22 ธ.ค. 2020 เวลา 02:45 • ท่องเที่ยว
เรื่องน่ารู้ เมืองทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย
สวรรค์น้อย ๆ ในยุโรปที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก!
2
เธอออ Christmas Market เมือง ทาลลินน์ (Tallinn) ประเทศ Estonia หนึ่งในตลาดคริสมาสต์ที่ดีที่สุดในยุโรป พร้อมบรรยากาศของเมืองมรดกโลกและหิมะโปรยปราย สวยงามเหมือนในเทพนิยาย 🎄❄
ถึงปีนี้จะไม่มีตลาดคริสมาสต์ แต่ปีหน้าจะมีจัดตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 2021 - 2 ม.ค.2022 น้า
1
แต่วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเมืองนี้กัน
เทศกาลคริสต์มาส น่าเที่ยวมากๆเลย
ประเทศเอสโตเนีย (Estonia) ประเทศจิ๋วแต่แจ๋ว พลังสำคัญของยุโรป เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ มากมาย นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก บรรยากาศจึงยังคงงดงาม มีความเป็นเมืองเก่าแก่และน่าท่องเที่ยวสูงมาก
1
พอบอกว่าเอสโตเนียอยู่ในยุโรป หลายคนก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาทันที ว่าประเทศแห่งนี้มีอยู่ในยุโรปด้วยหรือ เพราะไม่คุ้นชื่อเอาเสียเลย แล้วมันอยู่ส่วนไหนของยุโรปกันนะ มาค่ะ มากางแผนที่โลกดูกัน ถ้าดูจากแผนที่โดยรวมของยุโรป ให้มองไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของยุโรปเลยค่ะ ใกล้ ๆ กับทะเลบอลติก เหนือขึ้นไปจากประเทศลัตเวีย เราก็จะเจอกับประเทศเอสโตเนีย
1
เอสโตเนียได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและน่าสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยทำเลที่ตั้งนั้นคาบเกี่ยวกับประเทศมหาอำนาจทั้งสิ้น ในอดีตเอสโตเนียจึงถูกครอบครองโดยหลายกลุ่มชาติมหาอำนาจ ทั้งสหภาพโซเวียตและนาซีเยอรมนี แต่หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต เอสโตเนียก็ได้รับการเป็นประเทศเอกราช และได้เข้าร่วมกับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือและสหภาพยุโรป
1
และด้วยความที่เอสโตเนียผ่านร้อนผ่านหนาวมากับหลายชนชาติ ทำให้ประเทศแห่งนี้ถูกหล่อหลอมขึ้นจากหลาย ๆ วัฒนธรรม จนกลายเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น บ้านเมืองและผู้คนก็น่ารัก บอกได้เลยว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว
1
เอสโตเนียนิ่งเงียบ แต่ใจดี
หลายคนที่ไปเที่ยวเอสโตเนีย อาจจะสังเกตุว่า..คนเอสโตเนียไม่ค่อยยิ้มแย้ม พูดน้อย นั่นก็เป็นเพราะว่าสภาพอากาศของประเทศเอสโตเนียนั้นค่อนข้างหนาว แต่ถ้าได้ทำความรู้จักกับคนเอสโตเนียให้ลึกขึ้น ก็จะรู้ว่่าเลยว่าคนเอสโตเนี่ยมีอัธยาศัยที่ดีมาก อบอุ่น และน่ารักกับนักท่องเที่ยวเสมอ
แล้วรู้หรือไม่ พลเมืองเอสโตเนียใช้ขนส่งสาธารณะฟรี!
3
ประเทศเอสโตเนียกำลังจะเป็นประเทศแรกของโลกที่ให้ประชาชนได้ใช้บริการขนส่งสาธารณะฟรีทั่วประเทศ โดยนโยบายดังกล่าวจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 ซึ่งต่อยอดมาจากเมืองทาลลินน์ ที่ให้ประชาชนได้ใช้ขนส่งสาธารณะฟรีมาตั้งแต่ปี 2013 โดยนโยบายนี้จัดทำขึ้นก็เพื่อแก้ปัญหารถติด เป็นการลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน และเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชนด้วย งบประมาณที่สนับสนุนตรงนี้ก็มาจากภาษีประชาชนนั่นเอง คุณภาพชีวิตดีสุด ๆ ไปเลย
แม้ว่าประเทศเอสโตเนียจะเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมให้ได้เที่ยวชมครบถ้วน เมืองที่เป็นไฮไลท์และไม่ควรพลาดอย่างยิ่งก็คือ เมืองทาลลินน์ (Tallinn) เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของเมืองเก่า ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนสวยงามมากมาย ยังคงได้เห็นวัฒนธรรมพื้นเมืองดั้งเดิม มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านกาแฟเล็ก ๆ บรรยากาศเงียบสงบให้นั่งพักผ่อนมากมาย เรียกได้ว่าทาลลินน์นั้นเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปเลยก็ว่าได้
เกร็ดท่องเที่ยวของเอสโตเนีย
- เงินเอสโตเนีย จะใช้สกุลเงินยูโร โดย 1 ยูโร = 35.35 บาท บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2563) - เวลาของประเทศเอสโตเนียนั้นถ้าในช่วงฤดูร้อน เวลาจะช้ากว่ากรุงเทพฯ 4 ชั่วโมง และถ้าเป็นฤดูหนาวก็จะมีการทดเวลา เวลาก็จะช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง - ระบบไฟฟ้ามาตรฐานของประเทสเอสโตเนียจะอยู่ที่ 230 โวลต์ 50 เฮิรตซ์ ปลั๊กทั่วไปที่ใช้จะเป็นประเภท F มีลักษณะเป็นขากลม 2 ขา กับเต้าเสียบขากลม 2 รู มีคลิปกราวนด์อยู่ที่เต้าเสียบทั้งด้านบนและด้านล่าง - สภาพอากาศโดยรวมของประเทสเอสโตเนียนั้นจะเป็นแบบชายทะเล เฉอะแฉะ หน้าหนาวจะหนาวปานกลาง แต่หน้าร้อนจะเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยของทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 5 องศาเซลเซียส เดือนที่หนาวที่สุด คือ เดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ -5.7 องศาเซลเซียส เดือนที่ร้อนที่สุด คือ เดือนกรกฎาคม อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 16.4 องศาเซลเซียส ช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวเอสโตเนียก็จะอยู่ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน-สิงหาคม - นักท่องเที่ยวสามารถใช้ Wi-Fi ฟรีจากที่พัก หรือร้านกาแฟได้ แต่ถ้าอยากใช้งานอินเทอร์เน็ตตลอดการท่องเที่ยวอยู่ที่เอสโตเนีย แนะนำให้ซื้อซิมโทรศัพท์ท้องถิ่น ราคาไม่แพง
เป็นไงล้ะน่าเที่ยวไหมคะทุกค๊นนนนน 😁
หมดโควิดเมื่อไหร่ ลองหาเวลาไปเที่ยวเมืองนี้กัน
🌲🌍✈️
1
โฆษณา