⭐ความงดงามแห่งศาสตร์และศิลป์ของ "ปรมาจารย์ลัทธิมาร"⭐
.
.
เมื่อนับเวลาดีๆ จากวันที่ซีรี่ย์ปรมาจารย์ออนแอร์จนถึงวันนี้ ก็ปีกว่าๆ แล้วเน๊อะ 😊
และ...ไม่เคย move on จ้า ดูทุกวี่ทุกวัน ฮ่ะๆๆๆ
ขนาดเหล่านักแสดง ผู้กำกับ ทีมงาน และ อ.หลินไห่ (ผู้แต่งเพลง wuji เพลงชาติกูซู) ยังไม่ move on เลย เราจะ move on ทำไมเล่า 😂
(เลยอยากเขียนบอกเล่าเรื่องราวต่างๆไว้ กลัวว่าเวลาผ่านไปจะลืมโมเมนต์และเรื่องราวดีๆ เวลาคิดถึงก็จะได้วกกลับมาอ่านได้)
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับ ปรมาจารย์ลัทธิมารอีกครั้ง ที่นอกจากจะเป็นซีรีส์ที่ทำให้ Tencent เติบโตถึง 250% จากซีรี่ส์เรื่องนี้แค่เรื่องเดียวแล้ว
จนถึงปัจจุบันยังมียอดการรับชมใน แอพ Tencent มากกว่า 8 พันล้านครั้ง ไม่นับรวม WeTV ของประเทศต่าง ๆ ด้วยนะ (ตัวเลขนี้เป็นข้อมูลวันที่ 20 พ.ค. 2563)
ทั้งยังกอบโกยรางวัลในสาขาต่างๆ มามากมาย ทั้งในปี 2019-2020
ล่าสุด 25 ธ.ค. 2563 ซีรี่ย์ปรมาจารย์ลัทธิมาร ได้รับรางวัล BEST WUXIA DRAMA จาก WETV 2020 Awards
และ 28 ธ.ค. 2563 เซียวจ้าน ได้รับรางวัล BEST MALE LEAD จาก WETV 2020 Awards
(ตำแหน่งอาจไม่ทนทาน แต่ตำนานนั้นยั่งยืนจริงๆค่ะ 😊 อวยๆ)
BEST WUXIA DRAMA จาก WETV 2020 Awards
BEST MALE LEAD by WETV 2020 Awards
⭐ความงดงามแห่งศาสตร์และศิลป์ของ "ปรมาจารย์ลัทธิมาร"⭐
1. ความงามของบทละคร
อย่างที่รู้ๆกันว่าซีรี่ย์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายวาย (นิยายชายรักชาย)
ใช้เวลาดัดแปลงบทเกือบ 2 ปีเลยกว่าจะผ่าน ทั้งผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลจีน และผ่านการเห็นชอบบทดัดแปลงจากแม่โม่ (หรือคุณโม่เซียงถงซิ่ว เจ้าของผู้ประพันธ์นิยายเรื่องนี้) จากแนวนิยายเดิมที่เป็นแนวคู่รักแซ่บถึงพริกถึงขิง(อ่านเล่ม 5 เเล้วจะรู้กัน 😍) มาเป็นบทแนวมิตรภาพแน่นแฟ้น แบบฉบับลูกผู้ชายที่เพียงมองตาก็รู้ใจ
บทที่ดัดแปลงนั้น มีความงดงามของความสัมพันธ์ในด้านต่าง เช่น
- ความรักของพี่น้อง : ทั้ง 3 พี่น้องตระกูลเจียง, 2 พี่น้องตระหลาน ซีเฉิน วั่งจี , 2 พี่น้องตระกูลเวิน เวินหนิง เวินฉิง , 2 พี่น้องตระกูลเนี่ย หมิงเจี๋ย หวายซัง ฯ
- สายสัมพันธ์ในครอบครัวของแต่ละตระกูล
- มิตรภาพที่เป็นรักแท้แบบไม่มีอะไรกั้นของเว่ยอิงและหลานจ้าน ที่ต่างคนต่างเชื่อในความดีซึ่งกันและกัน โดยยึดถือคุณธรรมเป็นหลักและไม่ทรยศต่อตนเอง
- การยกตัวละครทุกตัวให้มีบทเด่น มีเหตุและผลของการกระทำ ไม่มีการกระทำของตัวละครตัวไหนไร้เหตุผล ทุกคนมีบทบาทความสำคัญที่จะเชื่อมโยงถ่ายทอดไปถึงเหตุการณ์ต่างๆในเรื่อง
(โดยส่วนตัวชอบบทดัดแปลงของฉบับซีรี่ย์ค่ะ มันงดงามไร้ที่ติ ไม่ต้องขายฉากวาบหวิว หรือ love sceen ใดๆเลย แต่กลับรู้สึกได้ถึงความรัก ความห่วงใยของตัวละครที่ถ่ายทอดแก่กันเต็มไปหมด)
2.ศิลปะแห่งการสื่อสาร
การถ่ายทอดในซีนต่าง ๆ ของผู้กำกับ การแสดงออกทางสีหน้า ท่าทางและแววตาของตัวละครอยู่ในขั้นละเมียด กลมกลืน เป็นศิลปะการนำเสนอที่หลีกเลี่ยงความ Y ไปอย่างงดงามลื่นไหล แปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพความรักระหว่างสหาย
เล่นแร่แปรธาตุจาก Y กลายเป็นความสัมพันธ์ละมุนละม่อมจนเราเผลอยิ้มตามให้กับมิตรภาพ เป็นการใช้ภาษากายที่สุภาพและสื่อความหมายทางอ้อมได้อย่างไม่ขัดสายตา
ซ่อนโมเมนต์หวานๆ น่ารักๆ ซ่อนความหมายแฝงไว้อย่างมากมาย โดยใช้หลักความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรมของจีนโบราณในเชิงสัญลักษณ์ แบบให้คนดูเดาทางและตีความหมายแบบจิ้นๆ กันเอาเอง เช่น หลานจ้านจับไก่ให้เว่ยอิงกับความเชื่อของชาวจีน การที่หลานจ้านปล่อยผมต่อหน้าเว่ยอิง เป็นต้น
3. ศิลปะของการเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรม
ศิลปะวัฒนธรรมของจีนถูกเผยแพร่สู่สายตาชาวโลกในรูปแบบของเครื่องเเต่งกาย การตกแต่งสถานที่ ของข้าวเครื่องใช้ต่างๆ อาวุธกระบี่ และเครื่องดนตรีคือ กู่ฉิน 7 สายและขลุ่ย
4. ความงดงามของอุปกรณ์ประกอบฉาก
งานฝีมือต่าง ๆ ที่ปราะกฎอยู่ในซีรีส์เรื่องนี้ไม่มีจุดไหนที่ปล่อยผ่าน แม้แต่จุดที่เราไม่น่าจะสังเกตเห็น ยิ่งพอได้เห็นกับตาว่าแต่ละชิ้นงานที่ทำออกมามากกว่า 50% ล้วนทำด้วยมือ บวกกับ CG อลังการ เนียนตา ก็รู้สึกว่าคุ้มค่าทุกนาทีที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้
ซีรี่ย์เรื่องนี้ได้รับงบการผลิตน้อยน่ะ แต่กลับสร้างซีรี่ย์เหมือนซีรีย์ฟอร์มยักษ์ที่ละเอียดละออ คุ้มค่าคุ้มทุนทุกอย่างจริงๆ
5. การลงลึกของเพลงประกอบ
เพลงประกอบภาพยนตร์ เพลงประกอบละครต่าง ๆ แน่นอนว่าจะบอกเล่าเรื่องราวนั้น ๆ ให้ครอบคลุมเนื้อเรื่อง หรือ เจาะเข้าไปกลางใจของตัวแสดงเอก แต่ปรมาจารย์ลัทธิมารทำให้เพลงประกอบมีความหมายลึกซึ้งมากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากจะมีเพลง อู๋จี ที่เป็น Theme Song ของเรื่องแล้ว
ยังแยกย่อยเป็นเพลง Character Song อธิบายความรู้สึกภายในใจของตัวแสดงหลักทุกตัวเอาไว้อีกด้วย เรียกว่าดูซีรีส์จบแล้ว มาฟังเพลง แปลความหมายก็จะทำให้เราเข้าใจบริบทต่าง ๆ ของตัวละครได้มากขึ้นไปอีก
6. การต่อยอดที่ไม่ยอมให้มูฟออน
ตอนนี้สร้างภาคแยกออกมาเป็นรูปแบบภาพยนตร์ 2 ภาค คือ
- ภาคลมหายใจขุนพลผี (The living dead) เล่าเรื่องราวการผจญภัยของ เวินหนิง (อวี๋ปิน 于斌) ขุนพลผีคู่กาย เว่ยอิง และ หลานซือจุย (เจิ้งฝานซิง 郑繁星 ) หรือ อาเยวี่ยน
- ภาควิญญาณอาฆาตแห่งชิงเหอ (Fatal Journey) เล่าเรื่องราวของสองพี่น้องตระกูลเนี่ย เนี่ยหมิงเจวี๋ย (หวังอี้โจว 王翌舟) และ เนี่ยหวายซัง (จี้หลี 纪李)
ซึ่งทั้ง 2 ภาคแยก สนุกตื่นเต้นและซึ้งจนน้ำตาไหลไม่แพ้เรื่องหลักเลย ทั้งยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อของเรื่องหลักได้อีกด้วย เพื่อนท่านใดยังไม่ดู ต้องดูให้ได้นะคะ สนุกมาก (ดูได้ที่แอป wetv, iqiyi)
7. ความงดงามของตัวละคร
คงไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าตัวละครเรื่องนี้งดงามทุกคนจริงๆ ทั้งตัวละครหลัก และตัวละครอื่นๆ ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้าย ทุกตัวละครมีบทบาทสำคัญที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้น่าติดตามและสนุกแฝงแง่คิดมากมาย (ซึ่งจะแกะรายละเอียดในข้อหัวต่อไปค่ะ)
ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบค่ะ
หากถูกใจฝากกดติดตามเป็นกำลังใจด้วยนะคะ
พบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
By MAH.
- 8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
