28 ธ.ค. 2020 เวลา 01:46 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เทรนด์โลก 2021
ไฟล์เสียง https://youtu.be/mwp964T9K9k
ทุกปี ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (Thailand Creative & Design Center : TCDC) จะศึกษา และสรุปเทรนด์โลกที่คนไทยควรรู้ออกมา
สรุปสั้นๆ ว่า เมื่อทุกอย่างถูกจำกัด ดังนั้นมนุษย์จึงต้องยืดหยุดกับสิ่งที่มีอยู่
“จึงเป็นปีของการอยู่กับปัจจุบัน เท่าทันสิ่งที่มี มองออกไปเท่าที่ระยะสายตาจะเห็น  และลงมือเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาที่มีค่าในมือให้เป็นต้นทุนชีวิตที่เกิดผลประโยชน์สูงสุด”
คนหันมาใช้เทคโนโลยีในชีวิตมากขึ้น
🎯Generation Focus🎯
🧓🏻👵🏻เบบี้บูม 1946-1964
👉🏻บูมเมอร์ได้กลายเป็น ฐานลูกค้าหลักสำหรับสินค้าสมาร์ตโฟนและ ไอแพด และเป็นผู้บริโภคที่มียอดดาวน์โหลด แอพพลเคชั่นต่อเดือนมากที่สุด
👉🏻เฟคบุ๊คคือศูนย์รวมเครือข่ายโซเชี่ยวแหล่งใหญ่
👉🏻การให้สินค้าทดลองใช้ และ การโฆษณาบนเฟคบุ๊ค กลุ่มนี้เชื่อมากกว่ากลุ่มอื่น 19%
👉🏻ด้านบันเทิง ภาพยนตร์ Netflix เป็นที่ชื่นชอบ
👉🏻อุปกรณ์ด้านสุขภาพ เช่นนาฬิกาออกกำลังกายเติบโต
👉🏻มากกว่า 50% ยังไม่ต้องการเกษียณ ยินดีหางานใหม่ในสาขาเดิม และ 20%ของบริษัท ไว้วางใจในพนักงานกลุ่มนี้
เมื่อก่อนดูของOfflineคลิ๊กซื้อOnline ปัจจุบันกลับกัน
👨🏻‍🦰🧑🏻‍🦳GenX 1965-1980
👉🏻มองหางานอดิเรกถือว่าเป็นการให้เวลากับตัวเอง
👉🏻ให้ความสำคัญด้านสุขภาพ โภชนาการ และการออกกำลังกาย เชื่อเรื่องโภชนาการทำให้ดูดี หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์สูงหันมาดื่มไวน์แทน
👉🏻มีภาวะ Digital burnout หลีกห่างsocial หันมาฟังข่าวจาก podcast แทน facebook
👉🏻30% หันมาทำอาหารเอง และให้ความสำคัญกับเครื่องครัว
👉🏻เป้าหมายคงความงามให้อ่อนเยาว์
ให้ความสำคัญกับ skincare โปรตีนเชค โดยเฉพาะช่องทางทาง IGTV เพราะรู้สึกว่าถูกใช้จริง
👉🏻นิยมซื้อของทางออนไลน์ เนื่องจากเป็นผู้ที่ต้องดูแลเด็กและผู้สูงอายุ นิยมซื้อของใช้ และ เครื่องครัว ที่เห็นว่าคุ้มค่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
👉🏻อัตราการโสดเพิ่มขึ้น
เป็นที่shoppingทาง online อย่างเดียว ซื้อแล้วส่งบ้าน
👱🏻‍♂️👱🏻‍♀️Millennial 1981-1996
👉🏻เปิดรับการขายแบบเดลิเวอรี่
👉🏻73%เซพติดsocial ทุกสัปดาห์ต้องเข้าร้านกาแฟเพื่อโพสรูป
👉🏻บ้านคอนโดเป็นสิ่งที่เลือกลงทุนอันดับแรก ลงทุนของแต่งบ้านแนว slow-life ต้นไม้ เทียนหอม ตกแต่งแนวเรียบมากกว่าหรูหรา
👉🏻เน้นwellness มากสุด หากิจกรรมที่สมดุลชีวิตกับทำงาน เน้นเที่ยวแบบ slow travel ไม่พึ่งไกด์
👉🏻ตลาดสัตว์เลี้ยงเติบโต
👉🏻พ่อแม่ชาวมิลเลเนี่ยมเลี้ยงลูกแบบยืดหยุ่นและไม่เข้มงวด และ มองหาศุนย์เลี้ยงเด็กที่ออกแบบโปรแกรมการสอนแบบมืออาชีพเฉพาะด้าน
👉🏻แม่ชาวมิลเลเนี่ยมมักเลือกทำงานแบบฟรีแลนซ์ ยึดเรื่องความเท่าเทียมพ่อแม่ช่วยกันเลี้ยงลูก ภาพลักษณ์แม่ดูแข็งแกร่ง แฟชั่นเสื้อผ้าแม็กซ์กัน
Visual online เติบโต 30% ใช้ภาพเสริ์จหามากขึ้น: เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ เทคโนโลยี
👦🏻👧🏻GenZ 1997-2012
👉🏻กังวลใจกับการถูกจำกัดอยู่บ้านช่วงโควิท เป็นกลุ่มต้องเผชิญกับปัญหาการเข้าสู่ตลาดงาน
👉🏻มองหาพื้นที่ปลอดภัยบนโลกออนไลน์ เกิดเทรนด์ แคมป์ไฟ ผ่านความรู้สึกที่มีร่วมกัน
👉🏻นิยมธีมเดี่ยวกับย้อนอดีต เช้น เทป กล้องฟิลม์
👉🏻ส่งเสริมเรื่องสิ่งแวดล้อม ต้องมีหลักฐานที่ให้คำมั่นสัญญาด้วย
ปุ่ม shopping ใน IG
👶🏼Alpha 2010-ปัจจุบัน
👉🏻เน้นเรื่องการเรียนรู้ ออกแบบ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ พร้อมวางกรอบคุณค่าและรสนิยมของตัวเอง
👉🏻เรียนรู้การจัดการอารมณ์ ลดความเครียดได้ดี
Brand track influencer ที่ตรงตามต้องการได้เลย
เทรนด์สีปี ค.ศ.2021
สีได้กลายเป็นเครื่องมือปลอบประโลมใจ สะท้อนการค้นหาความเป็นอยู่ที่ดี การใช้ประโยชน์จากการออกแบบ ให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อม เพื่อชะลอจังหวะของชีวิต เรียบง่าน และ ละเอียดลออ
* สีส้มอมชมพู Desert Flowe
ถ่ายทอดความรู้อย่างเปิดเผย เป็นสีแห่งการปรับความคิดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น คล้ายยุคฮิปปี้ที่ปรับตัวหลังสงครามโลก เป็นสีที่ทำให้บรรยากาศดูเป็นมิตร ทุกสิ่งมีชีวิตชีวา
* สีขาว Egret
หมายถึง ความเคารพ การเกิดใหม่ แสงสว่าง พื้นที่ว่างของการพักเพื่อคิดทบทวน และ ความห่วงใยต่อผู้อื่น สะท้อนความไม่ยอมแพ้ รอเติมความหวัง
* สีม่วง Petunia
รู้สึกดูล้ำหน้า เป็นตัวแทนโลกดิจิตัล เป็นตัวแทนความแข็งแกร่ง เท่าเทียม
* สีเขียว Canton
เน้น ความรู้สึกสงบ สุขภาพ การปรนนิบัติรักษา การสร้างความผ่อนคลาย เป็นสีเขียวแห่งชีวิต ถอนพิษจากวิกฤตรอบตัว เผยให้เห็นความต้องการที่แท้จริง เชื่อมต่อกับะรรมชาติ สร้างความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น ยังหมายถึง สีของ วีแกนด้วย
* สีฟ้า Cyan Blue
เป็นสีแห่งการรีไซเคิล จุดเริ่มต้นค่านิยมใหม่ด้านเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม สีที่ดึงมากจากคลื่นทะเล เป็นสัญลักษณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่ เป็นสีที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตัล ตัวแทนการมาถึงของ5G
1
* สีเทา Blue Fog
ช่วยให้รู้สึกสงบ ปลดเปลี้ยง Minimal เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีและพื้นที่สง่างาม การตกแต่งที่ต้องการความผ่อนคลาย ได้พักสายตา สีที่อบอุ่นแห่งอนาคต
* สีส้มแสด Fiesta
ตัวแทนแห่งพลังใจ เป็นสีมงคล ใช้อวยพร ปลดล็อคความวิตกกังวล เป็นสีแห่งโชคลาภ ช่วยการะตุ้นต่อมรับรู้รส เป็นสีหลักที่มาจับคู่กับสีอื่นได้ง่าย สีที่ถ่ายทอดความสุขสนุกสนาน ให้พลังสำหรับธุรกิจออนไลน์
 
เจาะเทรนด์ผู้บริโภค
ผู้บริโภคปีนี้ ให้ความสำคัญกับคุณค่า เหนือ มูลค่า ทัศนคติที่เปลี่ยนจาก ความต้องการที่มากกว่า มาสู่ความต้องการที่ดีกว่า เลือกสิ่งที่ให้ความรู้สึกคุ้มต่อราคา และความยั่งยืน
ลักษณะกลุ่มผู้บริโภค 4แบบ
 
* The Compresstionalist หมดไฟแต่จะชุบใจด้วยสิ่งที่ดีที่สุด
กลุ่มที่รู้สึกเหนื่อยกายใจ ไม่มีเวลา เร่งรีบ กดดัน หมดไฟburnout (Superhuman Syndrome) ต้องการจัดสมดุลให้ชีวิต ต้องการอะไรก็ได้ ขอให้ชีวิตง่ายขึ้น
....การตลาดจึงต้องเน้นไปที่ Less is more , Make it easy. ไม่ได้ใส่ใจเรื่องสินค้าราคาถูก แต่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่เรียบง่าย ตรงจุด เลือกง่าย สะดวกสบาย รวดเร็ว เน้นที่ใช้งานข้อมูลเพื่อคาดการณ์พฤติกรรมและตอบสนองกับผู้บริโภคกลุ่มนี้
....คนใช้เงินสดน้อยลง หันมาใช้ wallet มากขึ้น
1
* The Market Maker ไม่รอตลาดตอบโจทย์ ลงมือสร้างความต้องการขึ้นเอง
เช่น กลุ่มที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ความต้องการดูแลผู้สูงอายุ แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ไม่สนใจ ไม่มีสินค้านั้นในตลาด
ธุรกิจปรับวิธีคิดคือ ห่วงโซ่การผลิตแบบย้อนกลับ RE-Commerce สร้างคุณค่าสิ่งของที่เคยซื้อให้กลับมามีประโยชน์อีกครั้ง
3
* Kindness Keeper ผู้รักษาความเอื้ออารีทำหน้าที่รักษาสมดุล
ซื้อผลิตภัณท์ที่ เน้นความเห็นอกเห็นใจ เสมอภาค ความเท่าเทียม เน้นความปลอดภัยของโลก สร้างความยั่งยืน แก้ปัญหาด้านสังคมและ สิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน
* Cyber Cynics เชื่อมั่นบริษัทที่ปกป้องข้อมูลบุคคลลูกค้า
เน้นการเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภค ให้ความสำคัญด้านจริยธรรม การเข้าถึงข้อมูลที่โปร่งใส ทุกเรื่องอธิบายได้อย่างมีเหตุผล สร้างความไว้ใจ รวมทั้ง Influrencer ต้องโปร่งใสทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน
Youtube เปลี่ยนจากเอนเตอร์เทน มาเป็น Ecommerce Hub
เทรนด์อื่นที่น่าสนใจในปีหน้า
* Home Economy บ้านคือทุกสิ่ง
มิลเลนเนียลใช้เวลา 70% ในบ้าน การปรุงอาหารเอง การDIY สปาด้วยตัวเอง การออกกำลังกายในบ้าน จัดสรรพื้นที่ประชุมออนไลน์ House Party หาหมอ
....ปรัชญาการอยู่บ้าน..วิถี นิกเซน (Niksen) การใช้เวลาไปกับการไม่คิดอะไรเลย รับความน่าเบื่อเป็นความสุขในชีวิตทุกเวลา ...ฮุกกะhygge= มีความสุขได้ทุกเวลา
....คุ้นเคยกับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เช่น ส่งอาหารเดลิเวอรี่ เชื่อมต่อกับคนอื่นบนออนไลน์ Work from Home พัฒนาตนเอง เลือกที่จะเฉลิมฉลองให้กับความสุขเล็กๆน้อยๆ จัดสรรให้พื้นที่บ้านเป็นพื้นที่ความสุข เอากิจกรรมที่เคยทำนอกบ้านมาทำในบ้าน เน้นความสะดวกสบาย เป็นพื้นที่บำรุงจิตใจ
1
* Intergeneration ช่องว่างระหว่างเจเนอเรชั่น
การอยู่ร่วมกันของคนหลากหลายเจเนอเรชันในหลังคาเดียวกัน การท่องเที่ยวแบบ Multigenerational travel เพราะมีความคิดเห็น การใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดความขัดแย้ง เกิดทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างวัย เป็นการโอนแนวคิดการใช้ชีวิตร่วมกันของคนต่างวัย พร้อมเรียนรู้ปรับตัว ผสมผสาน เข้ากับความท้าทายในยุคปัจจุบัน เป็น New Generation เกิดการหล่อหลอมเจเนเรชั่น ปรับตัวให้เข้าใจกันและกัน อายุกลายเป็นเพียงตัวเลข
ใช้มือถือแทนบัตรเข้าประตูห้องในโรงแรม
* Holistic Beauty งามทั้งกายใจ อนาคตใหม่ของการดูแลตัวเอง
หรือ self-care movement ลองสินค้าเหมือนจริง เอาAI มาช่วย (Virtual Beauty Assistants) อ่านรีวิวก่อนซื้อ เป็นปัจจัยให้เกิดความต้องการสินค้าที่เป็นตัวจริง และ โปร่งใส การปรับแต่งร้านให้เหมือนบ้าน มีLiveChat ตอบคำถาม24ชั่วโมง เน้นประสบการณ์ ความรู้ และ ความงามเฉพาะบุคคล
กระเป๋าป้องกันแบคทีเรีย
* Post-Romance ความรักเอย ไม่เหมือนที่เคยคุ้น
#relationshipgoals เกิดคู่รักต้นแบบที่อยากให้คนอื่นเดินตาม หรือ คนเลือกเป็นโสดมากขึ้น
ความรักมีบทบาทสำคัญ ความสัมพัธ์ของคู่รักมีอิทธิพลมากขึ้น คนใส่ใจและเลือกคู่ที่ใกล้เคียงตัวเองมากขึ้น แอปเลือกคู่มามีบทบาท และเนื่องจากต้องการตัวเลือกมาก จนบางครั้งอาจคิดว่าเป็นเกม จนไม่รับรู้เรื่องความรู้สึก ยอมรับความไม่รักเดียวใจเดียว Polyamory เป็นเรื่องปกติ
* Flexible Work Culture ยืนหยัดด้วยความยืดหยุ่น
Work life balance เจเนอเรชันมิลเลนเนียลและ Z มองหาที่ทำงานที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น และยืดหยุ่นเพื่อหาเงินได้มากขึ้น ขณะที่การ work from home ได้รับความนิยมมากขึ้นจนหลายบริษัทใหญ่ของโลก ประกาศ WFH ตลอดไปหรือในระยะยาว เพราะพนักงานผ่อนคลายขึ้นและเสี่ยงออฟฟิศซินโดรมน้อยลง อาจมีออฟฟิศโลกเสมือนหรือประชุมด้วย Avatar
* Post New World Order ระเบียบโลกใหม่
ระเบียบโลกใหม่เกิดขึ้นมาให้เราได้เห็น จีนก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจต่อกรกับสหรัฐอเมริกา
* System Thinking ยุคแห่งระบบ
แนววิธีคิดทุกอย่างอย่างเป็นระบบ โดยธุรกิจจะอยู่รอดในทศวรรษนี้ ต้องการผสมผสานระหว่างการคิดเชิงออกแบบ (design thinking) และการคิดเชิงระบบ (systems thinking) มองเห็นปัญหาในภาพรวม
สินค้าที่คิดเพื่อผู้ใช้งานทุกคน ไม่ว่าจะคนชรา หรือคนพิการ ความหลากหลายเป็นที่ตั้ง เป็นปีที่การเรียกร้องสิทธิเพื่อความเท่าเทียมดุเดือดมากขึ้น ทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรม สัญชาติ การเมือง การออกแบบสินค้า ต้องคำนึงถึงความหลากหลายในฐานะคนกลุ่มใหญ่
* Neighborhood Dialogue กันและกัน
มีอาสาสมัคร ทำพื้นที่ส่วนกลาง ออกแบบคู่มือในการทำสิ่งต่างๆให้เอาไปทำเองที่บ้านได้ คอมมูนิตี้มีความสำคัญ
เกิดศัพท์ใหม่ ‘slow lifer’ ออฟฟิศชานเมือง ผลจากการ work from home ทำให้คนในเมืองกระจายตัวสู่นอกเมืองมากขึ้น หนุ่มสาวที่อยู่ในเมืองมานาน กลับมาสนใจความหมายของพื้นที่ ถิ่นที่อยู่อาศัยของตัวเองกันมากขึ้น และเริ่มรู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ และ ใช้ชีวิตกับธรรมชาติ และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
Visual คอนเสริ์ตในเกม มี12ล้านวิว
The new deep - rooted อยู่รอดด้วยความเป็นท้องถิ่น
ให้ความสำคัญต่อผู้ผลิต นักออกแบบ ในระดับท้องถิ่นมากขึ้น และเชื่อมั่นในผู้ประกอบการที่ผันตัวจากพลเมืองโลกสู่พลเมืองท้องถิ่น การออกแบบที่เน้นต้นไม้และพืชพรรณเป็นหลัก เทรนด์การออกแบบเพื่อช่วยเหลือท้องถิ่นได้รับความนิยมมากขึ้น
Visual decorate ห้อง เหมือนจริง
* DATANOMICS 
โลกแห่งเศรษฐกิจข้อมูล ข้อมูลยิ่งมหาศาลมากขึ้น และจะล้ำค่ามากยิ่งขึ้น กลายเป็นเศรษฐกิจใหม่ขนาดใหญ่ นำมาสู่การจัดระเบียบขนานใหญ่ของโลก อย่างไรก็ตาม หลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ เตรียมจัดสรรบิ๊กดาต้าของตัวเองเพื่อใช้ประโยชน์หลังการระบาด COVID-19 จบลง จะส่งเสริมเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมทั้งระบบการสื่อสาร 5G และความมั่นคงทางไซเบอร์เต็มรูปแบบ เพื่อให้เป็นรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล Korean New Deal และสร้างงานให้คนรุ่นใหม่อย่างมั่นคง
....อีก 18 เดือน จะไม่มีระบบCookies แล้ว (เดิมใช้เก็บข้อมูล เวลายิงAD ก็ยิงตามcookies แต่ กฎหมาย PDPA มาปกป้องสิทธิส่วนบุคคล ทำให้องค์กรต้องหาวิธีการเก็บข้อมูลผู้บริโภคเอง)
...ต้องมีการจัดระเบียบข้อมูลที่ได้มา ว่าเอามาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง..(วิเคราะพห์พฤติกรรม Intenet pf behavior IOB) หรือ หาองค์กรกลางมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
* Sensorial Selling
การระบาดใหญ่ทำให้เกิดการจัดระเบียบการออกนอกบ้าน เพราะมันกลายเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม เทคโนโลยีเสมือนจริงต่างๆ จึงถูกนำมาทดแทนความรู้สึกมนุษย์ ทั้งในธุรกิจเกม ธุรกิจบันเทิง รวมถึงค้าปลีก เช่น การสวม VR ช็อปปิ้งจากบ้าน (Visual Mix Reality โลกอินเตอร์เน็ตกับโลกจริงปนอยู่ด้วยกัน เช่น คอนเสริ์ตที่ชมในเกม ยอดชม12ล้านวิว) สวม VR แล้ว Decorate ห้องแบบ Real-time หรือ หลุยส์วิคตอง ให้ลองแว่นเสมือนจริงตอน Livestream เพื่อเติมเต็มความรู้สึกผู้บริโภค
....การเอา Digital skill มาใช้กับผู้เชี่ยวชาญมากขึ้น เช่น จำลองเกมให้ฝึกตรวจคนไข้เหมือนจริง
* New Age of Retail Partnerships
อินเทอร์เน็ตบูม ทำให้หลายปีก่อนผู้บริโภคเริ่มตัดสินซื้อสินค้าจากข้อมูลบนโลกออนไลน์ และมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงตามอินฟลูเอนเซอร์ในแต่ละสังคม แต่สำหรับ ค.ศ.2021 เป็นการเดินทางมาถึงของยุค post-consumer รายงาน Trust Barometer ปี ค.ศ.2020 โดย Edelman บอกว่า การเข้าถึงความจริงจากข้อมูลบนสื่อโซเชียล 50% ของผู้บริโภคหันหน้าหนีธุรกิจที่มีนโยบายเพื่อสังคม แต่สนใจผู้ผลิตที่ทำให้เห็นจริงๆ ใส่ใจเรื่องคุณค่าสินค้ามากกว่ากำไร  ดึงคนเข้ามาที่แฟลตฟอร์มของตนมากสุดก่อนแล้วค่อยหาทางทำเงินทีหลัง พยายามมีหลากหลายสินค้า ทำPersonalization ให้ตรงใจผู้บริโภคจริง
* To Last a Lifetime
การผลิตอาจหลีกเลี่ยงพลาสติกไม่ได้ แต่หลายแบรนด์เรียนรู้ที่จะนำมารีไซเคิลการผลิตใหม่แบบ 100% และผู้บริโภคก็ให้คุณค่าต่อค่านิยมนี้ เกิดค่านิยมใหม่ บนจุดเด่นของสินค้าจากวัสดุรีไซเคิล ที่มีความไม่สมบูรณ์แบบของเนื้อสี เพราะเน้นสีที่ได้จากการรีไซเคิลโดยหลักการ Circular แบบครบวงจร
เพิ่มการพัฒนาตัวเองวันละนิด
เหมือนเติมวันละ 1 องศา
1 วัน อาจจะไม่มีอะไร
10 วันไม่มีความต่าง
แต่ 100 วันล่ะ 1000 วันล่ะ
จะเปลี่ยนแปลงไปโดยแทบไม่เห็นร่องรอยเดิม
มาร่วมกันหา1องศา เพื่อเติมเต็มวงล้อชีวิตให้สมบูรณ์ไปกับเพจ #องศาที่หายไป
👍🏻เลื่อนนิ้วโป้งกด Like กด Share ให้จูลสักนิด..เพื่อชีวิตที่มีกำลังใจให้จูลนะคะ..ขอบคุณค่ะ
⭐️ติดตามที่ Blockdit
❤️ติดตามที่ Youtube
💙ติดตามที่ Facebook
โฆษณา