน ที่เป็น CPU โครงสร้างแบบ X86 (ชิปสำหรับคอมพิวเตอร์ PC , Notebook)
แย่งส่วนแบ่งของตลาดกับ Intel แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน จนเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีข่าวว่า Intel มีแผนเตรียมยกเลิกสายการผลิตชิปเองและจะให้ TSMC ผลิตชิปแทน
การเปลี่ยนแปลงของ AMD ที่ได้ทั้งชื่อเสียงและยอดขายที่พุ่งขึ้นต้องให้เครดิตกับ CEO สาวใหญ่ชาวไต้หวัน Lisa Su ที่ตัดสินเปลี่ยนบริษัทผลิตชิปจาก GlobalFoundires ไปเป็น TSMC.
ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปยากมาก ถ้าผู้บริหารยังเป็นชาวตะวันตก
จะกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทไหนต้องการใช้ชิปที่มีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดและมีคุณภาพดีที่สุดก็ต้องใช้บริการของบริษัทแห่งนี้ จึงไม่แปลกที่ Tesla ผู้นำรถไฟฟ้าในปัจจุบัน
ยอมเปลี่ยนผู้ผลิตชิปจาก Samsung มาเป็น TSMC แม้ว่าต้องรอจนถึงปลาย 2021 ถึงเริ่มสายการผลิตได้ก็ตาม
ตอบคำถามของชาวเน็ตจีนแผ่นดินใหญ่ก่อนหน้านี้ ที่พูดถึงการสูญเสียคำสั่งซื้อจากHuawei จะมีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทว่าไม่เป็นความจริง
ในทางกลับกันการขาดคำสั่งซื้อจาก Huawei ทำให้ Apple เพิ่มคำสั่งซื้อมากขึ้นสำหรับ Iphone 12
ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ซึ่งทั้ง AMD , NVIDIA , Qualcomm , Mediatek ล้วนแต่ต้องการที่จะเพิ่มคำสั่งซื้อทั้งนั้น
และเหล่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ปี 2021 อุปกรณ์สื่อสาร 5G ทั้งมือถือและเสาส่งสัญญาณ มากกว่า 60% ต้องผลิตจาก TSMC อย่างแน่นอน
ภาพแสดงความสามารถในการผลิตชิปของแต่ละบริษัท ซึ่งTSMCนำหน้าเรื่องเทคโนโลยีและประสิทธิภาพในการผลิต
กลางปีที่ผ่าน TSMC ได้ตอบรับคำเชื้อเชิญจากรัฐบาลอเมริกาที่ต้องการให้ไปเปิดโรงงานผลิตชิปที่เมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซน่า ที่มีมูลค่ากว่า 1200 ล้านดอลลาร์
ล่าสุดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีข่าวว่านายกเทศมนตรี Kate Gallego มีคำสั่งให้ทุกหน่วยอำนวยความสะดวกให้กับ TSMC เริ่มทำการก่อสร้างโรงงานในเวลาอันรวดเร็ว ตามกำหนดการณ์โรงงานจะเริ่มการผลิตได้ในปี 2024
นักวิเคราะห์หลายท่านให้ความเห็นถึงการก่อตั้งโรงงานของ TSMC ส่วนหนึ่งเพราะต้องการตามนโยบายของประธานาธบดีทรัมป์ ที่ต้องการให้สายการผลิตสินค้าเทคโนโลยีต่างๆ เช่น มือถือ หรือ อุปกรณ์ที่ใช้ในระบบ 5G กลับมาตั้งที่อเมริกา
แต่จุดประสงค์หลักน่าจะเป็นเรื่องการทหารมากกว่า
ชิป FPGA เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญของ F-35 เครื่องบินรบที่อเมริกาภูมิใจว่ามีประสิทธิภาพและทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งชิปตัวนี้ก็ผลิตโดย TSMC.
การตั้งโรงงานของ TSMC ที่อเมริกาสอดคล้องกับแผนการอัพเกรดอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพอเมริกาให้อาวุธต่างๆมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ภาพแสดงการตั้งโรงงานของTSMCที่ไต้หวันซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่อเมริกาไม่ยอมให้จีนแผ่นดินใหญ่มีอิทธิพลบนเกาะแห่งนี้
จึงไม่น่าแปลกใจที่อเมริกาใช้เหตุผลทางการทหารแบนบริษัทผลิตชิปอันดับหนึ่งของจีนอย่าง SMIC : Semiconductor Manufacturing International Corporation.
การแบนบริษัทผลิตชิปของจีนเริ่มส่งผลแล้ว ล่าสุดต้นเดือนธันวาคม มีรายงานข่าวเกี่ยวกับโรงงานผลิตรถยนต์ของ SAIC Volkswagen 上汽大眾 ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของรัฐบาลเมืองเซี่ยงไฮ้กับ Volkswagen ต้องหยุดสายการผลิตรถยนต์
เพราะขาดแคลนชิป ESP : Electronic Stability Program ระบบควมคุบเสถียรภาพของตัวรถ และชิป ECU: Electronic Control Unit ที่ควบคุมระบบไฟทั้งหมดภายในตัวรถ
ส่งผลกระทบกับรถยนต์ในสายการผลิตกว่า 4 แสนคันที่กำลังจะออกสู่ตลาดและปัญหานี้กำลังจะลามต่อไปถึงโรงงานผลิตรถยนต์เจ้าอื่นอีกด้วย
นักวิเคราะห์ชาวจีน มองว่าปัญหาขาดแคลนชิปเป็นมาตลอดในช่วงหลายปีหลัง เนื่องจากมีความต้องการในการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นทุกวัน
แต่การขาดแคลนครั้งนี้อาจจะมีผลกระทบมากกว่าครั้งอื่นๆ
เนื่องจากการถูกแบนจากอเมริกาในการสั่งเครื่องจักรและวัสดุในการผลิตชิปของบริษัทจีนซึ่งก่อนหน้านี้ก็ประสบปัญหาเรื่องประสิทธิภาพและกำลังการผลิตอยู่แล้ว
การถูกแบนจึงทำให้ปัญหาก่อความเสียหายอย่างชัดเจนและมากขึ้น
รัฐบาลจีนก็ทราบดีถึงปัญหาของอุตสาหกรรมที่เป็นจุดด้อยนี้ จึงมีการตั้งงบสำหรับพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ไว้กว่า 14.2 ล้านล้านหยวน
แต่แผนการพัฒนาที่ไร้แบบแผนที่ชัดเจนก่อให้เกิดการนำเงินสนับสนุนไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ได้อย่างมากมาย
( บทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ https://www.blockdit.com/posts/5f8076f10b405512c1d6dfd6）
ซึ่งช่วงหลายปีมานี้ รัฐบาลจีนใช้เงินสนับสนุนในเกือบทุกอุตสาหกรรมที่ต้องการให้ตัวเลขเติบโตออกมาอย่างสวยหรู
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม มีรายงานข่าวว่า蔣尚義 เจียงซั่งอี้ อดีตผู้บริหารระดับสูงของ TSMC จะเข้ารับตำแหน่งรองประธานบริษัท SMIC : Semiconductor Manufacturing International Corporation.
ซึ่งการเข้ากลับไปทำงานที่ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ของเจียงซั่งอี้ เป็นการไปครั้งที่สอง หลังจากช่วงกลางปี มีข่าวถูกบริษัท HSMC อู่ฮั่นหงซินเซมิคอนดักเตอร์ หลอกใช้เพื่อจะฉ้อโกงเงินจากรัฐบาลท้องถิ่นและนักลงทุนหลายแสนล้านหยวน
（บทความเกี่ยวกับเรื่องนี้
ซี่งตัวเจียงซั่งอี้ เองยังเคยให้สัมภาษณ์สื่อที่เป็นกระบองเสียงให้รัฐบาลจีนอย่าง South China Morning Post พูดถึงการทำงานที่ HSMC เป็นเหมือนฝันร้ายที่ยากลืมเลือน
蔣尚義เจียงซั่งอี้ เป็นบุคคลกรคนสำคัญของ TSMC เป็นหัวหน้าทีมนักวิจัยพัฒนาคนสำคัญที่ทำให้ TSMC สามารถมีเทคโนโลยีผลิตชิปขนาด 10 นาโนได้สำเร็จ
ซึ่งเจียงซั่งอี้ ได้เกษียณจาก TSMC เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เวลานั้นก็มีข่าวว่าจะไปรับตำแหน่งที่SMIC แต่จนแล้วจนรอดปลาย ปี 2020 ก็มารับตำแหน่งรองประธานบริษัทในที่สุด
การเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้เหมือนกับรวมศิษย์อาจารย์ผู้มีความสามารถในวงการของการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของโลก
เพราะก่อนหน้านี้ 梁孟松 เหลียงหม่งซง อดีตผู้บริหารระดับสูงของ TSMC ก็มารับตำแหน่ง CEO ของ SMIC มากว่า3ปีแล้ว
ประวัติการทำงานในอุตสาหกรรมการผลิตการชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่โชกโชนของอดีตผู้บริหารคนสำคัญของTSMC ทั้งสองคน
ทำให้สถานการณ์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของจีนมีแนวโน้มไปทางที่ดี
ถึงแม้จะถูกการแบนจากอเมริกาก็ได้ อย่างไรก็ต้องตามดูต่อว่าข่าวได้บุคคลากรผู้ที่เป็นเหมือนคนปลุกปั้น TSMC ในครั้งนี้จะเป็นเหมือนครั้งก่อนที่เป็นแค่ข่าวหลอกลวงเงินทุนก้อนโตอีกหรือไม่
- 52
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
