24 ธ.ค. 2020 เวลา 03:45 • นิยาย เรื่องสั้น
“ทุนนิยม”
เอกสารประกอบคำขอสินเชื่อของนางบางกระจ้อย ผมพลิกดูก็พบเพียงบัญชีรับจ่ายประจำวัน รายได้จากการขายของชำถูกเขียนด้วยลายมืออันบรรจงของนางเอง บางวันมันน้อยจนน่าใจหาย แต่รายการที่ยังคงอยู่ประจำในแต่ละวันคือค่าเช่าตึก และค่าใช้จ่ายภายในบ้านจิปาถะ
"คุณคะ คุณ พอจะได้ตามที่ขอไหมคะ" นางเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าผมนิ่งเงียบไปนาน
ผมเงยหน้าขึ้นมองนางอีกครั้ง และลอบพิจารณานางตามสัญชาตญาณลูกจ้างผู้ซื่อสัตย์ของระบบทุน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยริ้วรอย ร่องบนหน้าผากค่อนข้างลึก คิ้วที่ขมวดอยู่ตลอดเวลา ทำให้นางดูแก่กว่าอายุที่ระบุในเอกสาร ผิวพรรณของนางค่อนไปทางคล้ำตามแบบฉบับของลูกประมง ดวงตาเศร้าสร้อยทว่ามีแววของความเข้มแข็งเจือปนอยู่เบาบาง เสื้อที่นางสวมใส่เป็นเสื้อยืดสีเทาเนื้อหยาบ สกรีนตราสินค้าประเภทเครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อหนึ่งบนหน้าอกด้านขวา ใต้ตราสินค้าลงมามีข้อความสีน้ำเงินว่า "คนสู้ชีวิต" ผมไม่แน่ใจว่านางจงใจใส่เสื้อตัวนี้มาให้ผมเห็นเพื่อหวังให้คำขอผ่านการอนุมัติง่ายขึ้นหรือไม่ ถ้าใช่ผมอยากจะบอกกับนางว่า เดี๋ยวนี้มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ นักหรอก ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ต้องทนนั่งอยู่ตรงนี้
"ว่าไงคะคุณ ตอนนี้อิฉันเดือดร้อนจริงๆ ของในร้านขายไม่ค่อยได้ เซเว่นมันเอาไปกินหมด นี่ก็จะครบกำหนดจ่ายค่าเช่าร้านอีกแล้ว" นางพยายามบอกเหตุผลความจำเป็นที่ต้องมาหาผม
แผ่นป้ายโฆษณาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อผู้ประกอบการขนาดย่อมของรัฐบาลในกรอบพลาสติกใสแขวนอยู่บนผนัง ในโฆษณานั้นชวนเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ขาดสภาพคล่องให้ลืมตาอ้าปากได้
"รายได้คงเหลือหลังหักค่าใช้จ่ายไม่พอชำระหนี้ครับ ผมคงต้องแจ้งให้ทราบว่า คำขอของคุณมีความเป็นไปได้ยาก หลักประกันที่เสนอมาก็มีราคาประเมินไม่ครอบคลุมวงเงินที่ขอ ผมคงเสนอให้ไม่ได้ ลองไปยื่นที่อื่นดูนะครับ" หลังจากเอ่ยกับนางไปแล้ว แทนที่จะโล่งใจ ผมกลับรู้สึกหดหู่
นางกลับไปแล้ว ไปพร้อมเอกสารบางกระจ้อยของนางที่ผมคืนให้ มันไม่มีประโยชน์อะไรกับที่นี่หรือที่ไหนในประเทศนี้ เพราะตัวเลขในนั้นมันแสดงว่าธุรกิจของนางขาดสภาพคล่องและไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ตามที่ขอได้
ผมหดหู่ได้ไม่นาน ก็หันหน้าเข้าหาคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ และลงมือเขียนคำขอวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่แห่งหนึ่ง ผมเลื่อนเมาส์ไปยังส่วนของการพิจารณาความเหมาะสมของวงเงิน อ่านทบทวนที่เขียนค้างไว้อีกครั้ง
"วงเงินที่ขอครั้งนี้เกินความจำเป็น แต่อย่างไรก็ตาม..............................................................
.........." และผมไม่ลืมลงท้ายว่า
"เห็นควรอนุมัติตามที่ขอ"
แผ่นป้ายโฆษณาในกรอบพลาสติกบนผนัง ยังคงชวนเชื่อว่า โครงการนี้จะช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ขาดสภาพคล่องให้ลืมตาอ้าปากได้จริงๆ
โฆษณา