27 ธ.ค. 2020 เวลา 23:47 • ธุรกิจ
ควบรวมกิจการ CP-Tesco
คำวินิจฉัยฉบับเต็มที่ กขค.ไม่เปิดเผย
2
คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัยคำสั่งอนุญาตให้บริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ธุรกิจของเครืองเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้ซื้อหุ้นบริษัทเทสโก้ สโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉบับย่อ 25 หน้า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2563
1
ที่ผ่านมามีการถกเถียกในที่ประชุม กขค.ถึงการเผยแพร่คำวินิจฉัยที่ควรเป็นฉบับเต็มหรือฉบับย่อ ก่อนที่เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าควรเผยแพร่ฉบับย่อ จึงต้องเสียเวลาทำฉบับย่อ และทำให้การเผยแพร่คำวินิจฉัยล่าช้ามากกว่า 1 เดือน หลังจากมีมติอนุญาตเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2563
1
คำวินิจฉัยฉบับเต็มมีความยาวประมาณ 70 หน้า จะไม่มีการเปิดเผยเป็นการทั่วไป ผู้ที่ต้องการอ่านจะต้องเข้าสู่เงื่อนไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ ซึ่งยื่นเรื่องเพื่อขอให้สำนักงาน กขค.ให้คำวินิจฉัยฉบับเต็ม ที่นะบุรายละเอียดการพิจารณาทั้งหมด
2
ในฉบับเต็มจะมีบางข้อมูลที่เป็นข้อมูลทางธุรกิจของกลุ่มซีพี จึงทำให้กรรมการบางคนเห็นว่าไม่ควรเปิดเผย ในขณะที่กรรมการบางคนเห็นว่าควรเปิดเผยทั้งหมด และให้เซ็นเซอร์บางข้อความที่เป็นความลับทางธุรกิจของกลุ่มซีพี
1
รายละเอียดในคำวินิจฉัยฉบับย่อ 25 หน้า ของ กขค. (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 28 ธ.ค.2563)
สำหรับฉบับย่อ 25 หน้า มีใจความสรุปถึงการที่บริษัทในกลุ่มซีพีเข้าซื้อหุ้นบริษัทเทสโก้ สโตร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จํากัด ผู้บริหารธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครื่องหมายการค้า Tesco Lotus ในไทย
การเข้าซื้อหุ้นเพื่อควบรวมกิจการเกิดขึ้นหลังจากซีพีชนะการประมูลซื้อกิจการเทสโก้ในไทยและมาเลเซียมูลค่า 338,445 ล้านบาท เป็นการชนะผู้ประกอบการรายใหญ่ 2 กลุ่ม ที่ร่วมประมูล คือ กลุ่มเซ็นทรัล และกลุ่มบีเจซีของ เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี
1
กลุ่มซีพีได้ยื่นคำขอความรวมกิจการต่อคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เพื่อพิจารณาอนุญาตควบรวมกิจการตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2563 และมีมติอนุญาตให้ควบรวมกิจการเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2563 ด้วยคะแนน 4 : 3 เสียง
กรรมการเสียงข้างมาก 4 คน ประกอบด้วย นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ ,นายสมชาติ สร้อยทอง ,นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล และนายสมเกียรติ ตันกิตติวัฒน์
กรรมการเสียงข้างน้อย 3 คน ประกอบด้วย นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ​ประธานกรรมการฯ ,นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์​ และนางอร่ามศรี รุพันธ์
ขณะนี้สำนักงาน กขค.รอกลุ่มซีพีส่งหนังสือยอมรับคำสั่ง กขค.ที่อนุญาตให้ควบรวมกิจการแบบมีเงื่อนไขที่จะครบกำหนด 60 วัน ในต้นเดือน ม.ค.2564
1
สำหรับการพิจารณาคำขออนุญาตควบรวมกิจการครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาความสัมพันธ์ของบริษัทในกลุ่มซีพี ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางนโยบายหรืออำนาจสั่งการที่มีสถานะเหมือนเป็นหน่วยธุรกิจเดียวกันกับผู้ขออนุญาต 7 บริษัท คือ
1
บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด , บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด ,บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ,บริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด ,บริษัท ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง จำกัด ,บริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทสยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน)
1
กขค.ได้พิจารณาธุรกิจค้าปลีกแยกเป็น 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต แบ่งเป็นเทสโก้ โลตัส เอกซ์ตร้า มีส่วนแบ่งการตลาด 46.79% และเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด ,บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์และเอ็กซ์ตร้า 38.56% มีอำนาจเหนือตลาด , ท็อป ซูเปอร์สโตร์ 1.89% และอื่นๆ 12.76%
2.กลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต แบ่งเป็นท็อปส์ มาร์เก็ต มีส่วนแบ่งการตลาด 26.21% ,ตลาดโลตัส 15.79% ,วิลล่า มาร์เก็ต 4.88% และอื่นๆ 53.12% ในกลุ่มนี้ไม่มีผู้มีอำนาจเหนือตลาด
1
3.ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก แบ่งเป็นร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ส่วนแบ่งการตลาด 73.60% มีอำนาจเหนือตลาด ,ร้านเทสโก้ โลตัส เอ็กเพรส 9.45% มีอำนาจเหนือตลาดหลังควบรวมกิจการกับ กลุ่มซีพี ,กลุ่มเซ็นทรัล (แฟมิลีมาร์ทและท็อปส์ เดลี่) 4.79% และอื่นๆ 12.16%
การพิจารณาครั้งนี้ กรรมการเสียงข้างน้อยได้ยกประเด็นการรวมธุรกิจส่งผลต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง โดยมีโอกาสผูกขาดหรือครอบงำกิจการและกลุ่มซีพีมีอำนาจทางเศรษฐกิจสูงมาก รวมทั้งยกประเด็นผลกระทบต่อคู่แข่งขัน ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบรายใหม่เข้าสู่ตลาดยากขึ้น และผู้ประกอบการรายกลางและเล็กอาจต้องออกจากตลาด
1
ทั้งนี้ การควบรวมกิจการจะทำให้กลุ่มซีพีจะได้กิจการค้าปลีกเพิ่มทั้ง 3 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต ได้เทสโก้ โลตัส เอกซ์ตร้า 215 สาขา ที่ปัจจุบันมีส่งแบ่งตลาดมากที่สุด
1
2.กลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต ได้ตลาดโลตัส 178 สาขา
3.กลุ่มร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ได้เทสโก้ โลตัส เอ็กเพรส 1,595 สาขา
รวมทั้งยกประเด็นผลกระทบต่อซัพพลายเออร์เพราะการควบรวมทำให้กลุ่มซีพีมีธุรกิจครบทุกรูปแบบ ซึ่งจะทำให้มีอำนาจเหนือตลาดสูงขึ้นและมีอำนาจต่อรองซัพพลายเออร์มากขึ้น
ส่วนกรรมการเสียงข้างมาก ได้ยกประเด็นการไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง โดยเห็นว่าไม่เข้าข่ายการผูกขาดเพราะการผูกขาดต้องมีผู้ประกอบการรายเดียว รวมทั้งการควบรวมทำให้ภาคการผลิตและธุรกิจค้าปลีกขยายตัวขึ้น และรักษาซัพพลายเชนของเทสโก้ โลตัสไว้ได้
ในขณะที่ประเด็นไม่กระทบต่อประโยชน์สำคัญของผู้บริโภคส่วนรวม เห็นว่าร้านค้าปลีกสมัยใหม่ของไทยรองรับประชากรต่อสาขามากกว่าญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ถึง 4 เท่า จึงมีโอกาสขยายตัวได้มาก และการรวมกิจการกระทบประโยชน์สำคัญอันควรมีควรได้ของผู้บริโภคส่วนรวมเล็กน้อย
โฆษณา