ในช่วงสิ้นปี ผมจะให้เวลากับตัวเองทบทวนเป้าหมายในปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าหมายสำหรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ปีนี้ก็เช่นกัน ...
โดยในแต่ละปี ผมจะแบ่งเป้าหมายชีวิตเป็น 6 มิติ ไม่มุ่งเน้นด้านในด้านหนึ่ง ด้วยเชื่อว่า คนที่จะประสบความสำเร็จ มีความสุขในชีวิต ควรต้องมีความสมบูรณ์ในทั้ง 6 มิติต่อไปนี้ อย่างครบถ้วน
1. ด้านสุขภาพ
โดยส่วนตัวผมให้เป้าหมายด้านนี้สำคัญเป็นอันดับที่ 1 สมัยที่ยังหนุ่มแน่น ผมมักจะมองข้ามมิตินี้ของชีวิตไป จนมาถึงวันนี้ วันที่ชีวิตเข้าใกล้เลข 50 เข้าไปเรื่อยๆ ผมถึงได้เห็นความจริงว่า ...
"สุขภาพของเรานี่แหละ! คือ ทรัพย์สินที่สำคัญที่สุด" หรือ The First Wealth is Health.
เพราะหากสุขภาพเสียหายไป หรือไม่สมบูรณ์ ความตั้งใจที่เหลือก็เป็นเพียงแค่ความคิด ที่ไม่มีทางเป็นจริงได้
ตัวผมเองเคยบ้ากับการหาเงิน อยากรวยเป็นร้อยล้านพันล้าน สุดท้ายมาเข้าใจชีวิตตอนนอนป่วยเป็นภูมิแพ้อยู่โรงพยาบาล โดนคุณหมอแซวว่า "หาเงินกันจัง สุดท้ายก็ต้องเอามาให้ผมอยู่ดี" 555
สำหรับเป้าหมายในด้านสุขภาพนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรใหญ่โต จำได้ว่าครั้งแรกที่ผมตั้งเป้าหมายสุขภาพ (ตอนนั้นปี 2004) 3 ข้อ คือ
1.1 นอนพักผ่อนให้ได้ 7 ชั่วโมงต่อวัน
1.2 ลดการทานของหวาน เพื่อลดค่านำ้ตาลในเลือด ให้มีค่าตามเกณฑ์ (สมัยนั้นกาแฟเย็นวันละ 2 แก้ว เลยหันมาทานกาแฟดำเอา ลดขนมหวาน ลดทานหลัง 6 โมงเย็น)
1.3 วิ่งให้ได้ทั้งปี 120 วัน (อันนี้ผมทำเช็คลิสต์ จดวันเวลาวิ่ง และระยะทางไว้ทั้งหมดด้วย)
เรื่องไม่ต้องใหญ่โตถึงขั้นเปลี่ยนโลกหรอก แค่เปลี่ยนนิสัยตัวเองได้ คุณภาพชีวิตก็ดีขึ้นแล้ว
2. ด้านครอบครัว
ข้อนี้ผมว่ามันคือ น้ำทิพย์หล่อเลี้ยงจิตใจเรานะ ร่างกายเราดีแล้ว ถ้าความสัมพันธ์กับคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่พี่น้อง คู่ชีวิต (หรือแฟน) ดีด้วย อันนี้ก็จะยิ่งยอดเยี่ยมเลย
ในปีแรกผมตั้งเป้าหมายง่ายๆ ในด้านความสัมพันธ์อย่างง่ายๆ ว่า ...
2.1 ทานข้าวกับพ่อแม่เดือนละ 1 ครั้ง (เราอยู่คนละบ้านกัน เวลาไปมาหาสู่น้อย ได้แต่คุยโทรศัพพ์ เลยคิดว่า แม้งานจะยุ่งแค่ไหน ก็อยากกลับไปกินข้าวกับแม่ เดือนละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย)
2.2 พาแฟนเที่ยวต่างประเทศปีละ 1 ครั้ง ในประเทศเดือนละ 1 ครั้ง (จากแต่เดิมทำงานเต็มเวลาไปหมด ขึ้นปีใหม่ ครอบครัวผมจะกำหนดเวลาเลยว่าจะไปเที่ยวช่วงไหน วันที่เท่าไหร่ ลงเวลาเที่ยวไปก่อนเลย แล้วค่อยลงเวลางาน)
พอเริ่มมีลูก ก็เริ่มปรับเป้าหมายเป็น "เล่นฟุตบอลกับลูกสัปดาห์ละ 1 ครั้ง" และอื่นๆ (ปกติผมอยู่บ้าน Home School ลูกทุกวันอยู่แล้ว)
เรื่องความสัมพันธ์อาจจะวัดผลสำเร็จเป็นสิ่งจับต้องไม่ได้ แต่รับประกันว่าให้ความสุขทางใจที่ยอดเยี่ยมมาก ยังไงลองตั้งกันดูครับ
3. ด้านการงาน
ตั้งใจอยากจะยกระดับศักยภาพตัวเองด้านไหน ลองเลยครับ เป้าหมายในมิตินี้แต่ละคนไม่เหมือนกัน
บางคนอาจอยากลองทำงานที่ไม่เคยทำ หรือแต่ก่อนทำไม่ได้ไม่สำเร็จ หรือไม่ก็อาจคิดขึ้นมาใหม่เลย อย่างเช่น การสร้างอาชีพที่ 2 หรือ 3
ตอนเริ่มต้นตั้งเป้าหมายในปี 2004 ผมทำงานประจำควบคู่ไปกับการทดลองเป็นที่ปรึกษาโรงงาน (ทำฟรีแลนซ์) และเริ่มทำธุรกิจฝึกอบรม
ผมเชื่อว่าคนเรามีศักยภาพในตัวสูง ทำพร้อมๆ กันได้หลายอย่าง เป็นมนุษย์ไม่ใช่แค่ 100% แต่เราเป็นมนุษย์ 200% 300% ได้สบาย ลองทำแบบค่อยเป็นค่อยไปครับ แต่ให้เริ่มด้วยลองตั้งเป้าหมายที่จะทำอะไรใหม่ๆ ดู
4. การเงิน
ข้อนี้หลายคนคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายการเงินเชิงแก้ไข เช่น ลดหนี้ ปิดหนี้บัตรเครดิต หรือเริ่มเก็บออมเงิน
หรือบางคนอาจจะเป็นเป้าหมายเชิงบวก เช่น ลงทุนให้พอร์ตโตไปถึงเท่าไหร่ หรือมีบ้านเช่าหลังแรก มี Passive Income จากการเป็น Youtuber (แบบนี้เป็นเป้าหมายแบบข้อ 3 ควบข้อ 4 เลย คือ สร้างงานใหม่ และได้เป้าหมายการเงินไปด้วย)
เป้าหมายการเงินแบบไหนที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น ทำให้การเงินตัวเราดีขึ้น ตั้งไปเลยครับ แล้วเริ่มตั้งใจทำมันให้สำเร็จ
5. การพัฒนาตัวเอง
ข้อนี้ง่ายมาก อะไรที่เล็งไว้ว่า "อยากเรียน" หรือ "อยากรู้" เรียนเลย เช่น อยากเก่งภาษาอังกฤษ ก็หาคอร์สเรียนเลย อยากทำอาหารเป็น ก็อย่ารอ หาเชฟเก่งๆ แล้วก็ไปเรียนด้วยเลย อะไรก็ได้ที่จะทำให้คุณพัฒนาขึ้น
ผมเองเคยตั้งเป้าหมายว่า จะบรรยายการเงินเป็นภาษาอังกฤษ ก็เลยฝึกเอาเนื้อหาที่เขียนในหนังสือภาษาไทยของตัวเอง เริ่มมาทำเป็นสไลด์ภาษาอังกฤษ แล้วก็ได้ผลนะ เพราะมีบริษัทต่างประเทศที่มาทำงานในไทยจ้างไปบรรยาย ก็สนุกดีครับ
เวลาเราได้ทำอะไรเพื่อให้ตัวเราดีขึ้น มันช่วยสร้างทั้งความมั่นใจและความภูมิใจในตัวเอง และที่สำคัญ ได้เปิดโลกและโอกาสใหม่ๆ ให้กับเราด้วย
ว่าแล้วอยากเรียน อยากรู้ อยากลองอะไร ... ทำเลยครับ!
6. การแบ่งปัน
ด้านนี้ไม่ต้องเป็นอะไรใหญ่โต หรือแบ่งปันเป็นตัวเงินก็ได้นะครับ เป็นความช่วยเหลือ หรือกิจกรรมดีๆ ก็ได้ทั้งนั้น
ในหัวข้อนี้ผมเคยตั้งเป้าหมาย อ่านหนังสือเสียงให้ผู้พิการทางสายตา 10 เรื่องใน 1 ปี จัดสัมมนามอบรายได้ให้องค์กรการกุศล หรืออาจตั้งเป็นร่วมกับเพื่อนๆ จัดเลี้ยงอาหารให้บ้านเด็กอ่อน 2 ครั้ง หรืออะไรก็ได้ครับที่เป็นการให้ผู้อื่นบ้าง
ผมเชื่อเสมอว่า คนเรา "รวยไม่ได้ ถ้าให้ไม่เป็น" ความรู้สึกว่า เราปันได้ เราแบ่งให้คนอื่นได้บ้าง ช่วยเติมเต็มจิตวิญญาณของเราให้มีพลัง พร้อมที่จะทำอะไรดีๆ กับตัวเองต่อไปได้
ดังนั้นแนะนำครับ ว่าในเป้าหมายปี 2021 เราควรมีเป้าหมายเรื่องการแบ่งปันรวมอยู่ด้วยชนิดขาดไม่ได้เลย
เป้าหมายชีวิต 6 มิติ หรือ ความมั่งคั่ง 6 มิติ
ถึงตรงนี้ อยากให้ทุกท่านลองลิสต์เป้าหมาย 6 มิติของตัวเองดูครับ จะมิติละ 1 ข้อ หรือบางมิติจะ 2 ข้อ ก็ไม่มีอะไรผิดกติกา
สำคัญ ก็คือ เมื่อตั้งแล้ว ต้องพยายามตั้งให้เป้าหมายให้เป็นรูปธรรม หรือตั้งเป้าหมายเป็นการลงมือทำ เช่น แทนที่จะตั้งเป้าหมายว่า ปีหน้าจะเก่งอังกฤษมากขึ้น (ซึ่งวัดผลไม่ได้) เราอาจตั้งเป้าเป็น จะลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษช่วงวันเสาร์ทุกสัปดาห์ ตลอดทั้งปี เขียนบทความภาษาอังกฤษ สัปดาห์ละ 1 บทความ
หรือถ้าหากจะตั้งเป้าหมายว่า จะออกกำลังกายสม่ำเสมอ (อันนี้ก็วัดไม่ได้) ก็ตั้งไปเลยว่า จะวิ่ง 100 วัน วันละ 5 กิโลเมตร ในปีหน้า พร้อมทำเช็คลิสต์คอยบันทึกการวิ่งไปด้วย จะได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
ก็ลองเอาไปประยุกต์กันดูนะครับ ผมเองตั้งเป้าหมายเล็กๆ 6 มิติแบบนี้ มาตั้งแต่ปี 2004 ได้ผลลัพธ์ที่ดี ชีวิตในระหว่างปีมีเป้าหมาย จบปีเราบรรลุเป้าหมาย ชีวิตเราดีขึ้นทั้งทางกาย ทางใจ และทรัพย์สิน มีประโยชน์มากๆ ครับ
ว่าแล้วลองหาที่เงียบๆ นั่งคุยกับตัวเอง ถึงเป้าหมาย 6 มิติในปีหน้ากันนะครับ
#คุยเรื่องการเงินกับโค้ชหนุ่ม
ติดตามกันเป็นประจำนะครับ จะหยิบเรื่องการเงินดีๆ มาคุยกับทุกท่านครับ
- 134
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
