TIMEOUT
Rush (2013) - คู่ปรับที่คู่ควร
โดย ธ.เจริญมิตร
*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์
โลกแห่งความเร็วสูงบนพื้นดินเห็นจะไม่มีวงการใดโดดเด่นและมูลค่าสูงไปกว่าการแข่งขันรถฟอร์มูลาวัน กลางยุค 70 สองนักขับที่เป็นคู่แข่งในสนามมาตั้งแต่แข่งฟอร์มูลาทรีครั้งเป็นดาวรุ่งด้วยกันคือ เจมส์ ฮันท์ หนุ่มอังกฤษ กับ นิกิ เลาดา หนุ่มออสเตรีย กำลังขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นบนเวทีใหญ่ที่สุด ผู้กำกับ รอน ฮาเวิร์ด ได้นำภาพบรรยากาศและสีสันของสนามแข่งยุคนั้นกลับมาสู่จอแบบประณีตสมจริง แฟนๆ รถแข่งดูแล้วคงร้องว้าว หัวใจรุ่มร้อน คึกคักขึ้นมาทันใด
เจมส์ ฮันท์ : ยิ่งท้ามฤตยูเฉียดตายมากเท่าไร คนก็ยิ่งคึกคักมากเท่านั้น
เจมส์ ฮันท์ (รับบทโดย คริส เฮมสเวิร์ท) ลูกชายโบรกเกอร์หุ้น พี่สาวเป็นนักกฎหมาย พี่ชายเป็นนักบัญชี เขาร่างสูงใหญ่ ผมบลอนด์สลวย หน้าตาหล่อเหลา คารมร้ายเหลือ เป็นแบดบอยจอมเจ้าชู้ผู้เปล่งประกายสดใส ไปไหนก็หยอดยิ้มส่งตาหวานไปทั่ว แถมร่ำลือในวงการด้วยว่าพลังเซ็กซ์เหลือล้น จนท้าทายให้สาวๆ น้อยใหญ่มารุมล้อมหัวบันไดไม่แห้ง ส่วนฝีมือขับรถก็ไม่เบา ขยันฝึกซ้อม กล้าได้กล้าเสีย เร่งความเร็วทะยานไปได้ไม่เป็นรองใคร
นิกิ เลาดา : เมื่อขึ้นรถแข่ง ผมมีโอกาสตาย 20% นั่นผมยอมรับได้ แต่ถ้าเกินกว่านั้นแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียวก็ไม่เอาด้วยแล้ว
นิกิ เลาดา (รับบทโดย ดาเนียล บรูห์ล) ทายาทตระกูลนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ ปู่เป็นนักธุรกิจ พ่อเป็นนายแบงก์ เขาหันมาเอาดีทางความเร็วเพราะรู้ตัวว่ามีพรสวรรค์ เข้าใจเรื่องเครื่องยนต์กลไกระดับวิศวกร บวกจินตนาการแบบนักประดิษฐ์ นิกิเป็นคนวินัยสูง พูดจาตรงไปตรงมา จึงบกพร่องเรื่องการเข้าสังคมอยู่บ้าง ในฐานะนักขับ เขาดูแลสุขภาพดี วางแผนรัดกุม และมั่นใจในตัวเองสูงทีเดียว ฝีมือฉกาจนี้ทำให้เพื่อนร่วมงานนับถือกันทั่ว
นักขับรถแข่งทั้งหลายต้องผ่านขั้นตอนและด่านทดสอบมากมาย ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ จากฟอร์มูลาทรี จนกว่าจะได้ใบอนุญาตขับขี่สูงสุดจากสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA: Fédération Internationale de l'Automobile) ถึงจะสามารถลงแข่งระดับฟอร์มูลาวันได้ พอได้ทีมสังกัดเรียบร้อยก็ทยอยสะสมคะแนนจากสนามกรังด์ปรีซ์สำคัญอย่างต่อเนื่อง เมื่อครบรอบปีใครได้คะแนนสูงสุดจะได้ตำแหน่งแชมป์โลกไปครอง
นิกิขอกู้เงินธนาคารมาสนุกกับการแข่งรถฟอร์มูลาวันเพราะทางบ้านไม่สนับสนุน เขาขอปรับแต่งเครื่องยนต์ ออกแบบรถ และขับแข่งด้วยตัวเอง ขณะที่เจมส์ที่ต่อสู้มาด้วยตัวคนเดียวโดยเน้นฝีมือขับในสนามล้วนๆ ส่วนนอกสนามก็ดี๊ด๊าตามนิสัย เขาเริ่มลงสนามฟอร์มูลาวันหลังนิกิ 1 ปี ไม่นานนักเจมส์ก็พบรักเข้าเต็มเปา เขาตัดสินใจแต่งงานกับนางแบบสาวสวยนาม ซูซี มิลเลอร์ ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังเจอเธอ ฝั่งนิกิสมหวังได้ครองรักกับ มาร์ลีน คเนาส์ ต่อมานิกิได้เข้าสู่สังกัดใหญ่อย่างทีมเฟอร์รารี ส่วนเจมส์ก็ไม่น้อยหน้า ปีถัดมาได้เข้าทีมแม็กลาเรน ซึ่งทั้งสองทีมนี้ก็เป็นคู่ชิงชัยกันโดยตรง
ปี 1975 นิกิ เลาดา คว้าแชมป์โลกไปครองเป็นครั้งแรก ในปีถัดมานิกิเพิ่งชนะทั้งที่บราซิลและแอฟริกาใต้ โดยที่เจมส์เข้าที่ 2 ส่วนที่สเปน เจมส์เข้าที่ 1 แต่ถูกประท้วงว่าขนาดรถผิดกฎ ซึ่งต่อมาคณะกรรมการเปลี่ยนคำตัดสิน เจมส์จึงคว้าชัยนี้ไป นิกิกลับมาชนะอีกที่โมนาโกและเบลเยียม ที่นั่นเจมส์เพิ่งได้ข่าว ซูซี มิลเลอร์ ภรรยาเขากำลังจะแต่งงานใหม่กับ ริชาร์ด เบอร์ตัน นักแสดงคนดังของฮอลลีวูด ผลงานจึงไม่ค่อยดีนัก หลังตัดใจจากซูซีได้ เจมส์กลับไปฟู่ฟ่ามีหญิงสาวรายล้อมดังเดิม ผลงานในสนามก็ขยับดีขึ้นอีกครั้ง
ตอนนี้คะแนนสะสมของ นิกิ เลาดา อยู่อันดับ 1 ผู้ท้าชิงที่คะแนนตามจ่ออยู่คือ เจมส์ ฮันท์ คู่รักคู่แค้นคนเดิมนั่นเอง
ณ สนามนูร์เบิร์กริง รายการเยอรมันกรังด์ปรีซ์ ฝนยังคงตกลงมาต่อเนื่อง นิกิประเมินว่าสภาพสนามอันตรายเกินไป ขอให้ยกเลิกการแข่งไปก่อน เจมส์เอ่ยปากแซวนิกิว่าขี้กลัว นิกิยอมรับว่ากลัวตาย เขายอมเสียแต้มดีกว่าเสียชีวิต คณะกรรมการขอให้นักแข่งทุกคนร่วมโหวต และได้ข้อสรุปว่าจะแข่งต่อไป ฝนหยุดโปรยปรายชั่วคราว หลังเปลี่ยนจากยางดอกเป็นยางเรียบในรอบที่ 3 เบรกรถนิกิชักจะรวน รถเขาเสียหลักหมุนกระแทกราวกั้น จนเกิดไฟลุกไหม้ ทั้งยังมีรถอีกสองคันมาชนซ้ำ นิกิถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลด่วน อาการหนักหนาเกินกว่าที่คาดคิดไว้
ใบหน้าส่วนบนและด้านขวาของนิกิถูกเผา และปอดรับควันพิษเยอะเกิน ต้องใช้ท่อโลหะสอดทางปากลงไปดูดเขม่าออกหลายรอบ ระหว่างนั้นเจมส์ทำคะแนนตามมาอยู่ระยะประชิด 6 สัปดาห์ผ่านไปอาการเขาดีขึ้นตามลำดับ นิกิพยายามสวมหมวกกันน็อกอีกครั้งทั้งๆ ที่แผลไฟไหม้ยังไม่หายดี เขาบอกภรรยาว่าหากรักเขาจริง จงอย่าห้ามเขาลงแข่งเลย ...ที่สนามแข่ง เจมส์เข้ามากล่าวขอโทษนิกิ เขารู้สึกผิดที่ไม่เชื่อและโหวตให้แข่งต่อ นิกิกลับบอกเจมส์ว่า ขณะที่เขาต่อสู้ยื้อชีวิตในโรงพยาบาลอยู่ก็ต้องทนดูภาพเจมส์พิชิตชัยไปด้วย แน่นอนว่าเจมส์เป็นส่วนหนึ่งที่พาเขากลับมาแข่งต่อได้ เจมส์น้อมรับข้อความนี้ด้วยอาการตะลึงงัน
ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย คนหนึ่งคือแชมป์โลกคนล่าสุด เพิ่งรอดตายมาหวุดหวิด อีกคนคือผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งที่รู้สึกเสียใจกับอุบัติเหตุนั้น คะแนนของ นิกิ เลาดา นำ เจมส์ ฮันท์ อยู่เพียง 3 แต้มเท่านั้น สายตาของสองนักขับที่จ้องมองกันเขม็ง บ่งบอกความมั่นใจในตัวเอง แต่ก็แฝงไปด้วยมิตรภาพ แอบอวยพรขอให้เพื่อนโชคดีอยู่ในที เม็ดฝนพรำระหว่างทั้งคู่กีดกันข้อความในแววตาไม่ได้สักนิดเดียว ทั้งคู่โบกมือให้กัน ปิดชีลด์เรียบร้อย เจแปนีสกรังด์ปรีซ์การแข่งขันสุดท้ายของปีนี้ก็เริ่มขึ้น
ขณะแข่งฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ นิกิประเมินว่ามีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเกินจะรับไหว และใบหน้าของมาร์ลีนลอยขึ้นมาในความคิด จึงตัดสินใจถอนตัวกลางคัน ทั้งๆ ที่เขายังนำเจมส์อยู่ หากเป็นเช่นนี้เจมส์ขอแค่เข้าที่ 3 ก็จะเป็นแชมป์โลกคนใหม่ทันที แต่เขาดันเข้าเป็นที่ 5 ทว่าหลังตรวจสอบเรียบร้อยแล้วคณะกรรมการเปลี่ยนคำตัดสิน ยืนยันว่าเจมส์เข้าเส้นชัยเป็นที่ 3 จึงได้แชมป์ปี 1976 ไปครอง ส่วนนิกิบอกกับมาร์ลีนว่าเขาไม่เสียใจเลยที่สละแชมป์ไป
เจมส์ ฮันท์ ยกย่องนิกิในความสามารถวินิจฉัยที่แม่นยำและเคร่งครัดวินัย ส่วน นิกิ เลาดา ชื่นชมเจมส์เรื่องความกล้าบ้าบิ่นทำความเร็ว นิกิยังสารภาพด้วยว่าเจมส์เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เขาถูกคอ เป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อยมากที่เขาเคารพ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นคนเพียงหนึ่งเดียวที่เขารู้สึกอิจฉา
เส้นทางสู่แชมป์ได้ไม่ได้มีแค่เส้นทางเดียว คู่ปรับที่ชิงชัยทั้งสองช่างแตกต่างกัน ทั้งวิธีขับแข่งในสนามและวิถีชีวิตนอกสนาม คนหนึ่งเข้มงวดกับตัวเอง อีกคนปล่อยไหลตามใจอยาก ซึ่งทั้งคู่ก็รู้จักตัวเองดีว่าด้อยอย่างไรในงานที่ทำ จึงใช้แต่ข้อเด่นนำพาไปให้ถูกทาง ใครอยากจะมีความสุขอย่างไรกับชีวิตก็ทำไปเถิด
แม้จะถือไม้บรรทัดคนละอัน ปรัชญาชีวิตคนละเล่ม แต่ก็ยังเคารพและให้เกียรติกัน ไม่มีตุกติกในสนามแข่งขัน ยังคงแสดงน้ำใจนักกีฬาชั้นเลิศต่อกันเสมอมา ก่อเกิดเป็นแรงผลักดันสู่กันและกัน ทั้งนี้พวกเขาเป็นมืออาชีพพอที่จะแยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวได้เด็ดขาด มิตรภาพระหว่างกันนี้จึงเกิดขึ้นจากฝีมือแข่งขันล้วนๆ เสมือนเป็นเพื่อนคู่คิดคอยลับคมปัญญา แม้จะพูดจาข่มขวัญ ถากถางกันบ้าง ก็เพื่อเตือนสติให้อีกฝ่ายได้ทบทวน ได้ขัดเกลาความคิดซ้ำอีกรอบ และพัฒนาตนเองไปพร้อมๆ กัน
นิกิ เลาดา : คนฉลาดมักได้ประโยชน์จากศัตรู มากกว่าที่คนโง่ได้จากมิตรสหายเสียอีก
คงไม่ต่างอะไรกับโรนัลโด-ลิโอเนล เมสซี สองนักฟุตบอลตัวท็อป โรเจอร์ เฟดเดอเรอ-ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสระดับแชมป์แกรนด์สแลม หรือ เปป กวาร์ดิโอลา-เจอร์เกน คล็อปป์ โค้ชลูกหนังชั้นยอด ที่ต่างทำงานอย่างมืออาชีพ ลงแข่งขันอย่างไม่มีออมมือ เป็นแรงผลักดันให้อีกฝ่ายพยายามสร้างผลงานที่เหนือกว่า ดีกว่า จนทะลุกรอบจำกัดเดิมของวงการไปสู่ดินแดนใหม่ หากไม่มีคู่ปรับที่คู่ควร ที่ทัดเทียมกัน พวกเขาอาจมาไม่ได้ไกลขนาดนี้ด้วยซ้ำ ซึ่งผลทางอ้อมของคู่แข่งชั้นครูเหล่านี้ช่วยพัฒนาวงการกีฬา ทั้งสร้างความบันเทิงและแรงบันดาลใจล้นหลามแก่ผู้ชมกีฬาทุกเพศทุกวัย
หมายเหตุ - เจมส์ย้ายไปสังกัดทีมวูล์ฟก่อนวางมือในปี 1979 เขาผันตัวไปเป็นผู้ดำเนินรายการแข่งรถทางโทรทัศน์ และ 2 ปีต่อมาก็เสียชีวิตด้วยหัวใจล้มเหลวขณะอายุเพียง 45 ปีเท่านั้น ส่วนนิกิได้แชมป์ครั้งที่ 2 ในปี 1977 และขอหยุดแข่งไป เขากลับมาแข่งอีกในสังกัดทีมบราแบม ปี 1978 และวางมืออีกรอบ ต่อมาเข้าร่วมทีมแม็กลาเรน ปี 1982 และได้แชมป์โลกครั้งที่ 3 เมื่อปี 1984 หลังจากนั้นไปทำธุรกิจสายการบินเลาดาแอร์ นิกิเสียชีวิตอย่างสงบด้วยวัย 69 ปีเมื่อปีกลาย
#TIMEOUT #Rush #เจมส์ฮันท์ #นิกิเลาดา #ภาพยนตร์ #เล่นเป็นเรื่อง #PlayNowThailand
อัพเดตข่าวสารกีฬาก่อนใคร
พร้อมมีของรางวัลพิเศษให้ร่วมสนุกกันเป็นประจำ
ร่วมไลค์ ร่วมแชร์ Play Now Thailand 🇹🇭
- 14
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
