28 ธ.ค. 2020 เวลา 12:16 • กีฬา
#บอลไทยAddictThought
สิ้นเสียงนกหวีดยาวในที่สนามสมุทรปราการ สเตเดี้ยม ในเกมที่ทัพ “เขี้ยวสมุทร” บดเอาชนะการท่าเรือไทยเอฟซี ไปอย่างมันด้วยประตู 6-3
แน่นอนว่าใครจะคิดว่าสมุทรปราการซิตี้จะกลับมามีฟอร์มที่ “สะเด่า” ถึงเพียงนี้ เพราะหากย้อนดู ผลการแข่งขัน 4 เกมแรกก่อนจะหยุดไปเพราะโควิท 19 พวกเขายังไม่เจอกับชัยชนะ ซ้ำยังจมอยู่ท้ายตาราง โดยมีเพียงแค่ 1 แต้มเท่านั้น
ในช่วงเบรคโควิท ถ้าเป็นทีมใหญ่บางทีมอาจเลือกปลดโค้ช หรือเสริมตัวผู้เล่นใหม่ๆเข้ามากับทีม
แต่ว่า การที่สมุทรปราการ ซิตี้ เลือกที่จะให้เกียรติและรอเวลาเมื่อทุกอย่างมันลงตัว เมื่อกลับมาจากโควิทหลังจากนั้น ผลการแข่งขันของพวกเขาคือ ลงเล่น 12 เกม ชนะ 7 เสมอ 3 แพ้ 2 พุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 6 หลังจบปี 2020
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความดีความชอบนี้ ควรต้องตกไปอยู่กับอดีตโค้ชผู้พา คาชิม่า แอนท์เลอร์ส คว้าดับเบิ้ลแชมป์เจลีกและฟุตบอลเอมเพอเรอร์คัพ รวมถึงคนที่พา คาชิม่า แอนท์เลอร์ส "เกือบ" สอย เรอัล มาดริด ในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก รอบชิงชนะเลิศ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว อย่าง “มาซาทาดะ อิชิอิ”
จากที่ 4 นัดแรก พวกเขามีดีแค่รูปเกม มีแผนการเล่นที่ดีแต่การที่ไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยทำให้อิชิอิจำต้องปรับและเปลี่ยนแผนการการเล่นต่างๆให้เหมาะสมกับทีมมากที่สุด ทั้งการเล่นเป็นทีมตามแบบฉบับของทีมในญี่ปุ่น
จนในที่สุดทัพ “เขี้ยวสมุทร” ของอิชิอิก็ได้ปรับเปลี่ยนกลับมาใช้แผนการเล่นมาตราฐานอย่าง 4-4-2 ที่เป็นแผนเก่งสมัยที่อิชิอินำ “แกะเขาเหล็ก” ผงาดอยู่ในเวทีเจลีก ซึ่งในปัจจุบันหลายๆทีมเลือกที่จะไม่ใช้แผนการนี้แล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า กองกลาง 2 คนนั้น อาจจะน้อยเกินไปและใช้พละกำลังมากไปในการเล่นทั้งเกมรับและเกมรุก ซึ่ง ณ ปัจจุบัน หลายๆทีมมักจะใข้เลือกใช้กองกลาง 3 คนเพื่อที่จะแยกไปเลยว่าใครจะเป็นตัวรับหรือตัวรุก
และ ถ้าพูดถึงความฟิต หรือพละกำลังที่หลายคนสงสัย หากใครได้ดูสมุทรปราการ ซิตี้เล่น จะเห็นได้ว่าพวกเขาวิ่งกันเหมือนมี 3 ปอด แต่แท้จริงแล้วนั้นกุญแจสำคัญอีกอย่างเรื่องความฟิตก็คือตัวของ “อิชิอิ” เอง เพราะก่อนที่เขาจะทำหน้าที่เป็นกุนซือใหญ่ของทีม เขาเป็นหัวหน้าโค้ชฟิตเนสมาก่อน นั้นทำให้ทีมของเค้าฟิตกันเหลือเกิน
ผ่านไปครึ่งทางและอีก 1 เกม ของเลก 2 สำหรับไทยลีก1 ฤดูกาล 2020 ก็ต้องมารอดูกันต่อว่า ผลงานของกุนซือชาวซามูไรมาดเนี้ยบคนนี้ จะเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าแฟนบอลทุกคนต่างมองเห็นเหมือนกันแล้วว่าเขาคนนี้ “ของจริง” อย่างแน่นอน
โฆษณา